แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเวจี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเวจี แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

มิจฉาสมาธิอันตราย (ไม่ใส่ใจความสอาดมีระเบียบ) :: สมาธินอกศูนย์กลางกาย อันตรายยิ่ง ฉลาดจริง แต่ขาดปัญญา เป็นสมาธิ ที่ผิด นอกพุทธศาสนา สมาธิ ที่เป็นสัมมา ต้องศูนย์เจ็ดสอง

มิจฉาสมาธิอันตราย
(ไม่ใส่ใจความสอาดมีระเบียบ)

 สมาธินอกศูนย์กลางกาย อันตรายยิ่ง
 ฉลาดจริง แต่ขาดปัญญา
เป็นสมาธิ ที่ผิด นอกพุทธศาสนา
สมาธิ ที่เป็นสัมมา ต้องศูนย์เจ็ดสอง
 ปัญญาจะมา ถ้าศีลมี
เอาแต่ฝึกสมาธิ ระวังหนา
ศีลสมาธิมี ปัญญา จึงมา
สะอาด สว่าง สงบ นั่นหละ ทางสายกลาง
วัดพระธรรมกาย เน้นหลาย ความสะอาด
สมาธิจึงไม่พลาด ศูนย์เจ็ดสอง
สะอาด มีระเบียบ มีมารยาท จะต้อง
หนึ่งไม่มีสอง คุณยายจันทร์ ขนนกยูง
ศีลเป็นภาชนะ เก็บรักษาที่ดี
ความสะอาดและระเบียบ ไม่ถึงที่ มีปัญหา
ปัญญา เหลือไว้แต่ความเก่ง อหังการ์
ระเบียบจัด ขาดเมตตา นั่นหละ เผด็จการ
ปัญญามาพร้อมกับเมตตา ไม่วางท่าแมงป่อง
คึกคะนอง หยิ่งผยอง ลำพองขน
 อวดเก่ง อวดกล้า เกินตน
 ผู้คน เอือมระอา ส่ายหน้าหนี 
ฉลาด ขาดปัญญา พางมงาย
 ทำร้ายได้ แม้ตน และคนอื่น
ระเบิดพลีชีพ โง่สนิท คิดตื้นๆ
 ยิ้มชื่น ค้าง หลงผิด ได้คิดก็สาย
พระเจ้าคือใคร ไม่รู้
 รู้ว่ามีอยู่ ศักดา มหาศาล
เชื่อมั่นเต็มที่ ยอมพลี รับใช้การ
เสร็จงาน ไม่เอาไว้ ฆ่าควายโคถึก
ตกนรก หมก ไหม้ 
 พญามาร ผลักลงไป เอง
น่าสงสาร แสนทรมาน คนเก่ง
ทำตนเองแท้ๆ นี่แหละ คนฉลาด
รอดแต่ตัว หัว ไม่รอด
ฉอดๆ ต่อบิดา มารดา
ขาด เคารพ และกตัญญุตา 
อวดศักดา ระวังหนา แพ้ภัยตน
คนฉลาด แต่แฉลบ มีสิ่งซ่อนแอบ ปกปิด
 ร้ายกาจเกินคิด เมื่อมีอำนาจ
อำมหิต ผิดมนุษย์ บุตรปีศาจ 
มิจฉาสมาธิ ร้ายกาจ เกินคิด

;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ทำลายสงฆ์กรรมหนัก (จมปลักอเวจี) สังฆทาน เป็นประมุข ของผู้หวังบุญใหญ่ พระสงฆ์ไท้ เป็นประมุข ของผู้บูชา

 ทำลายสงฆ์กรรมหนัก
(จมปลักอเวจี)

พระราชา เป็นประมุข ของบรรดา มนุษย์
สาคร กว้างสุด เป็นประมุขของแม่น้ำ
ดวงจันทร์ งามเฉิดฉัน เย็นฉ่ำ
 เป็นประมุข ประจำ ของดวงดาว

ดวงตะวัน นั้น เป็นประมุข ของความร้อน
แน่นอน สรรพชีวิต ขาดพระอาทิตย์ไม่ได้
สังฆทาน เป็นประมุข ของผู้หวังบุญใหญ่ 
พระสงฆ์ไท้ เป็นประมุข ของผู้บูชา


สงฆ์ นั้นสูงส่ง เป็นอายุพระศาสนา
ใครทำลายสังฆะ กรรมหนัก อนันตริยกรรม
ทำบุญกับสงฆ์ มีอานิสงส์ อนันต์
อุทิศบุญสังฆทาน ย่อมถึงท่าน ในปรโลก

สังฆเภท คือการสร้างเหตุ ให้สงฆ์แตกแยก
ให้สงฆ์แหลก แตกความสามัคคี
กรรมหนักทันตาเห็น เช่นเทวทัต ลงอเวจี
ดังนั้นอย่าริ อย่าดำริ ไม่อาจหนีกฎแห่งกรรม

กฏแห่งกรรม คือกฎแห่งการกระทำ
เที่ยงแท้ยุติธรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เป็นกฎธรรมชาติ ติดตามชีวาต น่ากลัว
พอกกิเลสชั่ว ก่อกรรมวิบาก ซ้ำซากจำเจ
กิเลสกรรมวิบาก เป็นวัฏฏจักร
เหมือนกันนัก กับปลัก โคลนดูด
ตกลงไปแล้ว ยากจะหลุด
หลวงปู่ฯ ท่านเวทนาสุดๆ จึงเร่งรุดขจัดมาร

;;;;;;;;;; 

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2562

เมืองไทยแย่ (เพราะพุทธแท้ไม่มี):: มีวัดพระธรรมกาย แต่ทำไม เมืองไทย ยังมีปัญหา ถ้าธรรมกายดีอย่างว่า ปัญหา น่าจะไม่มี

เมืองไทยแย่
(เพราะพุทธแท้ไม่มี)

มีวัดพระธรรมกาย
แต่ทำไม เมืองไทย ยังมีปัญหา
ถ้าธรรมกายดีอย่างว่า
ปัญหา น่าจะไม่มี
นี่ มีเผด็จการทหาร
ออกรอนราน สยบ
วัดพระธรรมกายก็ถูกกระทบ
ไม่สงบ น่าเป็นห่วง
สาเหตุใหญ่ ไทย ไม่ใช่พุทธแท้
ที่แน่ๆ พุทธแท้ หายไป
ตั้งแต่พุทธองค์ ทรงเสด็จไป
เข้าพระนิพพานได้ ห้าร้อยปี
พุทธแท้ธรรมกาย
เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ได้ไม่นาน
หลวงปู่ฯท่าน
บากบั่น พลันกอบกู้ขึ้นมาได้
เมืองไทยแทบล่ม บรรลัย
วัดพระธรรมกายค้ำไว้ ใครๆไม่รู้
เป็นเรื่องอจินไตย ธรรมกายกอบกู้
เมืองไทยจึงสู้ พออยู่ได้
สิ่งทั้งหลาย
เป็นไป ตามกฎ ไตรลักษณ์
เหมือนร่างกายเรานัก
แม้นจัก มีหมอดี
เสื่อมสลาย ไปทุกอนุวินาที
โดยไม่อาจที่ คงที่ได้
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งศาสนาและเมืองไทย ก็เหมือนกัน
 วัดพระธรรมกาย
เปรียบได้ กับหมอดี วิเศษ
สู้มารกิเลส ได้
จึงโตใหญ่ ขึ้นมา
แต่ยังมี เทวบุตรมาร
ที่ดุดัน อหังการ์
พญามารส่งเป็นแนวหน้า
ออกรอนรานมา นานแล้ว
พระพุทธองค์ ทรงนิพพาน
เพียงชนะมัน มารกิเลส
หลวงปู่ฯท่าน หน่วยรบพิเศษ
มารร้องเป็นเปรต ตัวสั่น
หลวงปู่ฯมหาปูชนียาจารย์
ลงมาปราบมาร โดยเฉพาะ
กอบกู้พุทธแท้ ละออ
ไม่ระย่อ ต่อกรกับหมู่มาร
 ปราบอธรรม ให้สิ้นซาก
จึงยังไม่อาจจัก เข้านิพพาน
ติดตามประหาร
ถึงแหล่งพญามาร สุดธรรม
เทวบุตรมาร
ก็คือคน ปนมาร
ถูกกิเลสสวมขันธ์
จึงถูกมาร ชักพา
ไม่รู้ตัวสักนิด
แม้ตนทำผิด นักหนา
เมื่อมารใช้จนสมอุรา
ไม่รอช้า ถีบส่ง ลงอเวจี

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ลงอเวจีไม่เคยเข็ด (ด้วยเหตุอวิชชา) :: รถยนต์มีน้ำมัน เช่นเดียวกัน คนนั้น มีน้ำใจ จึงจะไปได้ ไปสู่ความเจริญ

ลงอเวจีไม่เคยเข็ด
(ด้วยเหตุอวิชชา)

รถยนต์มีน้ำมัน
เช่นเดียวกัน คนนั้น มีน้ำใจ
จึงจะไปได้
ไปสู่ความเจริญ
น้ำใจ น้ำอมฤทธิ์
มีพลังจิต มีฤทธิ์บันดาล
ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ นั้น
สุขสำเร็จทุกประการ พลันบังเกิด
น้ำใจ น้ำเสียสละ
เกิดจากละ ความตระหนี่
คนชอบให้ เป็นคนดี
น้ำใจมี คนรักใคร่
มีเพื่อนรักมากมาย
พร้อมผ่อนคลาย ความทุกข์ร้อน
คนดี เข้ามาช้อน
ไม่ให้เดือดร้อน อุปการะ
เสียสละอวัยวะ สละความโกรธ
ไม่พิโรธ ให้อภัย
เป็นการให้ แสนยิ่งใหญ่
สละชีวิตได้ รักษาศีล
เกิดเป็นน้ำอมฤทธิ์
พิชิตโรคภัย
ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ยิ่งใหญ่
สง่างามหลาย เหนือมนุษย์
เสียสละชีวิต
สละความคิดร้าย
สละความมืดในใจ
สว่างไสวด้วยปัญญา
เกิดเป็นน้ำอมฤทธิ์
พิชิตกิเลสตัวร้าย
บรรลุธรรม อำไพ
คุณวิเศษมากมาย อจินไตยยิ่ง
ที่ว่ามาทั้งหมด จงรู้ไว้
ใช่ สัมมาทิฏฐิ
จงเดินทางนี้
ทางที่มี ทานศีลภาวนา
แต่ว่าพวกมิจฉาทิฏฐิ
กลับเดินหนี ไปทางตรงข้าม
เป็นทางต่ำ
ทางสะบายล้ำ ทางสนุกสนาน
เขาก็ได้สมบัติต่างๆ
ทุกอย่างเช่นกัน
เป็นเหยื่อล่อ คนพาล
หมู่มาร ตกเบ็ด
กระชากลงอเวจี
แต่ไม่หนี ไม่เข็ด
ด้วยหมู่มาร มีกลเม็ด
ไม่เคยเข็ด ด้วยเหตุอวิชชา 

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562

การทำลายวัด (เท่ากับตัดศีรษะตน)::เสียผู้เสียคน ยิ่งกว่าปล้นบ้าน พ่อแม่

การทำลายวัด
(เท่ากับตัดศีรษะตน)
การทำลายวัด
เหมือนกับตัด ศีรษะตน
เสียผู้เสียคน
ยิ่งกว่าปล้นบ้าน พ่อแม่
เป็นคนไม่มีความคิด
วิปริต บ้าแท้ๆ
สุดสุดแย่
กรรมตามแห่ ทำลายตน
เป็นทาสพญามาร
เขาสั่งการ ด้วยฝังคลิป
ไม่อาจหยิบ ออกได้
เอาฝังไว้ ในที่ลับ
ไม่ใกล้ไม่ไกล
แต่ไม่อาจ จับ
แม้บอกความลับ
แต่กลับ ไม่เชื่อ
คลิปนั่นหรือ
ก็คือ กิเลส
เป็นโปรแกรมสำเร็จ
ก่อเหตุ ในใจ
ให้คิดชั่ว พูดชั่ว
ทำชั่ว ได้
ยิ่งยศใหญ่
ยิ่งชั่วหลาย ทำลายเมือง
ทำลายวัดวา
เท่ากับว่า ทำร้าย มหาชน
ไม่ใช่ผู้คน
แต่เป็นทรชน ผีห่า
เป็นโรคจิต ระยะสุดท้าย
คล้าย หมาบ้า
นี่แหละที่ว่า
มิจฉาทิฏฐิ ดิ่ง
การทำลาย
ผู้มีคุณใหญ่ ของมนนุษย์
ความดีสิ้นสุด
บุญสิ้นสูญ หนักแผ่นดิน
ถูกดูดดำดิ่งลงไป
อยู่ในอเวจี ด่าวดิ้น
ทุกข์มากเกินถวิล
สิ้นกาลนาน

;;;;;;;;;;