แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นิวรณ์๕ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นิวรณ์๕ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร (คนทุกทิศบูชา) ผู้ ไม่ประทุษร้ายมิตร ไปสู่ทิศ แว่นแคว้น หรือที่ไหนๆ ย่อมมีผู้ บูชากราบไหว้ เป็นอจินไตย ของคุณธรรมสัจจะ

ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร
(คนทุกทิศบูชา)

 นิวรณ์ ๕  และอุปกิเลส ถูกกำจัด
 ตัดรัก ตัดชัง ไม่เหลือใย
อันตัณหา และทิฏฐิ อาศัย
พึงเที่ยวไป แต่ผู้เดียว เหมือนนอแรด

ปุถุชนคนเขลา ภูมิใจนักหนา
ว่า เรามีบุตร เรามีทรัพย์ จึงเดือดร้อน
ที่แท้ตนของตน ก็ไม่มีแน่นอน
เมื่อม้วยมรณ์ จึงสำนึกได้ ก็สายแล้ว
มารดาบิดา ไม่ธรรมดา
จงรู้ว่า เป็นพรหม เป็นบุรพาจารย์
เป็นที่บุตร ต้องกราบกราน
 ด้วยท่าน เป็นผู้อนุเคราะห์บุตร
ตราบใดที่บาป ยังไม่ส่งผล
ปุถุชน ยังเข้าใจว่า มีรสหวาน
เมื่อบาปส่งผลเมื่อใด เมื่อนั้น
คนพาล ย่อมประสบทุกข์
ผู้ไม่มีบุญ แม้มีทรัพย์เป็นอันมาก
เพียงรู้จัก เก็บกองไว้
ไม่บริโภค ด้วยตระหนี่หลาย
เป็นเศรษฐีใจร้าย ทำลายสังคม
ผู้ ไม่ประทุษร้ายมิตร
ไปสู่ทิศ แว่นแคว้น หรือที่ไหนๆ
ย่อมมีผู้ บูชากราบไหว้
เป็นอจินไตย ของคุณธรรมสัจจะ
คนใจสกปรก ไม่ละอาย
กลายเป็นนิสัย บาปไหลเข้า
เป็นปุถุชน คนเขลา
 ด้วยกรรมของเจ้า ไปสู่อบาย

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566

โลกคือโรงละคร (ย้อนอดีต) ภิกษุไม่ควรติด ในกามทั้งหลาย เป็นสิ่งเลวร้าย ทำใจให้ขุ่นมัว รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ชั่ว ควรมีสติ ตัวรู้ อยู่ทุกอิริยาบถ

 โลกคือโรงละคร
(ย้อนอดีต)

ภิกษุไม่ควรติด ในกามทั้งหลาย
เป็นสิ่งเลวร้าย ทำใจให้ขุ่นมัว
รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ชั่ว
 ควรมีสติ ตัวรู้ อยู่ทุกอิริยาบถ
ควรเป็นผู้ฉลาด ในธรรมทั้งปวง
ไม่นำมาเป็นห่วง ผูกมัด
กามคุณ อย่าประมาท
ตัดให้ขาด ด้วยสติปัญญา
บัณฑิตฝึกตน คนไม่ประมาท
มีหิริโอตัปปะ คุณธรรม ค้ำ
คนดี มีชีวีไม่ตกต่ำ
ความทุกข์ระกำ ห่างไกล
นิวรณ์ห้า ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์
จงตระหนัก ไม่มีตัวตน
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่คงทน
เป็นอัตตา มีตัวตน คือบุญ
ยึดติดกามโลกีย์ เป็นทุกข์
ไม่ใช่สุข แต่สนุกสนาน
เป็นเหยื่อล่อ ของมาร
ปุถุชน เหมือนกัน ไก่หลงเหยื่อ
พระผู้รู้ท่านว่า โลกคือโรงละคร
คิดพูดทำ ทุกขั้นตอน กิเลสกำกับ
กรรมวิบาก สร้างภาพ
คล้ายกับ ฉากละคร
ตอนใกล้ตาย จะได้สติรู้
ปุถุชน คนทุกผู้ เป็นอย่างนั้น
เวียนว่าย ตายเกิด วัฏฏสงสาร
คุกประหาร อบายภูมิ

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

รู้จักสติสัมปชัญญะ (ชีวาปลอดภัย) สติ คือการระลึก นึกได้ สัมปชัญญะ ตรองตรึกไว้ ในกายตน หรือวิตกวิจาร ทำใจสงบสงัด หายหม่น ปีติสุขล้น สว่างไสวเมื่อใจพ้น นิวรณ์ห้า

รู้จักสติสัมปชัญญะ
(ชีวาปลอดภัย)

สติ คือการระลึก นึกได้
สัมปชัญญะ ตรองตรึกไว้ ในกายตน
หรือวิตกวิจาร ทำใจสงบสงัด หายหม่น
ปีติสุขล้น สว่างไสวเมื่อใจพ้น นิวรณ์ห้า

สติสัมปชัญญะนี้ มีอุปการะนัก
ทำให้ใจเราออกจาก นิวรณ์ห้า
อันเป็นอุปสรรค เป็นเครื่องกั้น บุญญา
จากพระนิพพาน ไหลมา ค้ำชีวาของเรา

การเจริญภาวนา นั่งสมาธิ หรือการเจริญสติ
จึงเป็นกิจกรณีย์ ของบัณฑิต ผู้มีปัญญา
อัตตสุทธิ ทำตนให้บริสุทธิ์ จากนิวรณ์ห้า
จึงสำคัญนักหนา ต่อชีวิต

ผู้มีปัญญา มีทานศีลภาวนา เป็นทางชีวิต
ทำจิต..ให้บริสุทธิ์ จากโลภโกรธหลง
ชีวิตไร้อันตราย มีกินมีใช้ ใจปลอดโปร่ง
ชีวิตปลดปลง สันโดดสมถะ สมปราถนาทุกประการ

ทานศีลภาวนา ขยายออกมา เป็นบารมีสิบ
เราต้องรีบสร้าง ก่อนออกจากร่างมนุษย์
วนเวียนว่าย นานหลาย ใช้บารมีอุตลุด
เป็นมนุษย์..เท่านั้น สำคัญ สร้างบารมีได้

การสร้างบารมี เวลาดี คือมีสงฆ์
อันเป็นองค์ เสริมส่ง สืบทอด ศาสนา
บุญสูงส่งยิ่งนัก ถ้าหากมีศรัทธา
ทุ่มชีวา แสวงบุญญา สร้างบารมี

ชีวิตสรรพสัตว์ แน่ชัด เดินทางไกล
วนเวียนไป ไม่มีต้นปลาย ในวัฏฏสงสาร
บุญบารมี เป็นเสบียง เลี้ยงสังขาร
สุขอนันต์ อยู่บนสวรรค์ เสวยบุญ

คนทั่วไป ไม่แสวงบุญสร้างบารมี
ยากเหลือที่ จะได้ ไปสวรรค์
พระท่านเปรียบไว้ ไปได้เท่าเขาวัว เท่านั้น
เมื่อเทียบกัน กับขนวัว ไปอบาย

 มีสติสัมปชัญญะ ไม่หลงมายา ภาพลวง
เป็นบ่วง..ของมาร ให้รู้ทันกรรมวิบาก
ทุกอย่างที่เห็นที่เป็น จงประจัก
เป็นกรรมวิบาก ที่ออกจากใจ

จงอดทนอดกลั้น ไม่กระสัน ไม่หุนหัน เฉยๆไว้
รักษาใจ อย่าให้ตก พ้นนรกพ้นปัญหา
ไม่สู้ไม่หนี ทำความดีเลื่อยไป ไม่เลิกลา
ตั้งสติไว้อย่างว่า ทานศีลภาวนาเรื่อยไป

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2562

นิวรณ์๕ (ตัวก่อปัญหาให้กับชีวิต) :: นิวรณ์๕เครื่องกางกั้น ปิดทางสำคัญ ปัญญารู้แจ้ง ไม่ให้เห็นแสง ที่จะแทง ทลุปรุโปร่ง

นิวรณ์๕
(ตัวก่อปัญหาให้กับชีวิต)

นิวรณ์๕เครื่องกางกั้น
ปิดทางสำคัญ ปัญญารู้แจ้ง
ไม่ให้เห็นแสง
ที่จะแทง ทลุปรุโปร่ง
สุขจึงน้อยนิด
ด้วยมืดสนิท จิตงวยงง
นิวรณ์๕จะต้องปลง
จิตจึงปลอดโปร่ง สว่างจ้า
ปัญหาทั้งหลาย ในชีวิต
เกิดจากจิต ที่มืด ไม่แจ่มชัด
นิวรณ์๕จึงสำคัญนัก ต้องกำจัด
ธรรมปฏิบัติ จึงขาดไม่ได้
กามฉันทะ นิวรณ์๕ ตัวแรก
 รู้สึกแปลกๆ กับเพศตรงข้าม
ผิดศีลกาเม เป็นกรรม
สติตกต่ำ จิตดำมืด
กามฉันทะ แก้ด้วย เอกัคคะตา
ใจสว่างจ้า เป็นหนึ่ง
นั่นแหละคือที่พึ่ง
กามฉันทะจึง แก้ยากสุด
 ตัวที่สอง พยาบาท
 จิตอาฆาต ฝังแน่น
ผิดศีลปาณา คับแค้น
 ทรวงแน่น อยากแล่นไปทำร้าย
พยาบาท
แก้ได้เด็ดขาด ด้วยใจปีติ
เมื่อเรานั่งสมาธิ
ใจจะปีติ หลังมีวิตกวิจารณ์
 ตัวที่สาม มีนาม ถีนมิทธะ
เงอะงะ ง่วงเหงา หาวนอน
 มีกรรม เสพยา มาก่อน
จะถอนได้ โดยใช้เพียง วิตก
  ฝึกฝน ทนถีนมิทธะให้ได้
สำคัญหลาย ปรารภความเพียร
ถ้าอยากจะเป็นเซียน
ต้องเพียร สู้
ตัวที่สี่ อุทัจจะกุกกุจจะ
ก่อปัญหา ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ
เกิดจากกรรม ทำอทินนาทานไว้
แก้ไขได้ เมื่อใจเป็นสุข
 ตัวที่ห้า วิจิกิจฉา ลังเลสงสัย
ทำให้ ใจไม่เป็นหนึ่ง
มีกรรมพูดเท็จ ซึ่ง
นึกไม่ถึง พึ่งวิจารณ์ได้
วิจารณ์ คือการรู้ทั่ว
วิตก คือตรึกในตัว
แม้มืดมิด หรือมืดมัว
ให้รู้ทั่ว อยู่ภายใน
วิตก หรือตรึก คือนึกเบาๆ
ดูอารมณ์ตัวเก่า
หลับตาเบาๆ
แม่เจ็บปวดรวดร้าว ให้เราดูเฉยๆ

 ;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

มืดบอด:: ศัตรูใหญ่ ไม่ใช่อะไร คือใจมืด ทุกข์ทั้งปวง ปัญหาตะพึด ล้วน ใจมืด เป็นเหตุ

มืดบอด

ศัตรูใหญ่
ไม่ใช่อะไร คือใจมืด
ทุกข์ทั้งปวง ปัญหาตะพึด
ล้วน ใจมืด เป็นเหตุ

ความมืดเหมือนเส้นผมบังภูเขา
ที่เรา มองผ่าน
ดูเบา ด้วยเราคุ้น สุดประมาณ
เหมือนกัน กับปลา คุ้นกับน้ำ

ความมืดเหมือนเมฆหมอก
แสงแดดไม่ออก เมฆหมอกหนา
ความมืดอึดทึด เมื่อหลับตา
คุ้นกันมา เนิ่นนาน

มนุษย์ยุคต้นกัป
ใจ แวววับ ประภัสสร
ดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติ แน่นอน 
ไม่ทุกข์ร้อน นั่งกินนอนกิน

คนไม่รู้ ศัตรูคือใจมืดบอด
พญามารสอด นิวรณ์๕ เข้ามาใส่
กิเลส โลภโกรธหลง ในใจ
ปิดบังไว้ ไม่ให้รู้ เรื่องบุญบาป

ใจมืดมิด หลับสนิทสะบาย
เหมือนปลาคุ้นหลาย ว่ายในน้ำ
เต่าชวนขึ้นบก นกชวนบินตาม
หัวเราะขำ คนทำดี

ใจมืดศัตรูร้ายสุดของคน
เข้ามาปน ในชีวิต สนิทสนม
คอยบงการ คอยเล่นงาน จม
แต่คนชอบมันได้ โง่บรม คนหนอคน

;;;;;;;;;;