วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศีลพุทธ (ประดุจสะพาน ของทานกับภาวนา) ศีลนั้น ปานบึงใหญ่ภูเขาใหญ่ ต้นน้ำ เป็นที่ตกประจำ ของมหาเมฆฝน ศีล จึงขาดไม่ได้ เป็นเบื้องต้น ไหลล้น..ลงมา เป็นธารา หล่อเลี้ยง

 ศีลพุทธ
(ประดุจสะพาน ของทานกับภาวนา)

ศีลนั้น ปานบึงใหญ่ภูเขาใหญ่ ต้นน้ำ
เป็นที่ตกประจำ ของมหาเมฆฝน
 ศีล จึงขาดไม่ได้ เป็นเบื้องต้น
ไหลล้น..ลงมา เป็นธารา หล่อเลี้ยง

ไม่ทำทาน ปานแม่น้ำหยุดไหล
ถูกกั้นไว้ ไม่ให้ไหลไป ทางต่ำ
น้ำขังไม่ได้ ต้องหาทางไป วันยังค่ำ
เหมือนกันล้ำ กับตระหนี่ ทรัพย์หนีแน่

คนตระหนี่ ใจแคบ แสบคน
ไร้ความอดทน เป็นคน ไม่มีศีล
ไร้ต้นน้ำ สำหรับหล่อเลี้ยงชีวิน
ชีวิตสิ้น แห้งแล้ง ยากจน

ทานดี ศีลจึงมีได้
ใจนุ่มนวลละไม นั้นคือทาน
ศีล นั้นคือ ความสะอาดสะอ้าน
รักษาศีลได้ดีนั้น ทานจึงมาก่อน

หรือศีลพุทธแท้ ใช่แน่ ดูที่ทาน
มิเช่นนั้น เป็นศีลของมาร เดียรถีย์
ไม่ใช่ทางสายกลาง ทางบุญ ทางชีวี
ทางกิเลสตัณหา กาลี บาปกรรม

ศีลพุทธแน่แน่นั้น เชื่อมต่อกันกับภาวนา
คนดีมีศีลา ต้องชอบภาวนา แน่นอน
ด้วยศีล คือความใจเย็น ไม่ร้อน
เป็นน้ำตกตะกอน นอนนิ่ง ภาวนา

ศีลดี เหมือนภูเขาที่มี ฝนตก
ไม่ตลก เป็นที่ฝนตก ประจำ
ศีลดี มีภาวนา ด้วยใจชุ่มฉ่ำ
สุขใจสะบายล้ำ ดำดิ่งสู่ภายใน

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น