วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565

มิจฉาชีวะ (ยิ่งกว่าคนตาบอด) ผู้มีความรู้มิจฉาชีวะ ชีวาเสื่อม ใจไม่เลื่อม..ไม่ใส ใจทมิฬ มีจิต คิดเบียดเบียน ปัญญาสิ้น เหมือนฐานดิน ของบ้าน ไม่มั่นคง

 มิจฉาชีวะ
(ยิ่งกว่าคนตาบอด)


ผู้มีความรู้มิจฉาชีวะ ชีวาเสื่อม
ใจไม่เลื่อม..ไม่ใส ใจทมิฬ
มีจิต คิดเบียดเบียน ปัญญาสิ้น
เหมือนฐานดิน ของบ้าน ไม่มั่นคง

ปัญญาดับ อาภัพ ยิ่งกว่าคนตาบอด
ชีวิตจอด เหมือนหลับตา เดินทางไกล
ไม่เป็นตัวของตน ดิ้นรน ตามเขาไป
ถูกผิด รู้ไม่ได้ ฝากไว้กับชะตา

ปัญญาดับทุกข์หลาย เหมือนอยู่ในนรก
เร่าร้อน จิตโศก ตกนรกทั้งเป็น
ตายเสียยังดีกว่า แต่ไม่ตาย กรรมเวร
ปัญญา เป็นเช่น แก้วสารพัดนึก

คนใจดำ บ้าระห่ำ ไร้เมตตา
หมู่พาลา ขยะ สังคม
ในยุคทมิฬนี้ คนดีก้ม
ความทุกข์ระทม มีทุกหย่อมหญ้า

ยุคทมิฬนี้ สร้างบารมี ได้ดีนัก
ขันติ ต้องตระหนัก ไว้ให้ดี
ไม่สู้ และก็ ไม่หนี
รักษาสติเต็มที่ ณ ที่ศูนย์กลางกาย

ชีวิต เปรียบเป็นบ้าน ต้องฐานแน่น
มีศีลเป็นแกน แก่นแน่นหนา
ชีวิตไร้ศีล สิ้นสุข ภัยนาๆ
มีชีวา เปรียบปานว่า ตายทั้งเป็น

มิจฉาชีวะ น่าเวทนา เกิดมาหาบาป
คนชั่วไม่ทราบ และไม่เชื่อ
สรรพสัตว์ น่าอนาถ เป็นเบื้อ
เป็นกวางเนื้อ ให้หมู่มาร ไล่ต้อน

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น