แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฝึกสมาธิ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฝึกสมาธิ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567

สัตบุรุษคนดี (ฝึกสติเป็นกรณียกิจ) สัตบุรุษ ไม่ปราศรัย ด้วยใคร่ ในกาม ไม่เหมือนปุถุชน ปัญญาทราม ประมาทล้ำ ในกามตัณหา

 สัตบุรุษคนดี
(ฝึกสติเป็นกรณียกิจ)

สัตบุรุษ ไม่ปราศรัย
ด้วยใคร่ ในกาม
ไม่เหมือนปุถุชน ปัญญาทราม
ประมาทล้ำ ในกามตัณหา
ผู้ใด ไม่พูดเป็นธรรม
พูดไม่ดีไม่งาม ไม่ใช่สัตบุรุษ
เป็นคนพาล ขาดเมตตา ไม่บริสุทธิ์
ขาดสติพูด ไปตามอารม์
สัตบุรุษ ยินดีเกื้อกูลสัตว์
ไม่ประหลาด ด้วยมีปัญญา
มีสุข และเมตตา
จึงสงเคราะห์ ชาวประชา ให้อยู่เย็น
สัตบุรุษ ย่อมปรากฏในที่ไกล
 เหมือนภูเขาใหญ่ หิมพานต์
มีชื่อเสียงระบือ ลือลั่น
ด้วยคุณธรรมของท่าน นั่นเอง
สัตบุรุษ มีสวรรค์เป็นที่ไป
ด้วยหมดอาลัย ในตัณหา อุปาทาน
อยู่ในกระแสธรรม สุขสันติ์
อันชาวสวรรค์ แซ่ซร้อง
สัตบุรุษ ชื่อเสียงขจรไปทั่วทุกทิศ
ด้วยบารมีประสิทธิ์ ปานตะวัน
สดใสสว่างจ้า เฉิดฉัน
ดังลงจากสวรรค์ อยู่บนดิน
 
ผู้สงบระงับ ย่อมอยู่เป็นสุข
ส่วนผู้รักสนุก กระสับกระส่าย
อยู่ไม่เป็น เมื่ออยู่เดียวดาย
ด้วยไม่ฝึกใจ ฝึกสติ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เคารพปฎิสันถาร (ไม่ขาดการฝึกสติ) ไม่ควรพูด จนเกินการ ไม่ควรพูดนาน..เกินไป เมื่อถึงเวลา ก็พูดได้ พอประมาณ ไม่..ฟั่นเฝือ

 เคารพปฎิสันถาร
(ไม่ขาดการฝึกสติ)


ไม่ควรพูด จนเกินการ
ไม่ควรพูดนาน..เกินไป
เมื่อถึงเวลา ก็พูดได้
พอประมาณ ไม่..ฟั่นเฝือ

เป็นพุทธพจน์ น่าจดน่าจำ
ควรกระทำตาม ด้วยเป็นความดี
การพูด จึงต้องมีสติ
เมตตามี ค่อยพูดดีออกไป

พูดดี เป็นศรีแก่ปาก
มีคนรัก คนชมชื่น
มีปีติ ทั้งหลับ ทั้งตื่น
ชีวิตราบรื่น ชีวาปลอดภัย

พูดดี ที่เป็นอรรถเป็นธรรม
ปีติล้ำ ทั้งผู้พูด และผู้ฟัง
ชีวิตสดใส ธรรมชาติ สวยงาม
บรรยกาศ เย็นฉ่ำ ล้ำสุขสม

พูดดี พูดพอประมาณ พอเหมาะพอดี
ต้องมีสติ มีความเคารพคารวะ
เห็นความดีของเขา แล้วชื่นอุรา
 พูดจา ระรื่น หวานหู

เมื่อถึงเวลา ควรที่จะพูด
เป็นโอกาศดีสุด พูดแล้วมีคนฟัง
พูดสิ่งที่ดีงาม บุญไหลหลั่ง
สุขสมหวัง เกิดขึ้นแก่ทุกคน

เคารพปฏิสันถาร พระพุทธองค์ท่าน ทรงเน้น
การพูดเป็น เช่นวาจาสุภาษิต
เป็นสุดยอดความสามารถ สุดคาดคิด
ผู้ไม่ประมาท ฝึกจิต มีสิทธิ์ได้เป็น

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รักตนและคนทั้งหลาย (ให้ฝึกสติ) ไม่ประมาทในชีวิต มีกิจวัตรที่ดีงาม ทุกโมงยาม ไม่ปล่อย ให้ลอยไปเฉยๆ ทำประโยชน์ ลดกิเลส ให้เคย นอนก็ไม่นอนเฉยๆ นอนในอู่ทะเลบุญ

 รักตนและคนทั้งหลาย
(ให้ฝึกสติ)


ไม่ประมาทในชีวิต มีกิจวัตรที่ดีงาม
ทุกโมงยาม ไม่ปล่อย ให้ลอยไปเฉยๆ
ทำประโยชน์ ลดกิเลส ให้เคย
 นอนก็ไม่นอนเฉยๆ นอนในอู่ทะเลบุญ

ทำประโยชน์ ทั้งสอง ของตนและท่าน
ให้ถึงพร้อม ทั้งทาน..ศีลและภาวนา
ทางสายกลาง ทางชีวิต นั่นหละ
สุขสมปราถนา ทั้งตนและคนอื่น

 สติสัมปชัญญะ อย่าให้ขาด อยู่ในตน
บุญกุศล..หลั่งไหล ไม่ขาดสาย
แม้ตายก็ไปดี ตั้งสติได้
บุญหลั่งไหล มาหุ้ม มาอุ้มชู

 การคิดร้าย นั่นประมาท สติขาดไม่อยู่
 แม้ไม่มีใครรู้ สติตัวรู้ ดับ
ใจมืดมิด ปัญญา หายวับ
เปิดประตู รับบาป ขับไล่บุญหนี

คนทั้งหลาย ไม่ใส่ใจ ความคิด
ขาดฝึกสติเป็นนิจ จึงคิดร้าย
เมื่อเรามีสติ ใจเรานี้ มีบุญใส
เป็นบุญใหญ่ นั่นแหละใช่ บารมี

สุราตัวร้าย ทำลายสติ
เป็นประตูหน้า ตัวดี อบายมุข
สุราทำลายชาติประชา มาทุกยุค
สุราราคาถูก ให้ความสนุกสนาน

ยากหลาย ที่ใครตระหนัก ถึงสติ
ก็มี..แต่คนเข้าวัด ปฏิบัติธรรม
กิเลสตัณหา พามหาชน ลงต่ำ
พุทธศาสนา มาค้ำ ปราบไอ้ดำตัวการ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

บุญเกื้อหนุน (เลี้ยงชีวี มิมียาก) :: บุญมาปัญหาหมด บุญลด ปัญหามา สอนให้รู้ว่า บุญนี่หนา หมดได้

บุญเกื้อหนุน
(เลี้ยงชีวี มิมียาก)
บุญมาปัญหาหมด
บุญลด ปัญหามา
สอนให้รู้ว่า
บุญนี่หนา หมดได้
ให้รีบแสวงบุญ
สร้างบารมี โดยเร็วไว
ทำได้ง่ายๆ
เพียงเอาใจ จรดไว้ที่ศูนย์ฯ
อนึ่ง ความอดทน
ก่อเกิดบุญกุศลใหญ่ ได้บารมี
พลิกผันชีวี
ที่ดูแย่ แต่กลับฟื้น
ท้องฟ้าแจ่มใส
หลังฝนตกใหญ่ ระเริงรื่น
จึงอย่าตื่น
เมื่อพบปัญหา ใจกล้าสู้มัน
ปัญหาจะมาเมื่อใด
ใครๆ รู้ได้ยาก
เพราะกรรมเราทำไว้หนัก
ทั้งมาก ทั้งน้อย
เหมือนคลื่นทะเล วิ่งสู่ฝั่ง
เหมือนดัง ทะยอย
เหมือนสุนักล่าเนื้อไล่สอย
ไม่ปล่อย วาง
เมื่อยามยาก ให้รู้จักขันติ
มีความอดทน
ไม่มีบ่น
ทนฝึกสมาธิ ใจจรดที่ศูนย์
ทำสองอย่างนี้
ประคองชีวี สั่งสมบุญ
บุญเกื้อหนุน
อบอุ่นแท้ แน่ใจได้
ทุกอนุวินาที
เราเลี้ยงชีวี ด้วยบุญ
บุญเกื้อหนุน
เลี้ยงชีวี มิมียาก
ให้รีบขวนขวาย
ประมาทมิได้ ถ้าไม่อยากลำบาก
ได้บุญนัก
ถ้าหากได้เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

;;;;;;;;;;