แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักตน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักตน แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565

รักตน (คนรักบุญ) ในคนทั้งหลาย มีน้อยนัก รู้จักรักตน แทบทุกคน คิดว่าตน คือร่างกายเรา ร่างกาย เป็นคล้ายกระดองเต่า ใช่ตนที่ไหนเล่า แต่เป็นของตน

 รักตน
(คนรักบุญ)


ในคนทั้งหลาย  มีน้อยนัก รู้จักรักตน
แทบทุกคน คิดว่าตน คือร่างกายเรา
ร่างกาย เป็นคล้ายกระดองเต่า
ใช่ตนที่ไหนเล่า แต่เป็นของตน

ร่างกายนั้นใช่ เป็นคล้ายทาส 
มีคำสั่งเด็ดขาด ให้ทำโน่นทำนี่
ทาสไม่ขัดขืน ไม่ฝืน ทำตามแต่โดยดี
แม้เหนื่อยเต็มที่ แต่มิอาจพักผ่อน

ทำงานถูกแดด แผดเผาดำคล้ำ
ต้องทำแล้วทำ ตามคำสั่ง
เพื่อเงินๆๆ ทำสุดกำลัง
ตามคำสั่ง ของเจ้านาย คือตน

ใจ ก็ไม่ใช่ตน ถูกปล้นถูกครอง
บุญกับบาป เป็นเจ้าของ ครองใจ
ใจเป็นคล้ายเด็กน้อย ก็ใช่
ทำอะไรไม่ได้ เอาแต่เล่น

ตนแท้ ได้แก่ บุญวาสนาบารมี
ส่วนบาปอัปปรี หรือกิเลส
ตามติดชีวิต ก่อเหตุ
ให้เกิดอาเพท ปัญหานานาประการ

ตนหรืออัตตา จะนำสุขสมปราถนา มาให้
บุญจึงใช่ เป็นตนอัตตา
บุญบารมี ก็คือนิสัยดี นั่นหละ
ใครปราถนา จะต้องมาฝึกตน

ผู้ฝึกตน คือคนฝึกใจ ให้เป็นบุญ
สะอาดบริสุทธิ์ บริบูรณ์ หมดกิเลส
มีสุขสมปราถนา หมดอาเพท
เป็นผู้วิเศษ เป็นที่พึ่ง ประหนึ่งเทวดา

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รักตนและคนทั้งหลาย (ให้ฝึกสติ) ไม่ประมาทในชีวิต มีกิจวัตรที่ดีงาม ทุกโมงยาม ไม่ปล่อย ให้ลอยไปเฉยๆ ทำประโยชน์ ลดกิเลส ให้เคย นอนก็ไม่นอนเฉยๆ นอนในอู่ทะเลบุญ

 รักตนและคนทั้งหลาย
(ให้ฝึกสติ)


ไม่ประมาทในชีวิต มีกิจวัตรที่ดีงาม
ทุกโมงยาม ไม่ปล่อย ให้ลอยไปเฉยๆ
ทำประโยชน์ ลดกิเลส ให้เคย
 นอนก็ไม่นอนเฉยๆ นอนในอู่ทะเลบุญ

ทำประโยชน์ ทั้งสอง ของตนและท่าน
ให้ถึงพร้อม ทั้งทาน..ศีลและภาวนา
ทางสายกลาง ทางชีวิต นั่นหละ
สุขสมปราถนา ทั้งตนและคนอื่น

 สติสัมปชัญญะ อย่าให้ขาด อยู่ในตน
บุญกุศล..หลั่งไหล ไม่ขาดสาย
แม้ตายก็ไปดี ตั้งสติได้
บุญหลั่งไหล มาหุ้ม มาอุ้มชู

 การคิดร้าย นั่นประมาท สติขาดไม่อยู่
 แม้ไม่มีใครรู้ สติตัวรู้ ดับ
ใจมืดมิด ปัญญา หายวับ
เปิดประตู รับบาป ขับไล่บุญหนี

คนทั้งหลาย ไม่ใส่ใจ ความคิด
ขาดฝึกสติเป็นนิจ จึงคิดร้าย
เมื่อเรามีสติ ใจเรานี้ มีบุญใส
เป็นบุญใหญ่ นั่นแหละใช่ บารมี

สุราตัวร้าย ทำลายสติ
เป็นประตูหน้า ตัวดี อบายมุข
สุราทำลายชาติประชา มาทุกยุค
สุราราคาถูก ให้ความสนุกสนาน

ยากหลาย ที่ใครตระหนัก ถึงสติ
ก็มี..แต่คนเข้าวัด ปฏิบัติธรรม
กิเลสตัณหา พามหาชน ลงต่ำ
พุทธศาสนา มาค้ำ ปราบไอ้ดำตัวการ

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2564

รักตน (คือคนเทวดา) ความรัก ไม่อาจจัก เสมอด้วยบุตร เป็นคำพูด ของเทวดา พระพุทธองค์ตรัส ความรักไม่อาจ เสมอด้วยตน ถูกกว่า คนธรรมดา คิดไม่ถึง ตลึงงง

 รักตน
(คือคนเทวดา)

ความรัก ไม่อาจจัก เสมอด้วยบุตร
เป็นคำพูด ของเทวดา
พระพุทธองค์ตรัส ไม่อาจเสมอด้วยตน ถูกกว่า
คนธรรมดา คิดไม่ถึง ตลึงงง

ความรัก แผ่เมตตาปกปัก รักษา
เมื่อมีภัยนาๆ มีอุเบกขา สละชีวาตน
มารดารักบุตร สุดรักกว่าทุกคน
รักท่วมท้น เกิดอานุภาพ ขับไล่มาร
 บิดามารดา ท่านจึงเปรียบว่า เป็นพระ
มีเมตตาอุเบกขา ประดุจอรหันต์ ของบุตร
เมื่อมีมาร เป็นหน้าที่ของท่าน สุดสุด
ป้องกันบุตร สุดชีวิต
ดูเหมือนว่า พระอรหันต์ ไม่รักตน
ต้องดิ้นรน ไม่คำนึงถึงตน ช่วยเหลือคนอื่น
ด้วยเมตตาและอุเบกขา สละชีวา อย่างใจระรื่น
การช่วยเหลือคนอื่น ได้บารมี ที่วิเศษ
 ผู้ที่ให้ คือผู้ที่ได้ พระจอมไตรตรัส
ได้ชัดๆ คือ ได้บุญบารมี
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน สมบูรณ์ดี
นี้คือคำตรัส พระชินสีห์ ขณะจะเข้านิพพาน
ดังนั้น การให้ ใช่ คือการรักตนที่สุด
ทำตนเองให้หลุด ให้พ้นภัย ในสังสาระ
รักเสมอตนไม่มี แสวงบุญสร้างบารมี นั่นหละ
และโลกก็จะ..ไม่ช้ำ ธรรมก็จะไม่เสีย
 สัญชาตญาณ ของมารดา สละทุกอย่าง
แม้กระทั่งชีวา รักษาชีวิตบุตร
ป้องกันอันตราย ไม่ดูดาย ประดุจ
แม่ไก่กล้าสุด ไม่กลัวเหยี่ยวร้าย ไล่ตะเพิดนั้น
ก็ได้ชื่อว่า แสวงบุญสร้างบารมี
อันหมายถึง สละชีวี เพื่อจะได้ของมีค่าที่สุด
เป็นการรักทั้งตน รักธรรม เยี่ยมยุทธ
รักที่สุดคือตน รักใดไม่เสมอ


;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

คนดี (มีพระนิพพานเป็นที่รัก):: ธรรมชาติเป็นใหญ่ ใครๆ ไม่อาจขวาง ใครทำผิดกฎธรรมชาติ มีแต่พัง อนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ แน่นอน

คนดี
(มีพระนิพพานเป็นที่รัก)

ธรรมชาติเป็นใหญ่
ใครๆ ไม่อาจขวาง 
ใครทำผิดกฎธรรมชาติ มีแต่พัง
อนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ แน่นอน

น้ำไหลลงต่ำ
เป็นธรรมดา
ใครๆไม่มีหน้า
เข้าไปขวาง

บุญไหลไปหาผู้ทำ
นำสุขสมหวัง
 บุญวาสนา ประดัง
 ไหลหลั่ง ไม่ขาดสาย

บุญบาป เข้ามากำกับชีวิตคน
 หนีไม่พ้น คนทำกรรม
รู้ตัวเมื่อสาย สุดเสียดาย ช้ำ
ชีวิตส่ำ..สัตว์ น่าอนาถแท้

คนทั้งหลาย
ต่างคิดว่าใช่ ตน คือคนดี
แต่ไม่แคล้ว ถูกตำหนิ
และมีโทษภัย

คนดีแท้ ได้แก่รู้จัก รักงาน
 ซึ่งจะขยัน รักการ ทำความสะอาด
หมั่นเก็บ หมั่นกวาด
ปฏิบัติ เป็นนิสัย

และรักความเป็นระเบียบ
งานจะเนี๊ยบทุกอันไป
ทำงานไม่มีเงื่อนไข
สำเร็จไฉไล ละออ

คนดีแท้ จะรู้จัก รักเพื่อน
ไม่แชเชือน สังคหะ คบหา
ทุกคนใกล้ชิด สนิทสนม สมอุรา
มารยาทงามนักหนา จับใจ

มีเพื่อนแท้เพื่อนตาย
เหมือนได้แก้ว
ทุกอย่างที่ประสงค์แล้ว
จะได้

คนดีแท้ ได้แก่ รู้จักรักตน
คือเป็นคน มีกิจวัตรที่ดีงาม
ตรงต่อเวลา ชั่วโมงยาม
กิจวัตรเลิศล้ำ ทำสมาธิ

สมาธิยังไม่สม่ำเสมอ
ไม่ใช่เน้อ คนดี
จะต้องเป็นผู้ที่
มี พระนิพพาน เป็นที่รัก

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

รักเงิน (เพลินกินบุญเก่า):: รักเงินรักสนุก ลืมทุกข์ ด้วยสนุกสนาน หมกมุ่น มัวเมา ร้อนร่าน ลืมคืนลืมวัน ลืมหน้าที่

รักเงิน
(เพลินกินบุญเก่า)

รักเงินรักสนุก
ลืมทุกข์ ด้วยสนุกสนาน
หมกมุ่น มัวเมา ร้อนร่าน
ลืมคืนลืมวัน ลืมหน้าที่
เสียเงินเสียเวลา
พอกพูนตัณหา บาน
 ศีลธรรมหย่อนยาน
ประหัตประหาร ผู้คนได้
ทรัพย์ทั้งหลายที่กอบโกยไว้
ติดตามไปไม่ได้ ในปรภพ
ชีวิต เป็นจบ
ปรภพ ใช้แต่บุญ
อยากมีความสุขสมปราถนา
พระท่านสอนนักหนา ให้รักษาคน
หมายถึงรักษาตน
และคนอื่น
รักษาตนแท้ ได้แก่อดทน
ขจัดมลทิน ในใจ
โลภโกรธหลงภายใน
ชักโยงใย ให้เราพาล
รักษาคนได้
คือคนใจกว้าง
ไม่ตระหนี่ จึงมีเพื่อนรอบข้าง
สุขสมหวัง ดังเทวดา
ทรัพย์มีไว้ให้ ใจจึงกว้าง
สุขใจจัง สุขสันโดษ
มีก็สักแต่มี ไม่มีหมด
ไม่เคยลด เหมือนน้ำทะเล
กินเพื่ออยู่ ไม่อยู่เพื่อกิน
ชีวิตยังไม่สิ้น ดิ้นสร้างบารมี
ยิ่งให้ยิ่งสุขี
เห็นเพื่อนร่วมชีวี เสมอญาติ
ให้ความเคารพอ่อนน้อม
งามพร้อม ยิ่งกว่าให้ทรัพย์
มองข้ามความไม่ดี ที่เหลือรับ
งามระยับ จับจิตจับใจ
คนใจสูงจึงทำได้
แม้เขาทำร้าย ก็ไม่ถือสา
จะอายุยืน ไร้โรคา
สมบัติใหญ่ไหลมา นี่หละศีล
ให้การบูชา มีศรัทธา
สุดจะยิ่งใหญ่
มีสุขภายใน และมีใจสว่างไสว
มีทรัพย์อจินไตย และมีปัญญามาก

โดยสรุป รักเงิน
เพลินกินบุญเก่า
ถ้ารักตัวของเจ้า
เราจะต้องรักคน

;;;;;;;;;;