แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อัตถัญญุตา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อัตถัญญุตา แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ปีใหม่ชีวิตใหม่ (สดใสยิ่งกว่าเดิม) :: ขึ้นปีใหม่ ปรับใจ ให้เห็นตรง ไม่ไปทางโค้ง มีคนโกง กับดัก ไม่ปล่อยใจ ไหลตามกระแสกิเลส นำชัก จงตระหนัก แสวงบุญญา สร้างบารมี

ปีใหม่ชีวิตใหม่
(สดใสยิ่งกว่าเดิม)

ขึ้นปีใหม่ ปรับใจ ให้เห็นตรง
ไม่ไปทางโค้ง มีคนโกง กับดัก
ไม่ปล่อยใจ ไหลตามกระแสกิเลส นำชัก
จงตระหนัก แสวงบุญญา สร้างบารมี
ชนะตนให้ได้ ไม่หมกมุ่นมัวเมา
ไม่เป็นแมงเม่า หลงบินเข้าไฟ
ไม่ประมาท เลิกเด็ดขาด อบายมุขทั้งหลาย
ไม่เสียเวลาไป โดยไร้ประโยชน์
ทุ่มชีวี ฝึกสติ มิประมาท
ด้วยรู้เช่นเห็นชาติ การขาดสติ
ติดในกามคุณ หมกมุ่นโลกีย์
อยู่ดีดี ก็เกิดโรคร้าย ไร้ทางเยียวยา
ปรับความเห็นให้ตรง ไม่หลงทาง 
 อยู่อย่าง ผู้มีสติ
 นำใจเข้ากลาง ตามทางบุญ ที่มี
จึงจะมีสติ ถูกต้อง ตามคลองธรรม
มีโยนิโสมนสิการ ท่าน สอนไว้
ปัญญาใส ใจแยบคาย คิดค้น
ใจนุ่มนวล ควรแก่การ ปรับตน
ทนคน ทนคำสอนสั่ง
มีปัญญา มีธัมมัญญุตา
รู้บุญญา สาเหตุแห่งสุข
ล้ำค่า ขจัดบาปเหตุแห่งทุกข์
นำสุขสมปราถนา ให้กะชีวิต
มีปัญญา มีอัตถัญญุตา
รู้ซึ้งธรรมา จึงมีศรัทธายิ่ง
มุ่งทำพระนิพพานให้แจ้ง จริง 
และอย่างยิ่ง แสวงบุญ สร้างบารมี
มีปัญญา มีอัตตัญญุตา
มีสุขสมอุรา อยู่ภายใน
เห็นตน เป็นคนกิเลสหลาย
เห็นกายหยาบ เหมือนกับ เสื้อผ้า
มีปัญญา มีมัตตัญญุตา
เกิดจาคะ สละอารมณ์
 วางใจถูกส่วน สุขบรม
อารมณ์เป็นหนึ่ง นิ่งนาน
 
มีปัญญา มีกาลัญญุตา
รู้จักกาละ ว่าเป็นของน้อย
รู้ว่าภาวนานั้นประเสริฐ เลิศลอย
เวลาเหลือน้อย ทุ่มชีวิต
มีปัญญา มีปริสัญญุตา
เลือกสถานศึกษา วัดวาถูก
ไม่ถูกจูงจมูก
เข้าวัดถูก สุขสมปราถนา
 มีปัญญา มีปุคคลปโรปรัญญุตา
รู้จักหาครู ปูชนียาจารย์
มีศรัทธา มหาศาล
ติดตามท่าน ถึงสุดธรรม
ปีใหม่ชีวิตไหม่
ให้มีใจ อยู่ที่วัด
แสวงบุญ สร้างบารมี มิขาด
ธรรมปฏิบัติ สม่ำเสมอ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

มีสัตบุรุษ (เป็นที่สุดของมงคล) ได้ใกล้ชิดสัตบุรุษ เป็นที่สุด ของผู้ต้องการความเจริญ แม้พบพานโดยบังเอิน เพียงครั้งเดียวก็ตาม

มีสัตบุรุษ
(เป็น
ที่สุดของมงคล)


 ได้ใกล้ชิดสัตบุรุษ เป็นที่สุด ของผู้ต้องการความเจริญ
แม้พบพานโดยบังเอิน เพียงครั้งเดียวก็ตาม
ชีวิตพลิกผัน ช่างอัศจรรย์เหลือล้ำ
ส่วนอสัตบุรุษ แม้พบเป็นประจำ ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น

สัปปุริสสูปสังเสวะ การได้ฟังธรรมสัตบุรุษ สุดประเสริฐ
มีชีวิตบันเจิด ขึ้นได้ง่ายๆ
ส่วนอยู่ร่วมกับอสัตบุรุษ แม้อยู่ด้วยกัน จนวันตาย
ก็ยังงมงาย โง่เง่า เป็นเต่าอยู่เหมือนเดิม

ชีวิตเราเกิดมา มีหน้าที่ หาครูดีสัตบุรุษ 
โชคดีสุด ของมนุษย์ ได้เดินตามท่าน
เหมือนคุณยายฯ หรือหลวงพ่อฯ อย่างนั้น
ชีวิตของท่าน ตามหาครูอาจารย์ ก่อนอื่น

หลวงปู่ฯหลวงพ่อฯคุณยายฯ ไม่ธรรมดา
มีคุณวิเศษ ยากจักหา ท่านเป็นสัตบุรุษ
มหาชนถวายชีวิต อุทิศเพื่อท่าน กันอุตลุด
ท่านสอนคน รักษาตนให้บริสุทธิ์ เป็นที่สุดของชีวิต

ในพุทธกาลสมัย ครหทินน์ ได้อาศัยสิริคุตต์
จึงได้เข้าถึง องค์พระพุทธเจ้า
หลวงพ่อครูไม่เล็ก ได้อาศัย หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ ของเรา
จึงได้เลิกลาวิชามาร ของเก่า
เข้าถึงคุณยายฯ


สัตบุรุษมีลักษณะ ๗ ประการ ค้นหาท่านให้พบ
แล้วน้อมนบ เข้าหา ฝากตัวเป็นศิษย์
ละทิ้งเพื่อนเก่า ชวนกินเหล้า ให้สนิท
เดินไปยังทิศ ที่สว่าง ทางสวรรค์

สัตบุรุษ มีลักษณะ ธัมมัญญุตา ข้อที่หนึ่ง
คือรู้ยิ่งถึง เรื่องโลก และชีวิต
รู้ลึกซึ้ง ถึงเรื่องความบริสุทธิ์ ความถูกต้องดีงาม ที่มารปกปิด
ใครจะคิด บุญบาปลิขิต ชีวิตให้เป็นไป

มีคนจำนวนมาก ยังมากมิจฉาทิฏฐิ
ขาดสัมมาสติ คิดว่าเป็นฝีมือของพระเจ้า
งมงาย สวดอ้อนวอน ขอพรเอา
แม้ได้มา แต่เจ้า..รู้ไหม ไม่ต่างอะไรกับปลาหลงเหยื่อ

ข้อสอง อัตถัญญุตา รู้จักว่าผล ของบุญบาป
เป็นกรรมวิบาก วัฏฏจักร ของกฎแห่งกรรม
ฉายออกมาจากใจ ปรากฎออกไป เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน
เป็นภาพซ้ำกัน..กับอดีต อย่าคิดว่าเป็นของใหม่

เมื่อรู้ว่าเป็นภาพเก่า เราจึงต้องอดทนอดกลั้น
 ชดใช้มัน และยังได้ขันติบารมี
เรื่องร้าย กลับกลายเป็นดี
และสำคัญที่ รู้ทัน หรืออัตถัญญุตา

ข้อที่สาม อัตตัญญุตา รู้จักว่าตนเป็นอะไรบ้าง
เป็นหลายๆอย่าง 
เป็นพ่อเป็นแม่..ฯเป็นต้น
ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ ของตน
ที่สำคัญเหลือล้น เป็นมนุษย์ หน้าที่ดีสุด จงรีบรุด เร่งสร้างบารมี

ข้อที่สี่ มัตตัญญุตา รู้จักประมาณ หรือพอดี
ซึ่งจะต้องมีปัญญาดี จึงจะพอดีได้
มีสติ หยุดใจไว้ในตัว จึงต้องใช้
หยุดภายนอกไม่ได้ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ

หยุดใจไว้ในตัว ใจจึงสุข ถูกเมตตา
ความปราถนา..ลามก จะไม่มี
ใจรักสันโดษมักน้อย จึงค่อยมีความพอดี
ความมักมากไม่มี ความพอดีจึงเกิด

  ข้อที่ห้า กาลัญญุตา รู้จักว่า เวลาเป็นของน้อย
เวลาไม่คอย ไม่มีถอยมา
 ปรารภความเพียรเร็วไว อย่าปล่อยไป เวลา
ทำพระนิพพานให้แจ้ง เร็วๆเข้าหนา อย่าประมาท

 ข้อที่หก ปริสัญญุตา เข้ากับหมู่คณะได้
อดทนไว้ เพื่อจะได้ สร้างบารมี
เหมือนคุณยายฯ ยอมคนได้ ปัญหาจึงไม่มี
ชีวิตยอมพลี ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

ข้อที่เจ็ด ปุคคลปโรปรัญญุตา ไม่ธรรมดา มองคนออก
เหมือนครูไม่ใหญ่ ดูคุณยายฯออก บอกว่าใช่
จึงกราบ ฝากตัวเป็นศิษย์ ติดตามไท้
วัดพระธรรมกาย ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยฝีมือยายฯสัตบุรุษ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562

หนีวัฏฏะ (สัตบุรุษ):: ธัมมัญญุตา ธรรมะ ของสัตบุรุษ ผู้มีปัญญาสุด ของมนุษย์ คือผู้ รู้จักบุญ

หนีวัฏฏะ
(สัตบุรุษ)
ธัมมัญญุตา
 ธรรมะ ของสัตบุรุษ
ผู้มีปัญญาสุด
ของมนุษย์ คือผู้ รู้จักบุญ
ทุ่มเทใจ
ให้กับการแสวงบุญ
อย่างเร่งลุ้น
 แสวงบุญ สร้างบารมี
ผู้มีลาภยศฯมาก
ไม่แน่นัก ว่ามีปัญญา
อาจไม่รู้สา
 เพียงแต่ว่า กินบุญเก่า
มีความรู้ความสามารถนัก
อาจเพียงรู้จัก ทางโลก
ไม่อาจหนีทุกข์โศก
จากโลกธรรม
 ธัมมัญญุตา
รู้จักบุญญานั้น
 มีอัตถัญญุตา เป็นสำคัญ
คือจรดใจมั่น ที่ศูนย์กลางกาย
อัตถัญญุตา
วิธีหาบุญ
คือตั้งใจไว้ที่ศูนย์ฯ
ได้บุญทับทวี
อัตตัญญุตา 
เกิดปัญญารู้จักตน
ต้องการหลุดพ้น
กายคนหยาบ เหมือนบ้าน
มัตตัญญุตา
รู้จักประมาณ
คือตัดตัณหา ความอยากทะยาน
ใจตั้งมั่น หยุดนิ่ง
กาลัญญุตา
รู้จักใช้เวลา ทำกิจสำคัญ
ฝึกใจหยุดใจนิ่งนั้น
สำคัญที่สุด
ปริสัญญุตา
ที่สุดนั่นหนา จะต้องเข้าวัด
สมัคคีคือพลัง พาลาไม่อาจ
อยู่ข้างนอก สารพัด อันตราย
ปุคคลปโรปรัญญุตา
เข้าพึ่งพา ผู้มีบารมี
วัฏฏสงสารนี้
มีภัยมาก
การแสวงบุญสร้างบารมี
เพื่อหนีวัฏฏะ
จำต้องพึ่งพระ
ผู้มีบารมี

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กุศโลบาย (งานใหญ่กลายเป็นเล็ก) (strategy) :: มีอุบายล้ำลึก ชนะศึก บ่มิยาก กุศโลบาย ใฝ่กุศล ตระหนัก ใช้เป็นหลัก ครองชีวิต

กุศโลบาย
(งานใหญ่กลายเป็นเล็ก)
(strategy)
มีอุบายล้ำลึก
ชนะศึก บ่มิยาก
กุศโลบาย ใฝ่กุศล ตระหนัก
ใช้เป็นหลัก ครองชีวิต
ใช้กุศโลบาย
งานใหญ่ กลายเป็นงานเล็ก
เหมือนกับเศก
งานใหญ่งานเล็ก สำเร็จง่ายๆ
ศาสนาพุทธ
เป็นกุศโลบาย ไขชีวิต
ธรรมชาติ คือบุญบาป ลิขิต
ครองชีวิต รู้ทันธรรมชาติ
กุศโลบาย
เป็นอุบาย ที่เป็นกุศล
ทำให้คน
หลุดพ้น เวรกรรม
ธัมมัญญุตา
รู้หลักศาสนา ตอกย้ำ
อัตถัญญุตาเลิศล้ำ
แตกฉาน ธรรมปฏิบัติเกิด
อัตตัญญุตา หันมารู้จักตน
คือเป็นคน มีสติ 
สุขทุกข์ก็สักแต่รู้ ผู้มีขันติ
 ปล่อยวางชีวี เหลือแต่สติรับรู้
ปล่อยวางโลกโลกีย์
เข้าสู่ชีวี จริง
มัตตัญญุตาดียิ่ง
ถูกส่วน นุ่มนวล ควรแก่การงาน
 
กาลัญญุตา สว่างจ้า
เกิดปัญญา รู้ว่าเวลา เป็นของน้อย
จึงไม่นั่งคอย
นอนคอย รอวาสนา
ทำสมาธิเต็มที่
ให้คุ้มกับที่ เกิดมา
เป็นมนุษย์มะนา
เป็นเวลา สร้างบารมี
ปริสัญญุตา
มีศรัทธา อยากมาวัด
จึงเข้าไปสัมผัส
ตามวัด ต่างๆ
เข้าไปศึกษา
พิจารณา อย่างจริงจัง
ปุคคลปโรฯมีศรัทธา ประดัง
สุขสมหวัง พาสร้างบารมี
ธรรมะเป็นสาย
เป็นกุศโลบาย ให้เดินตาม
ยิ่งเดิน ชีวียิ่งงาม
สุขล้ำ รุ่งโรจน์ โชตนาการ
กล่าวโดยย่อ ทานศีลภาวนา
อย่าละ ยึดให้มั่น
พ้นทุกข์ พบสุขอนันต์
แม่นมั่น ทั้งโลกนี้ และโลกหน้า

;;;;;;;;;;