แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนีวัฏฏะ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนีวัฏฏะ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

ยกใจให้สูง (มุ่งหนีวัฏฏะ) สุข สำเร็จ สมปราถนา รู้ไหม่ว่า เป็นชื่อของบุญ บุญสิทธิธาตุ อุปถัมภ์ ค้ำจุน แสวงบุญ สร้างบารมี กรณียกิจ

 ยกใจให้สูง
(มุ่งหนีวัฏฏะ)

สุข สำเร็จ สมปราถนา
รู้ไหม่ว่า เป็นชื่อของบุญ
บุญสิทธิธาตุ อุปถัมภ์ ค้ำจุน
แสวงบุญ สร้างบารมี กรณียกิจ

ยกใจให้สูง หนีโลกโลกีย์
พ้นตัณหาอัปปรี หนีบาป
เข้าเส้นทางธรรม ทางบุญ อัตตโนมัติ
ทางชีวาต ทานศีลภาวนา
ยกใจง่ายสุด ด้วยจับอารมณ์
สติสัมปชัญญะ ฝึกฝน นั่นเอง
ใจนิ่งใจหยุด หมดเสงเครง
กลายเป็นคนเก่ง มีปัญญา
การฝึกตนฝึกใจ ยากสุด
การวิมุติ หลุดพ้นตัณหา
ยากสุดยาก เป็นพระพุทธา
ชนะโลกีย์โลกา ชนะมาร
ชีวิต มีใจนำหน้า
สุขทุกข์ของชีวา จึงอยู่ที่ใจ
ซึ่งมีบุญบาป กำกับไว้
อยู่ในดวงธรรมภายใน นั่นเอง
ดวงธรรม เปรียบปาน มารดา
คอยรักษาใจ ที่คล้ายเด็กทารก
ชอบซุกซน สกปรก
เพลินทางโลก โลกีย์
ทานศีลภาวนา ยกใจหนีโลกีย์
มีแต่ทางนี้ ชีวีปลอดภัย
สังสารวัฏฏ์ สุดอันตราย
หมู่มารร้าย สร้างไว้ ให้คนบาป

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566

บูชาข้าวพระ (จะไปสุดธรรม) มนุษย์มาจากไหน น่าสงสัยจริงๆ กระทั่งทุกสิ่ง ในอนันตจักรวาล เป็นระบบระเบียบ เนี๊ยบใครจัดการ ช่างอัศจรรย์ พันลึก

บูชาข้าวพระ
(จะไปสุดธรรม)

มนุษย์มาจากไหน น่าสงสัยจริงๆ
กระทั่งทุกสิ่ง ในอนันตจักรวาล
เป็นระบบระเบียบ เนี๊ยบใครจัดการ
ช่างอัศจรรย์ พันลึก
การสร้างบารมี นี้ มีสองระดับ
หนีวัฏฏะ กับ รื้อวัฏฏสงสาร
ระดับธรรมดา หนีวัฏฏะ เท่านั้น
เข้านิพพาน หลังพ้นกิเลส
ระดับรื้อวัฏฏะ ไม่เข้านิพพาน
สร้างบารมี ปราบมาร ต่อไป
เมื่อหมดอายุ พักอยู่ ดุสิตบุรีได้
ไม่ต้องเวียนว่าย ในวัฏฏะ
เป็นวงบุญพิเศษ เขตของหลวงปู่ฯ
ท่านมากู้ ธรรมธาตุ ขจัดมาร โดยเฉพาะ
จะลงมา ณ เวลาเหมาะ
 จำเพาะ มาสร้างบารมี
 ผู้รู้จักสร้างบารมี เท่านั้น
 ไม่เข้าคุกประหาร วัฏฏะ
นักสร้างบารมี ผู้บูชาข้าวพระ
จะหนีวัฏฏะ บูชาข้าวพระ สำคัญ
การบูชาข้าวพระ
มาพร้อม วิชชาธรรมกาย
เข้าถึงพระนิพพาน จึงบูชาได้
ส่วนขอถึงพระรัตนตรัย นั้นเข้าไม่ถึง
เกิดชาติหน้า สร้างบารมีอย่างเดียว
ไม่ต้องแลเหลียว ทำมาหากิน
พร้อมสมบัติใหญ่ ตักไม่รู้หมดสิ้น
ทุ่มชีวิน แสวงบุญ
หลวงปู่ฯ ค้นพบวิชชาธรรมกาย
 เฉพาะใช้ ปราบมาร
 นำคณะทำวิชชา ทั้งคืนทั้งวัน
วนเวียนกัน ไม่ขาดตอน
ท่านเดินใน กลางของกลาง
จนกระทั่ง ไปรู้ไปเห็น
พระธรรมกาย สามองค์ เป็นๆ
ดังเช่น สามพี่น้อง
สีต่างกัน ขาวใส ดำ และเทา
นิ่งเนา อย่างสงบ อยู่ภายใน
กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพยากตาธัมมา ใช่
ญาณวิเศษของไท้ บอกอย่างนั้น
ท่านรู้ว่า องค์ดำเล่นไม่ซื่อมานาน
สร้างคุกประหาร วัฏจักร
 สร้างกฎ กติกา กำหนดชีวา ส่ำสัตว์
 นิยาม๕ถูกบัญญัติ สรรพสัตว์จำยอม
สรรพสัตว์ ทุกข์ถนัด น้ำตานอง
องค์ขาวใส จีงต้องคิดแก้ไข
 วิธีธรรมดาไม่ไหว
จึงคิดได้ สร้างสัตว์ พันธุ์ชาติมนุษย์
สร้างโลกให้อยู่
แต่มารนกรู้ ตามรังควาน
 ใส่กิเลส กีดกัน
ทำอายุให้สั้น ปานฟองน้ำฝน
 
เริ่มแรกมนุษย์ มหาบุรุษลักษณะ
แต่ว่าฤทธิ์มาร จึงบิดเบี้ยว
อานุภาพธรรมกาย เหลือนิดเดียว
พระกับมาร จึงพอขับเคี่ยว กันได้
รื้อวัฏฏสงสาร ต้องทำเป็นคณะ
เข้าถึงพระธรรมกาย ทุกคน
หลวงพ่อจึงขับเคี่ยว เข้มข้น
ให้พระทุกรูป ทุกตน ฝึกฝนให้ได้

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565

ทรัพย์มีหน้าที่ (มีไว้ทาน) เราต้องสร้างบารมี เพื่อหนีภัยวัฏฏะ นั่นหละ จึงต้องขจัด ความตระหนี่ ใครไม่แบ่งปัน ท่านว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ซึ่งไม่อาจที่ จะสร้างบารมีได้

 ทรัพย์มีหน้าที่
(มีไว้ทาน)

เราต้องสร้างบารมี เพื่อหนีภัยวัฏฏะ
นั่นหละ จึงต้องขจัด ความตระหนี่
ใครไม่แบ่งปัน ท่านว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ซึ่งไม่อาจที่ จะสร้างบารมีได้

อีกอย่าง คนตระหนี่นี้ ตายไป จะกลายเป็นเปรต
น่าทุเรศ ตัวสูงใหญ่มาก แต่ปาก เท่ารูเข็ม
กินอะไรไม่ได้ ได้แต่ดูด แต่เล็ม
ตัวเข้ม เปลือยกาย ผ่ายผอมแห้ง 

มีโอกาศเกิดใหม่ ได้เป็นมนุษย์ สุดลำเค็ญ
ช่างยากเข็ญ อดมื้อกินมื้อ
ไปขอที่ไหน ก็ถูกไล่ คล้ายกระบือ
นี่หละคือ กรรม ความตระหนี่

ความตระหนี่ จึงเป็นภัย ใหญ่อย่างยิ่ง 
การแสวงบุญ จึงเป็นสิ่ง ที่จำเป็น
ขจัดความตระหนี่ได้ ที่ทำให้ยากเข็ญ
แสวงบุญ จึงต้องเน้น เป็นชีวิต

ทรัพย์เป็นเช่นงูพิษร้าย ถ้าไม่ประหยัดสุด..
..ทำประโยชน์สูง มุ่งทำทาน
เป็นวิบัติ กัดเจ้าของ ที่รู้ไม่ทัน
จบกัน..ชีวิต จมมิด ในคุกมืดวัฏฏสงสาร

นานแสนนาน นับการไม่ได้
และเมื่อกลับมาใหม่ ก็ยังคล้ายอย่างเดิม
วนไปวนมา แล้วๆเล่าๆ เข้าอีหรอบเดิม
หมู่มารเหิมเกริม..หนัก สรรพสัตว์ทุกข์หลาย

พระโพธิสัตว์ จึงอุบัติ ปานอาทิตย์อุทัย
สว่างสดใส ขับไล่ อวิชชา
สติสัมปชัญญะ จึงกลับมา
ทำลายโมหะ ความไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562

หนีวัฏฏะ (สัตบุรุษ):: ธัมมัญญุตา ธรรมะ ของสัตบุรุษ ผู้มีปัญญาสุด ของมนุษย์ คือผู้ รู้จักบุญ

หนีวัฏฏะ
(สัตบุรุษ)
ธัมมัญญุตา
 ธรรมะ ของสัตบุรุษ
ผู้มีปัญญาสุด
ของมนุษย์ คือผู้ รู้จักบุญ
ทุ่มเทใจ
ให้กับการแสวงบุญ
อย่างเร่งลุ้น
 แสวงบุญ สร้างบารมี
ผู้มีลาภยศฯมาก
ไม่แน่นัก ว่ามีปัญญา
อาจไม่รู้สา
 เพียงแต่ว่า กินบุญเก่า
มีความรู้ความสามารถนัก
อาจเพียงรู้จัก ทางโลก
ไม่อาจหนีทุกข์โศก
จากโลกธรรม
 ธัมมัญญุตา
รู้จักบุญญานั้น
 มีอัตถัญญุตา เป็นสำคัญ
คือจรดใจมั่น ที่ศูนย์กลางกาย
อัตถัญญุตา
วิธีหาบุญ
คือตั้งใจไว้ที่ศูนย์ฯ
ได้บุญทับทวี
อัตตัญญุตา 
เกิดปัญญารู้จักตน
ต้องการหลุดพ้น
กายคนหยาบ เหมือนบ้าน
มัตตัญญุตา
รู้จักประมาณ
คือตัดตัณหา ความอยากทะยาน
ใจตั้งมั่น หยุดนิ่ง
กาลัญญุตา
รู้จักใช้เวลา ทำกิจสำคัญ
ฝึกใจหยุดใจนิ่งนั้น
สำคัญที่สุด
ปริสัญญุตา
ที่สุดนั่นหนา จะต้องเข้าวัด
สมัคคีคือพลัง พาลาไม่อาจ
อยู่ข้างนอก สารพัด อันตราย
ปุคคลปโรปรัญญุตา
เข้าพึ่งพา ผู้มีบารมี
วัฏฏสงสารนี้
มีภัยมาก
การแสวงบุญสร้างบารมี
เพื่อหนีวัฏฏะ
จำต้องพึ่งพระ
ผู้มีบารมี

;;;;;;;;;;