แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อิทธิบาท๔ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อิทธิบาท๔ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ทำงานเพื่อทรัพย์ (เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ) ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

 ทำงานเพื่อทรัพย์
(เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ)


ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน
ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต
มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ
งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

ส่วนทำงานเพื่อเงิน ทำเพลินๆไป
มือไม้ กับใจ ไปคนละทาง
ทำงานปานหุ่นยนต์ เพื่อค่าจ้าง
เบื่อหน่ายจัง อยากกลับ ไปหลับนอน

อิทธิบาทสี่ เริ่มต้น เป็นคนมีฉันทะ
คือมีใจรักนักหนา ที่จะทำ ตามความฝัน
ไม่หวังความชื่นชม คำนิยมใดๆ ทั้งนั้น
จึงทำด้วยใจ มุ่งมั่น ขยันวิริยะ

ต่างจากทำงานเพื่อทรัพย์ หรือขยับยศ
มีตัณหาบังบด อดไม่ได้ ทำลายคนอื่น
แม้ร่ำรวยมากหลาย แต่ไม่ชื่น
เกิดความขมขื่น เบื่อหน่ายซึมเซ็ง

การทำงานเพื่อทรัพย์ วิริยะ หามีไม่
วิริยะนั้น ขยันด้วยใจ ไม่อิงวัตถุ
จึงขยัน และกล้าหาญ น่าดู
ถ้าขยันเพื่อทรัพย์ ก็รู้ เป็นผู้แล้งน้ำใจ

การประดิษฐ์ คิดค้นทางวัตถุ
ทุ่มเทกันน่าดู จะได้เป็นผู้..ครองโลก
แต่น่าเสียดาย ที่ไม่ได้ ดับโศก
แต่ทำให้คนติดโลก ยิ่งขึ้น

ต่อจากวิริยะ เป็นจิตตะ ใจหยุดสนิท
มีจิต..เป็นหนึ่ง แล้วถึงบางอ้อ วิมังสา
จึงรังสรร งานออกมา
ด้วยปัญญา คุณธรรม งามวิไล

น่าเสียดาย เสียเวลามากมาย คิดค้น
เปี่ยมล้น ด้วยลาภยศฯ ปรากฎนาม
มีผู้คนชื่นชม มากมายก็ตาม
แต่ไม่อาจนำ ตามไปปรโลกได้

จิตตะของนักคิดค้น ดิ้นรน อยู่ภายนอก
เหมือนโดนหลอก ให้เสียเวลา
ได้แต่โหยไห้ เสียใจ สติช้า
เมื่อสติมา ก็หมดเวลาชีวิต

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565

บุญมีจริง (อจินไตย) ขจัดโลภได้ทรัพย์ กำกับด้วยทาน ช่างน่าอัศจรรย์ ทานแล้วได้ทรัพย์ ความตระหนี่ เป็นภัย สุดจะนับ ใจแคบใจคับ ดับชีวิต

 บุญมีจริง
(อจินไตย)


ขจัดโลภได้ทรัพย์ กำกับด้วยทาน
ช่างน่าอัศจรรย์ ทานแล้วได้ทรัพย์
ความตระหนี่ เป็นภัย สุดจะนับ
ใจแคบใจคับ ดับชีวิต

ชาวเรา ปลูกข้าวได้ข้าว
ชาวเขาปลูกงาได้งา

 ให้ทรัพย์ ได้ทรัพย์ จึงเป็นธรรมดา
 รักษาพระศาสนา ได้อริยทรัพย์หรือบุญ

ทรัพย์ธรรมดา ไม่อาจจะ ทำให้ปลื้ม
เหมือนคนใคร่ดื่ม..น้ำเย็น ดับกระหาย
ทำงานกลางแดด แผดเผา เหงื่อไหล
ดับตัณหาไม่ได้ ด้วยโลกียทรัพย์

กลายเป็นคนตระหนี่ ยิ่งมียิ่งอยากได้
ผิดศีลผิดธรรม ไม่อาย ใช่อมนุษย์
หน้าเป็นคน ใจไม่ใช่ ผีร้ายผุด
และที่สุด ก็ไปสู่อบาย คุกประหาร

ทรัพย์ จึงมีไว้ให้ ไว้ทำทานการกุศล
ได้อริยทรัพย์ ปีติล้น ทนตัณหา
ทรัพย์เก่าไหลไป ทรัพย์ไหม่ไหลมา
เป็นธรรมดา อจินไตย ไม่สิ้นสุด

กฏแห่งกรรม เป็นธรรมชาติ
ทำดีได้ดีชัด อยากได้สมบัติ ต้องทาน
ควรรู้ อยู่เบื้องหลังการทำงาน
ทำอย่างมีอุดมการณ์ ต้องใจกว้าง

ทำงานด้วยอุดมการณ์ เรียกว่าฉันทะ
มีปัญญา มีศรัทธา มีกตัญญู
มีใจอยู่ในตน เปี่ยมล้นกำลังใจ สู้
วิริยะ จิตตะ วิมังสา เป็นลู่ สู่ความสำเร็จ

ทำทานกระทั่งเป็นนิสัย ใช่ ทานบารมี
มีปีติ เต็มที่ ไม่ขาดสาย
มีทรัพย์เป็นอัศจรรย์ ทันใช้
เป็นอจินไตย ไม่ธรรมดา

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ฆราวาส (ศักดิ์สิทธิ์) ฆราวาส ก็ศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ใช่แต่พระ แต่ต้องมีสัจจะ จริงจัง จริงใจ จริงแท้ ซื่อ ตรง แท้ จึงใช่แน่ ศักดิ์สิทธิ์แท้ แม้เป็นฆราวาส

 ฆราวาส
(ศักดิ์สิทธิ์)

สังคมอยู่เย็น สามัคคีร่วมเป็นร่วมตาย
ที่สำคัญหลาย ต้องมีฆราวาสศักดิ์สิทธิ์
เป็นศูนย์รวมใจ ฝักใฝ่ธรรมเป็นชีวิต
เป็นกัลยาณมิตร พาหมู่คณะเข้าวัด ปฏิบัติธรรม

ฆราวาส ก็ศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ใช่แต่พระ
แต่ต้องมีสัจจะ จริงจัง จริงใจ จริงแท้
ซื่อ ตรง แท้ จึงใช่แน่
ศักดิ์สิทธิ์แท้ แม้เป็นฆราวาส

จริงจังในการงาน ด้วยการมี อิทธิบาท๔
งานสำเร็จอย่างดี อย่างมิน่าเชื่อ
มีฉันทะวิริยะจิตตะ ไม่มีเบื่อ
อย่าเหลือเชื่อ วิมังสา ผลออกมา อย่างน่าอัศจรรย์

จริงใจ ไม่น่าไหว้ หลังหลอก
ไม่กลับกลอก ปากปราศัย ใจเชือดคอ
มีใจใส สว่างไสว หน้านวลละออ
คนจริงใจ จะสวยหล่อ ผิวพรรณงาม

จริงแท้ มิแปลผัน แม้วันเวลาเปลี่ยน
คงที่ไม่หันเหียน เปลี่ยนแปลง
เป็นของแท้ของจริง ไม่ปรุงแต่ง
แข็งแกร่ง..คงทน คนเหล็กไหล

สัจจะแท้ ที่แน่ๆ ให้ดูที่ ทมะ
คนแท้มีสัจจะ เป็นบัณฑิตา รักการฝึกตน
ฝึกใจ ฝึกสติสัมปชัญญะ ฝึกฝน
รักการฝึกตน คนฝึกใจ

สัจจะยิ่งแท้ ยิ่งแน่ ดูที่ขันติ
ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
ไม่สู้ ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้าย แม้ชีพวาย
ไม่หนีหาย รักษาตนให้บริสุทธิ์ ประดุจมารดา

ทำดีเรื่อยไป ได้ปรมัตถบารมี
เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธี มารตลึง
สัจจะที่สุด คือจาคะ มหาชนได้พึ่ง
เป็นผู้ซึ่ง เป็นหลักชัย ให้สังคม

จาคะ กิเลสหลุด ผ่องผุดสว่างไสว
เป็นมนุษย์ ที่คล้าย เทวดา
มีวาจาสิทธิ์ มีฤทธา
มหาชน กราบไหว้บูชา..ไท้ ไว้เหนือเศียร

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คุณธรรม (ทรัพย์ล้ำค่า) ทรัพย์ที่มีค่าที่สุด องค์พระพุทธตรัสว่า ทรัพย์นั้นหนา คือคุณธรรม ล้ำค่าที่สุด คุณธรรมจะตาม ไปทุกชาติ ไม่มีขาดไม่มีหยุด อุปถัมภ์ ค้ำจุน ประดุจ..บิดามารดา

คุณธรรม
(ทรัพย์ล้ำค่า)


ทรัพย์ที่มีค่าที่สุด องค์พระพุทธตรัสว่า
ทรัพย์นั้นหนา คือคุณธรรม ล้ำค่าที่สุด
คุณธรรมจะตาม ไปทุกชาติ ไม่มีขาดไม่มีหยุด
อุปถัมภ์ ค้ำจุน ประดุจ..บิดามารดา


เราเกิดมา จึงแสวงบุญญา และสร้างบารมี
ที่สุดดี คือทำพระนิพพาน ให้แจ้ง
ทำใจนิ่งใจหยุด ที่สุดแห่งบุญแสวง
สร้างบารมีสุดแรง และแจ้งพระนิพพาน

ใจหยุดในตน เริ่มต้นเดินถนน สายกลางภายใน
บุญจากพระนิพพาน หลั่งไหล เป็นท่อธาร
หนีพ้นจากภัยอันตราย เหมือนได้อยู่ในเรือใหญ่ อย่างนั้น
 
หรือนั่งอยู่บนภู ดูหมูกัดกัน สุขสันติ์ชีวิต


คุณธรรมคือนิสัยดี ทำให้เรานี้ หนีกรรมวิบากได้
ไม่ไปอบาย แม้เวียนว่าย อยู่ในสังสารวัฏฏ์
ได้ครูดี มหาปูชนียาจารย์ แน่ชัด
ติดตามท่าน ไม่คลาด แม้แต่ชาติเดียว

ฆราวาสธรรม คุณธรรมของฆราวาส
มีปัญญาสามารถ ไม่ตกเป็นทาสตัณหา
อยู่ทางโลก ไม่ทุกข์โศก ด้วยเข้าวัดเข้าวา
มี สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ คุณธรรม

อิทธิบาทสี่ คุณธรรมที่ทำให้สำเร็จและชนะ
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
ดูให้ดี นี้คือถนน แห่งปัญญา
เป็นถนนแห่งบุญญา มีเมตตา จึงชนะและสำเร็จ

ฉันทะ อย่าเอาไปปะปนกับ ความอยาก
พระท่านถือมาก อันความอยากนี้ต้องเว้น
มิฉนั้น ใจไม่หยุดไม่นิ่ง นี้ต้องเน้น
ฉันทะ นี้เป็น ความรัก ที่ปราศจากตัณหา

เป็นรักบริสุทธิ์สะอาด ด้วยใจศรัทธา
ก่อเกิดวิริยะ สม่ำเสมอ ขยันต่อเนื่อง
ได้รางวัล คือปีติ จิตตะ จึงประเทือง
ปัญญาเปลื่อง เป็นวิมังสา เข้าใจทำ

วิริยะจิตตะวิมังสา  เป็นขบวนการพัฒนาปัญญา
การทำงานด้วยใจศรัทธา ปัญญาเกิด
พัฒนาตน กลายเป็นคน ประเสริฐ
คุณธรรมจึงล้ำเลิศ ก่อเกิด ปัญญา

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

กินดีอยู่ดี (ด้วยมีความกตัญญู) :: กินดีอยู่ดี อยู่ที่กตัญญุตา รู้จักเคารพบูชา ผู้มีคุณ เทวดาศักดิ์ใหญ่ เทพไท้ ค้ำจุน ครอบครัวอบอุ่น ปลอดภัย

กินดีอยู่ดี
(ด้วยมีความกตัญญู)

กินดีอยู่ดี อยู่ที่กตัญญุตา
รู้จักเคารพบูชา ผู้มีคุณ
 เทวดาศักดิ์ใหญ่ เทพไท้ ค้ำจุน
ครอบครัวอบอุ่น ปลอดภัย
งานไม่คั่งค้าง ที่จะสร้างปัญหา
ชีวิต มีชีวา อบอุ่น
ศักดิ์ศรี ชื่อเสียง วงศ์ตระกูล 
เพิ่มพูน หรือดับ ขึ้นกับงาน
งานสำเร็จ ด้วยดี มีคุณธรรม
เลิศล้ำ อิทธิบาท๔ มีไว้หนา 
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
พุทธศาสนา จัดหา ให้
ฉันทะ รักจัง คลั่งใคล้
งานเป็นใหญ่ ไม่หวั่นไหว อบายมุข
ไม่มัวเพลิน เมินกามสุข
แสนสนุก สุขจัง เมื่อทำงาน
 
มีฉันทะ วิริยะ จึงมี
มานะเต็มที่ ไม่มี เหนื่อย
เวลาหมดเร็วจัง ยังไม่เมื่อย
ไม่คิดเรื่อยเปื่อย มีจิตตะ

จิตตะ มีใจ ฝักใฝ่งาน
ใจขยัน ผูกพัน ไม่เลิกลา
ปัญญาแจ่มชัด เห็นถนัด ชัดตา
 วิมังสา รู้ว่า จะทำอะไรอย่างไร
กตัญญู รู้คุณ ศาสนา
รู้คุณมารดาบิดา ที่มา อิทธิบาทสี่
มีฉันทะ ต่างกับตัณหา ดูให้ดี
ฉันทะ อยากได้อยากมี จึงหนีความเพลิน
กตัญญุตา ยังพาพ้น พาลภัย
 บันดาลให้ สำเร็จได้ง่ายๆ
ลูกหลานอยู่ในโอวาท สะบาย
 ชีวิตสดใส งานสำเร็จ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562

กำลังใจ (ต่างกันไกลกับกำลังพาล):: กำลังใจ ใช้ ทำความดี หมู่พาลี มิมี กำลังใจ คนดี รู้จักอดทน ไว้ อดเปลี้ยวไหว ได้กินหวาน

กำลังใจ
(ต่างกันไกลกับกำลังพาล)
กำลังใจ ใช้ ทำความดี
หมู่พาลี มิมี กำลังใจ
คนดี รู้จักอดทน ไว้
อดเปลี้ยวไหว ได้กินหวาน
อดเปลี้ยวไหว ได้กิน หวาน
คำโบราณ ให้สติ ดี
ปลูกต้นผลไม้ รอได้ หลายปี
ให้ผลที่ นานปี ไม่มีหมด
คนพาล รอนาน ไม่ได้
ไม่ทันใจ จึงใช้ ทางลัด
แม้ได้มา แต่ว่า เป็นวิบัติ
รวยลัด ไม่ได้ แพ้ภัยตน
สุขภายใน ให้กำลังใจ บริสุทธิ์
ใจหยุด นิ่ง ไม่ต้องการ สิ่งใด
จิตดื่มด่ำ ลึกล้ำ หมดอาลัย
เป็นใจ สันโดษ สมถะ
จิตสันโดษ  ไม่ยึด ไม่ติด
ทำสุดฤทธิ์ ไม่อิด ไม่เอื้อน
ประโยชน์ตน ประโยชน์เพื่อน
จิตเตือน เร่งสร้าง ทางบารมี
สันโดษคุณธรรม ค้ำ อิทธิบาท๔
งานสำเร็จอย่างดี มิ คั่งค้าง
ชื่อเสียงขจรไกล สุข สมหวัง
เป็นที่ตั้ง ศรัทธา มหาชน
ทางสายกลาง ทาง สันโดษ
ธรรมกาย ปรากฎ เป็นเครื่องหมาย
มีประตู อยู่  ศูนย์กลางกาย
เข้าถึงให้ได้ ก่อนไป ปรโลก

;;;;;;;;;;