แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปลาหลงเหยื่อ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปลาหลงเหยื่อ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566

สมาธิภาวนา (พาพ้นทุกข์) บริสุทธิ์หรือไม่ ของใครของท่าน โอนให้กัน ล้างให้กัน ไม่ได้ กฎแห่งกรรมเที่ยงแท้ อจินไตย ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

 สมาธิภาวนา
(พาพ้นทุกข์)

 บริสุทธิ์หรือไม่ ของใครของท่าน
โอนให้กัน ล้างให้กัน ไม่ได้
กฎแห่งกรรมเที่ยงแท้ อจินไตย
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว 
ทำดีได้ชั่ว ทำชั่วได้ดี มีถมไป
กฎแห่งกรรม เชื่อได้..จริงหรือ
ปรากฎการณ์ปัจจุบัน อย่าถือ
มันคือ กรรมวิบาก ฉากละคร
เห็นด้วยตาเนื้อ ยังเชื่อไม่ได้
ของจริงหลังตาย จะได้เห็น
กิเลสกรรมวิบาก จัดฉากเล่น
โลกที่เห็น จึงเป็นเช่น เล่นละคร
ปุถุชน เป็น เช่นปลาหลงเหยื่อ
ไม่เชื่อ กฎแห่งกรรม
มือใครยาว สาวได้สาวเอา ใจดำ
ไม่ชุ่มฉ่ำ ร้อนรุ่ม กระวนกระวาย
นั่นหละ ฤทธิ์ของบาป
มีใจหยาบ ร้อนร่าน แสนทุกข์
ดับกระหาย เข้าหาอบายมุข
ทางสนุก ทางทุกข์ ทางตัณหา
หมู่มาร ใช้ตัณหา ล่าเหยื่อ
ปุถุชนไม่เชื่อ ล้วนตกเป็นเหยื่อมาร
เวียนว่าย ในอบายภูมิ ทั้งนั้น
น่าสงสาร น่าเวทนา
ผู้มีศรัทธา มีปัญญาไตร่ตรอง
เชื่อในครรลอง พระศาสนา
ด้วยเจริญสมาธิ ภาวนา
เกิดปัญญา เหนือกว่าปุถุชน

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566

ยศศักดิ์ (ปลักตัณหา) ได้ยศแล้ว สติยังใส ไม่เมายศ ยากปรากฎ ในคนทั่วไป ลาภยศสรรเสริญสุข คนติดใจ เหยื่อตัณหา อย่างร้าย สมใจอยาก

ยศศักดิ์
(ปลักตัณหา) 

ได้ยศแล้ว สติยังใส ไม่เมายศ
ยากปรากฎ ในคนทั่วไป
ลาภยศสรรเสริญสุข คนติดใจ
เหยื่อตัณหา อย่างร้าย สมใจอยาก

คนทั่วไป ไม่ใส่ใจ..ฝึกสติ
ศรัทธามี มิใช่ธรรมดา
 ผู้มีศรัทธา แล้วเข้าวัดวา
เป็นมนุษย์ ประดุจเทวดา สุขสบาย
แม้จะถึงแก่ชีวิต ไม่พึงเสียใจ
เป็นโอกาศ สำคัญหลาย ได้บารมี
สติตั้ง ศรัทธาประดัง จงทุ่มชีวี
อย่าให้เสียที เสียรู้ หมู่มาร
ชีวิตมนุษย์ สร้างบุญได้ง่ายๆ
 เพียงเอาใจ ไว้ในตัว นิ่งๆ
หยุดคิด นิ่งสนิทได้ เหนือทุกสิ่ง
บุญอันยิ่ง คือบารมี ชีวีพลิกผัน
 หมั่นทำกิจทั้งหลาย เรื่อยไป
ทำความดีเป็นสาย อย่าให้ขาด
 บาปจะได้ช่อง เจ้าเพชฌฆาต
แม้ตายก็องอาจ ไปสวรรค์
พึงระวังตน ไม่ให้มีช่องเสีย
อย่าให้ใจระเหี่ย ใจตก
กิเลสกรรมวิบาก กระชาก ลงนรก
อย่าให้ใจสกปรก จงฝึกตน
เมายศเมาโลกีย์ คนธรรมดา
เป็นผู้ไม่รู้สา ปัญญาเบา
 ปลาหลงเหยื่อ สุดเขลา
น่าเศร้า ญาติของเราเป็นเอง

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ทำงานเพื่อทรัพย์ (เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ) ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

 ทำงานเพื่อทรัพย์
(เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ)


ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน
ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต
มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ
งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

ส่วนทำงานเพื่อเงิน ทำเพลินๆไป
มือไม้ กับใจ ไปคนละทาง
ทำงานปานหุ่นยนต์ เพื่อค่าจ้าง
เบื่อหน่ายจัง อยากกลับ ไปหลับนอน

อิทธิบาทสี่ เริ่มต้น เป็นคนมีฉันทะ
คือมีใจรักนักหนา ที่จะทำ ตามความฝัน
ไม่หวังความชื่นชม คำนิยมใดๆ ทั้งนั้น
จึงทำด้วยใจ มุ่งมั่น ขยันวิริยะ

ต่างจากทำงานเพื่อทรัพย์ หรือขยับยศ
มีตัณหาบังบด อดไม่ได้ ทำลายคนอื่น
แม้ร่ำรวยมากหลาย แต่ไม่ชื่น
เกิดความขมขื่น เบื่อหน่ายซึมเซ็ง

การทำงานเพื่อทรัพย์ วิริยะ หามีไม่
วิริยะนั้น ขยันด้วยใจ ไม่อิงวัตถุ
จึงขยัน และกล้าหาญ น่าดู
ถ้าขยันเพื่อทรัพย์ ก็รู้ เป็นผู้แล้งน้ำใจ

การประดิษฐ์ คิดค้นทางวัตถุ
ทุ่มเทกันน่าดู จะได้เป็นผู้..ครองโลก
แต่น่าเสียดาย ที่ไม่ได้ ดับโศก
แต่ทำให้คนติดโลก ยิ่งขึ้น

ต่อจากวิริยะ เป็นจิตตะ ใจหยุดสนิท
มีจิต..เป็นหนึ่ง แล้วถึงบางอ้อ วิมังสา
จึงรังสรร งานออกมา
ด้วยปัญญา คุณธรรม งามวิไล

น่าเสียดาย เสียเวลามากมาย คิดค้น
เปี่ยมล้น ด้วยลาภยศฯ ปรากฎนาม
มีผู้คนชื่นชม มากมายก็ตาม
แต่ไม่อาจนำ ตามไปปรโลกได้

จิตตะของนักคิดค้น ดิ้นรน อยู่ภายนอก
เหมือนโดนหลอก ให้เสียเวลา
ได้แต่โหยไห้ เสียใจ สติช้า
เมื่อสติมา ก็หมดเวลาชีวิต

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ปลาหลงเหยื่อ (หนอนหลงอาจม) โลกโลกีย์ นี้คือโรงละครแท้ๆ กิเลสนั่นแหละ กำกับ ทุกขั้นตอน ใส่อารมณ์ สมบทบาท กิเลสสอน แต่น่าสะออน หลังตาย ผ้าติดกาย ก็ไม่มี

 ปลาหลงเหยื่อ
(หนอนหลงอาจม)


โลกโลกีย์ นี้คือโรงละครแท้ๆ
กิเลสนั่นแหละ กำกับ ทุกขั้นตอน
ใส่อารมณ์ สมบทบาท กิเลสสอน
แต่น่าสะออน หลังตาย ผ้าติดกาย ก็ไม่มี

เหมือนกัน กับการเลิกเล่นละคร
ต้องถอดถอน..อารมณ์ และเครื่องเล่น
กลับคืนสู่ตัวตนเก่า ที่เคยเป็น
โลกโลกีย์ ก็เช่น เป็นอย่างนั้น

ผู้มีปัญญา พิจารณา แล้วเข้าใจ
หมดอาลัย ในคนสัตว์สิ่งของ
เป็นคนสันโดษ จิตปราโมทย์ ใจผ่อง
เข้าสู่ครรลอง คลองธรรม

โลกภายนอก โลกหลอกลวง
เป็นชีวิตที่กลวง ไม่มีแก่นสาร
กิน นอน ถ่าย สืบพันธุ์
ตายแล้ว แม่นมั่น ไปอบาย

ชีวิตจริง ชีวิตแท้ มีแต่ทางธรรม
บุญอุปถัมภ์ ไม่อ้างว๊าง มีบุญเพื่อนแท้
ชีวีปลอดภัย เหมือนอยู่บนเรือใหญ่ นั่นแหละ
ชีวิตแท้ มีแต่ทางนี้ ทางธรรม

ทางธรรมต้องมีศรัทธา มีกัลยาณมิตร
ยากสุดขีด ด้วยฤทธิ์ของตัณหา
คนทั้งหลาย มีนิสัย คล้ายๆปลา
หลงเหยื่อกามา เป็นมิจฉาทิฏฐิ

กิเลสตัณหา เหมือนเหยื่อของปลา
สติสัมปชัญญะ ถูกทำลาย
กลายเป็นปลา เห็นกามา อดไม่ได้
หรือหนอน อดไม่ไหว เมื่อเห็นอาจม

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ปลาหลงเหยื่อ (ไม่เชื่อเต่า) ทำแต่งาน หาแต่เงิน ไม่เข้าวัด เหมือนกันชัด กับ ปลาหลงเหยื่อ เต่าชวนขึ้นบก จนเบื่อ คนซกมกไม่เชื่อ ว่านรกมี

 ปลาหลงเหยื่อ
(ไม่เชื่อเต่า)


ทำแต่งาน หาแต่เงิน เพลินไม่เข้าวัด
เหมือนกันชัด กับ ปลาหลงเหยื่อ
เต่าชวนขึ้นบก จนเบื่อ 
คนซกมกไม่เชื่อ ว่านรกมี

ทำงานได้เงิน เพลินกินเหยื่อ
ช่างยากเหลือ จะได้สติตื่น
เหมือนหลับลึก ไม่รู้สึก ตลอดคืน
สติตื่น ยากหลาย ถ้าไม่ได้กัลยาณมิตร

กิเลสตัณหา เอาอวิชชา มาปิดบัง
เหมือนกันจัง กับดูหนัง สามมิติ
ใช้อารมณ์ร่วม สวมใส่ เต็มที่
โลกโลกีย์ นี้คือโรงหนังหรือโรงละคร

ทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องจริงเรื่องจัง
คือหลังตาย ทุกอย่าง สูญหายหมด
เหมือนเลิกดูหนัง ความจริง ปรากฎ
ใจสลด เมื่อคิดได้ ก็สายแล้ว

หลังตาย ต้องการบุญหลาย ไม่ใช่เงิน
โลกเท่านั้น มีความเพลิน ใช้เงินซื้อ
เพลินหาเงิน เมินบุญ คนดื้อ
เหมือนกระบือ หรือไก่กา มัวหากิน

พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้ธรรม
คือรู้เห็นความ..จริง ของชีวิต
รู้เห็นบุญ ธรรมธาตุศักดิ์สิทธิ์
หนึ่งเดียวของชีวิต ตามติดอุปถัมภ์

ชีวิตสรรพสัตว์ และสรรพสิ่ง ที่ปรากฎ
ทั้งหมด เป็นบทบาท ของบุญกับบาป
ชีวิต สลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ยุบยับ
สำหรับ พระพุทธองค์เท่านั้น รู้ทันความจริง

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ทานเป็นชีวิต (ของผู้เจริญ) สิ่งที่เห็นที่จับต้องได้นั้น พระท่านว่า เป็นสิ่งลวงตา อย่าไปหลงติด มีก็สักแต่มี เอาไว้เลี้ยงชีวี และญาติมิตร จงตั้งจิต..สันโดษ เพียงพอใจ แต่ในสิ่งที่มี

 ทานเป็นชีวิต
(ของผู้เจริญ)



สิ่งที่เห็นที่จับต้องได้นั้น พระท่านว่า
เป็นสิ่งลวงตา อย่าไปหลงติด
มีก็สักแต่มี เอาไว้เลี้ยงชีวี และญาติมิตร
จงตั้งจิต..สันโดษ เพียงพอใจ แต่ในสิ่งที่มี

ถ้ายึดติด ใจมืดมิด จะอุบัติ
มีอุปาทาน อันเป็นธรรมชาติ ของปัญหา
ทุกข์น้อยใหญ่ จะดาหน้าเข้ามา
เป็นคนต่ำช้า คนดีไม่กล้า..เข้าใกล้

เมื่อเราตาย สิ่งเหล่านี้ไม่ไปกับเรา
แสดงว่าเขา ไม่มีตัว ไม่มีตน
เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เหมือนเมฆฝน
ต้องอดทน อดกลั้น มันเป็นธรรมชาติ

ดังนั้น โลกนี้ คือโรงละครดีดี นี่เอง
เมื่อละครจบ ก็กระเตง ตัวใครตัวมัน
ต่างคนต่างไป เหมือนไม่รู้จักกัน
เมื่อเราตาย หรือฝัน เหมือนกันเลย

ทุกสิ่งในโลกนี้ เป็นโลกีย์ วัตถุ
ท่านผู้รู้ ให้เราตระหนักใจ ไว้ให้ดี
ระวังกิเลสตัณหา ตัวกาลี
ตัวอัปปรี ทำให้ลุ่มหลง ปลงไม่ได้

เป็นปลาหลงเหยื่อ ไม่เบื่อ แม้รู้ว่าร้าย
แม้ตาย..ก็ยอม ในอ้อมอกเหยื่อ
ความตายไม่กลัว ช่างมัวเมาเป็นเบื้อ
ตายเกิดซ้ำๆ ไม่เบื่อ เป็นเหยื่อตัณหา

จะหนีตัณหา ต้องมีศรัทธา เท่านั้น
กัลยาณมิตร จึงสำคัญ พลิกผันชีวิต
ชีวิตสูญเปล่า น่าเศร้าแท้ ตัณหาลิขิต
การทำทาน จึงเป็นชีวิต ของผู้เจริญ

;;;;;;;;;;