แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โยนิโสมนสิการ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โยนิโสมนสิการ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ศูนย์กลางกาย (ใช่สัมมาสมาธิ) ไตร่ตรองธรรม แยบคาย เห็นอรรถได้ ด้วยปัญญา หลุดพ้นแห่งใจ ย่อมมีมา เมื่อตัณหา ลับ เหมือนดับไฟ

 ศูนย์กลางกาย
(ใช่สัมมาสมาธิ)

ไตร่ตรองธรรม แยบคาย
เห็นอรรถได้ ด้วยปัญญา
หลุดพ้นแห่งใจ ย่อมมีมา
เมื่อตัณหา ลับ เหมือนดับไฟ

เมื่อได้คิด ก็คิดได้
คิดได้ง่าย จรดใจ ที่แหล่งสำเร็จ
ที่ศูนย์กลายกาย เป็นกลเม็ด
ฝึกสติ ณ จุดสำเร็จ ได้ปัญญา

คิดแยบคาย ไจจรดศูนย์ฯ
น่าอาดูร คนทั้งหลาย ไม่เชื่อ
ไม่ง่ายไม่ยาก ขอให้ฝึก อย่าเบื่อ
ฝึกทุกเมื่อ ทุกอิริยาบถ
ทำพระนิพพานให้แจ้ง กิจกรณีย์
 การฝึกสติ นี้จำเป็น
เกิดปัญญา เกิดศรัทธา ไม่ใช่เล่น
ที่ยากเข็น เป็นศูนย์กลางกาย
สัมมาสมาธิ เป็นที่ถกเถียง
การเอาเยี่ยง เสียหน้า
ยิ่งมีชื่อเสียง คนศรัทธา
ยากนักหนา การเปลี่ยนนิสัย
ศูนย์กลางกาย สัมมาสมาธิ
โดยมี พระรัตนตรัยในตัว ปรากฏ
ทำพระนิพพานให้แจ้งได้ หมดจรด
พระผู้รู้ มีปรากฎ ให้เห็น
โยนิโสมนสิการะ ไตร่ตรองธรรม
ดวงสว่างล้ำ ที่ศูนย์กลางกาย
เกิดปัญญา ตรองตาม ได้ง่ายๆ
ทั้งรู้ทั้งเห็นได้ รู้อรรถรู้ธรรม

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ปีใหม่ชีวิตใหม่ (สดใสยิ่งกว่าเดิม) :: ขึ้นปีใหม่ ปรับใจ ให้เห็นตรง ไม่ไปทางโค้ง มีคนโกง กับดัก ไม่ปล่อยใจ ไหลตามกระแสกิเลส นำชัก จงตระหนัก แสวงบุญญา สร้างบารมี

ปีใหม่ชีวิตใหม่
(สดใสยิ่งกว่าเดิม)

ขึ้นปีใหม่ ปรับใจ ให้เห็นตรง
ไม่ไปทางโค้ง มีคนโกง กับดัก
ไม่ปล่อยใจ ไหลตามกระแสกิเลส นำชัก
จงตระหนัก แสวงบุญญา สร้างบารมี
ชนะตนให้ได้ ไม่หมกมุ่นมัวเมา
ไม่เป็นแมงเม่า หลงบินเข้าไฟ
ไม่ประมาท เลิกเด็ดขาด อบายมุขทั้งหลาย
ไม่เสียเวลาไป โดยไร้ประโยชน์
ทุ่มชีวี ฝึกสติ มิประมาท
ด้วยรู้เช่นเห็นชาติ การขาดสติ
ติดในกามคุณ หมกมุ่นโลกีย์
อยู่ดีดี ก็เกิดโรคร้าย ไร้ทางเยียวยา
ปรับความเห็นให้ตรง ไม่หลงทาง 
 อยู่อย่าง ผู้มีสติ
 นำใจเข้ากลาง ตามทางบุญ ที่มี
จึงจะมีสติ ถูกต้อง ตามคลองธรรม
มีโยนิโสมนสิการ ท่าน สอนไว้
ปัญญาใส ใจแยบคาย คิดค้น
ใจนุ่มนวล ควรแก่การ ปรับตน
ทนคน ทนคำสอนสั่ง
มีปัญญา มีธัมมัญญุตา
รู้บุญญา สาเหตุแห่งสุข
ล้ำค่า ขจัดบาปเหตุแห่งทุกข์
นำสุขสมปราถนา ให้กะชีวิต
มีปัญญา มีอัตถัญญุตา
รู้ซึ้งธรรมา จึงมีศรัทธายิ่ง
มุ่งทำพระนิพพานให้แจ้ง จริง 
และอย่างยิ่ง แสวงบุญ สร้างบารมี
มีปัญญา มีอัตตัญญุตา
มีสุขสมอุรา อยู่ภายใน
เห็นตน เป็นคนกิเลสหลาย
เห็นกายหยาบ เหมือนกับ เสื้อผ้า
มีปัญญา มีมัตตัญญุตา
เกิดจาคะ สละอารมณ์
 วางใจถูกส่วน สุขบรม
อารมณ์เป็นหนึ่ง นิ่งนาน
 
มีปัญญา มีกาลัญญุตา
รู้จักกาละ ว่าเป็นของน้อย
รู้ว่าภาวนานั้นประเสริฐ เลิศลอย
เวลาเหลือน้อย ทุ่มชีวิต
มีปัญญา มีปริสัญญุตา
เลือกสถานศึกษา วัดวาถูก
ไม่ถูกจูงจมูก
เข้าวัดถูก สุขสมปราถนา
 มีปัญญา มีปุคคลปโรปรัญญุตา
รู้จักหาครู ปูชนียาจารย์
มีศรัทธา มหาศาล
ติดตามท่าน ถึงสุดธรรม
ปีใหม่ชีวิตไหม่
ให้มีใจ อยู่ที่วัด
แสวงบุญ สร้างบารมี มิขาด
ธรรมปฏิบัติ สม่ำเสมอ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

โง่ใจขาด (มีสิทธิ์ฉลาดเป็นกรดได้) โง่ใจขาด กลายเป็นยอดอัจฉริยะ เอตทัคคะได้ เกิดปัญญา สว่างจ้า ด้วยกุญแจใจ ไขชีวิต

โง่ใจขาด
(มีสิทธิ์ฉลาดเป็นกรดได้)
โง่ใจขาด กลายเป็นยอดอัจฉริยะ เอตทัคคะได้
 เกิดปัญญา สว่างจ้า ด้วยกุญแจใจ ไขชีวิต
 วิชชา ขจัดมืดหนา ในจิต
นี่แหละชีวิต การบำเพ็ญจิต จึงเป็นกิจกรณีย์
 ปัญญา มีสาม เรียงตามลำดับ ดังนี้
 สุตตมยปัญญา รู้จำนี้ ท่านชี้ ได้จากการฟังการอ่าน
เป็นปัญญาชั้นต่ำ ตื้นๆเท่านั้น
เป็นความรู้ขั้นพื้นฐาน ยังใช้งานไม่ได้
 
จินตามยปัญญา ได้ปัญญาจากการคิด
คิดแล้วคิด ค้นแล้วค้น รู้จริงจน แตกฉาน
เป็นปัญญาชั้นครู และผู้เชี่ยวชาญ
แต่ก็เท่านั้น เพียงเป็นท่าน พ่อใบลานเปล่า
โยนิโสมนสิการ การตริตรอง ประคองจิต
เกิดนิมิตร แจ่มใส พอประมาณ
  ยังไม่ถึงขั้น รู้แจ้ง แทงตลอด อย่างนั้น
ที่สำคัญ เกิดศรัทธามั่น ในการเจริญภาวนา
ภาวนามยปัญญา รู้แจ้งแทงตลอด ด้วยการเจริญสติ
ฝึกสมาธิ ปฎิบัติธรรม ลึกล้ำปัญญา
พร้อมด้วย คุณธรรม ความเมตตากรุณา
สุขสมปราถนา และเป็นที่พึ่งพามหาชน 
 ภาวนามยปัญญา เข้าถึงธรรมกาย ได้ธรรมจักขุ
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น รู้แจ้ง สว่างจ้า ด้วยวิชชา
ได้ตรัสรู้ คือทั้งรู้ทั้งเห็น อย่างแจ่มจ้า
เกิดยอดอัจฉริยะ เอตทัคคะ อย่างน่าอัศจรรย์
ธรรมจักขุ ตาวิเศษ เห็นเหตุ ไกลใกล้  
น่าตื่นใจ พระรัตนตรัย ในตัว
รู้เห็นหมดจรด รู้เห็นหมด ไปทั่ว
รู้อย่างน่ากลัว รู้จิตรู้ใจ รู้ไส้รู้พุง
โง่มากๆ ด้วยเคยดูถูกคนนัก ในอดีต
เหมือนเอาคมมีด กลีดหินเล่น
จูฬปันถก โง่นัก สุดจักเข็น
 แต่ได้เป็น เอตทัคคะ ณ บัดดล 

แม้มืดตื้อมืดมิด ยังมีสิทธิ์ เข้าถึงธรรม
เพียงเข้ากลาง ทำตาม หลักวิชา
 เส้นผมบังภูเขา วางใจเบาๆ นั่นน่ะ
นุ่มๆนิ่งๆ ค่อยๆหา กุญแจใจไขชีวิต

;;;;;;;;;;


วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

วิเคราะห์เจาะลึก โยนิโสมนสิการ (delve):: ขุดคุ้ยหา จึงรู้มา เนื้อหา พิศดาร โยนิโสมนสิการ นั้นคือ วิเคราะห์ เจาะลึก

วิเคราะห์เจาะลึก
โยนิโสมนสิการ
(delve)
ขุดคุ้ยหา จึงรู้มา
 เนื้อหา พิศดาร
 โยนิโสมนสิการ
 นั้นคือ วิเคราะห์ เจาะลึก
เข้าใจลึกซึ้ง
ถึงกับ เกิดความรู้สึก
ใจหยุดกึก บุญผนึก
นึกถึง ธรรมปฏิบัติ 
อัตถัญญุตา
รู้แก่นเนื้อหา ของธรรม
ไม่เพียงอ่านแล้วจำ
ซึ่งไม่ทำให้ แตกฉานได้
อัตถัญญุตา ไม่ธรรมดา
ใจมีสมาธิ
ซึ่งเป็นปัจจัยอย่างดี
แตกฉานเต็มที่ พหูสูต
 ความรู้ไม่แตกฉาน
ความขยัน ไม่เกิด
การขุดคุ้ยจึงประเสริฐ
ก่อเกิด ปัญญาได้ 
ทำงานอย่างกระตือลือล้น
อยากเห็นผล ไวไว
งานสำเร็จลงได้
สวยวิไล ตามใจนึก
การทำความดี
โดยมี สมาธิเป็นหลัก
จึงถูกต้องยิ่งนัก
ถูกต้องตามหลัก ธรรม
การคิดขุดคุยเนื้อหา
ถูกหลักวิชา เกิดปัญญาล้ำ
พัฒนา การจดจำ
ทำลายโรคร้าย อัลไซเมอร์
สมองโปร่งใส
ใจสดชื่น รื่นเริงจิต
สุขกาย สุขใจ เกินคิด
นี้คือฤทธิ์ ของจินตามยปัญญา
การขุดคุ้ยเนื้อหา
ด้วย โยนิโสมนสิการะ
ศึกษาธรรมะ
นี่หละ ปริยัติธรรม นำปฏิบัติ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

ปริยัติงูพิษ:: ความรู้ ทางโลก ทางธรรม แม้เลิศล้ำ นำ ลาภยศ เป็นภัย คิดไม่ถึง ปรากฎ น่ารันทด ปริยัติ งูพิษ

ปริยัติงูพิษ

ความรู้ ทางโลก ทางธรรม
แม้เลิศล้ำ นำ ลาภยศ
เป็นภัย คิดไม่ถึง ปรากฎ
น่ารันทด ปริยัติ งูพิษ 

ความรู้ ความสามารถ ก็ดี
แต่ต้องมี คุณธรรม กำกับ
ความรู้ฯ ร้อน ธรรมเย็น รองรับ
โลกย่อยยับ ชอกช้ำ ศีลธรรมขาด

ความรู้ท่วมหัว
เอาตัว ไม่รอด
คำค่อนขอด
คนดี ให้สติ

รู้มาก
ยากนาน เฉาชีวี
ไม่ลงมือสักที
ดี แต่ปาก

แม้รู้มาก
ไม่รู้จัก คิด
ความรู้จมมิด
ไม่ แตกฉาน

ขาด
โยนิโส มนสิการ
ใจด้าน
ไม่ปีติ และเมตตา

การศึกษา
พัฒนา นิสัย
เมื่อเข้าใจ
เกิดวิริยะ ปฏิบัติ

ใจนุ่มนวล
ควรแก่การ ฝึกหัด
กิเลสถูกขัด
นิสัย พัฒนา

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

พลิกผัน :: การได้อ่านได้ฟัง ยังปัญญา เกิดได้ ด้วยความเข้าใจ ใจนิ่งใส เกิด

พลิกผัน

การได้อ่านได้ฟัง
 ยังปัญญา เกิดได้
ด้วยความใส่ใจ
 รู้ได้ ใจนิ่งใส เกิด

แล้วยังจำได้
 เล่าให้ใครฟังได้ ประเสริฐ
นี้แหละปัญญาเกิด
 ประเสริฐ สุตตมยปัญญา

การคิด คิดแล้วคิด
 จิต ค่อยๆสงบ
แล้วคำตอบ จะพบ
 พร้อมใจ สงบ ใสเป่ง

นั่นคือ จินตามยปัญญา
 ที่ถูกชมว่า เก่ง
โยนิโสมนสิการ นั่นเอง
 คนเก่ง มีหลาย ในโลก

ภาวนามยปัญญา
 แปลกนักหนา ไม่ต้องคิด
เพียงทำจิต
 นิ่งสนิท ไม่คิดอะไร

เกิดปัญญา
 สว่างแจ่มจ้า ง่ายๆ
มันเป็นอจินไตย 
  ชีวิตจะพลิกผันได้ ปานคนละคน 

จักขุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง
เป็นใจสว่าง ที่ต่างกัน
เรียงตามลำดับชื่อชั้น
ของการ บรรลุธรรม 

เมื่อเกิดปัญญา
 ความสุขสงบ จะมา พร้อม
ใจจะน้อม
 พร้อม จะทำ แต่ความดี
มีความขยัน และอดทน
และจะตั้งต้น ตั้งสัจจะอธิษฐาน
 เป็นปณิธาน 
เมตตาบาน และอุเบกขาบรรลุธรรม

;;;;;;;;;;