วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เมตตานัก (จึงรู้จักแบ่งปัน) เวลามีข้าวน้ำ ต้องการคนที่รัก เมตตานัก รู้จัก แบ่งปัน มีสุขสม กลมเกลียวกัน บุตรหลาน รักกัน อยู่เย็น

 เมตตานัก
(จึงรู้จักแบ่งปัน)

เวลามีข้าวน้ำ ต้องการคนที่รัก
เมตตานัก รู้จัก แบ่งปัน
มีสุขสม กลมเกลียวกัน
ลูกหลาน สุขสันติ์ กตัญญู

รักเมตตา ลักษณะผู้ใหญ่
สามารถขยายได้ ไม่สิ้นสุด
มีอานุภาพ ชำระให้บริสุทธิ์
เป็นธรรมาวุธ สุดเวิเศษ
ธรรมชาติสงบสดใส สวยงาม
สรรพสัตว์ก็ตาม สงบ
อาหารการกิน มีครบ
หมู่มารยอมสยบ แพ้ใจ
เมตตามี ความตระหนี่ ไม่มา
แกล้วกล้า สละสุขส่วนตน
ยิ่งสละยิ่งสุข ได้บุญกุศล
กลายเป็นคน สันโดษสมถะ
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
มุ่ง บำเพ็ญทาน
แสวงบุญสร้างบารมี เป็นชีวัน
ทำพระนิพพานให้แจ้งนั้น กรณียกิจ
ใจนิ่งใจหยุด สันโดษสมถะ
มีสุขและเมตตา อย่างน่าอัศจรรย์
เป็นครรลองธรรม บุญอนันต์
สุขสันติ์ สมปราถนากันทุกคน
 พระพุทธศาสนา วิชาชีวิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย ในตน
สันโดษสมถะ ใจหยุด หลุดพ้น
พลิกผันชีวิตตน เป็นคนเกิดใหม่

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สุขแท้ (ได้แก่เมตตา) ความสุข เป็นประตู ไปสู่ สำเร็จ สมปราถนา ด้วยความสุขนั้น ไม่ธรรมดา กำลังใจจะมา ขยันขันติจะมี

สุขแท้
(ได้แก่เมตตา)

 ความสุข เป็นประตู
ไปสู่ สำเร็จ สมปราถนา
ด้วยความสุขนั้น ไม่ธรรมดา
กำลังใจจะมา ขยันขันติจะมี

 อุปสรรคปัญหา ชนะด้วยความเพียร
อยากเป็นเซียน ต้องขยันขันติ
มดปลวก เป็นตัวอย่าง อย่างดี
ก่อจอมปลวก ดุจคีรี ภูเขา
ปลวกก่อจอมปลวก ไม่มีหยุด
สามัคคีสุดๆ พร้อมหน้า
ทั้งวันทั้งคืน ตลอดเวลา
เป็นจอมปลวกมหึมา น่าอัศจรรย์
 มีความสุขได้ ไม่ธรรมดา
ต้องเป็นผู้เสียสละ บำเพ็ญทาน
มีปัญญา มีศรัทธา กตัญญูท่าน
ความสุขแท้นั้น คู่กับเมตตา
โภคทรัพย์ มากับความตระหนี่
มีมากก็อยากได้มาก นี้ คือคน
ทรัพย์ เหยื่อของตัณหา ปุถุชน
เป็นคน..ขาดขันติ มิมีเมตตา
มีโภคทรัพย์สมบัติ มันสนุก
ไม่ใช่ความสุข ที่มีเมตตา
ความสนุก เหยื่อล่อของมารา
ล่อปุถุชนกิเลสหนา ไปอบาย
มีบุญ จึงสุขได้
บันดาลให้ สำเร็จสมปราถนา
ด้วยบุญนั้น เป็นอัตตา
บันดาลด้วย วาสนาบารมี

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สุขสมปราถนา (ไม่ต้องหา มาหยุดใจ) สุขสำเร็จ สมปราถนา ไม่ต้องหา ยิ่งหายิ่งห่าง มีสติ ทำใจนิ่งๆไว้ ตรงกลาง ทางสายกลาง ศูนย์กลางกาย

 สุขสมปราถนา
(ไม่ต้องหา มาหยุดใจ)

สุขสำเร็จ สมปราถนา
ไม่ต้องหา ยิ่งหายิ่งห่าง
มีสติ ทำใจนิ่งๆไว้ ตรงกลาง
ทางสายกลาง ศูนย์กลางกาย

จะได้ความสุข ปีติ
จะรู้ได้ทันที ว่าใช่
สำเร็จสมปราถนา จะถึงได้
อจินไตย อานุภาพบารมี
สุขปีติ ด้วยไม่มีกิเลสตัณหา
เดินทางพระ ทางธรรม
สุขสมปราถนา บุญอุปถัมภ์
ทางธรรม ทางสายสมบัติ
กฎแห่งกรรม ทำหน้าที่
ทำดีได้ดี มีสุขสม
ทำบาปได้ทุกข์ ระทม
เหมาะสม ตามกรรมที่ทำไว้
ผลกรรมจะไหล มาจากอดีต
เมื่อถึงขีด ถึงคราว ก็ส่งผล
หนึ่งสมองสองมือจากอดีต บันดาลดล
ไม่ใช่ของตน ในปัจจุบัน
บุญเป็นอัตตา ตัวตน
บาป สัปดน เป็นศัตรู
บุญสิทธิธาตุ นำสุขสู่
แหล่งของบุญ อยู่ ที่ศูนย์กลางกาย
โลกโลกีย์ มีแต่เหยื่อล่อ
คนน้ำลายสอ อดไม่ได้
ได้แต่สนุก ลืมทุกข์ที่กลบไว้
ยากหลาย สุดยาก จะหันมาหยุดใจ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พุทธศาสนา (สร้างบัณฑิตขึ้นมาค้ำสังคม) ในบรรดา..ที่ปรึกษา ปราถนา คนไม่พูดพล่าม สุขุมพูดน้อย เอาแต่เนื้อความ สง่างาม ลักษณะบัณฑิต

 พุทธศาสนา
(สร้างบัณฑิตขึ้นมาค้ำสังคม)

ในบรรดา..ที่ปรึกษา
ปราถนา คนไม่พูดพล่าม
สุขุมพูดน้อย เอาแต่เนื้อความ
สง่างาม ลักษณะบัณฑิต

พูดน้อย คอยสังเกต จับดี
เอ่ยวจี ที่มีประโยชน์
ไม่เอ่ยสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เพ่งโทษ
เก็บโกรธ ด้วยขันติ
บัณฑิต ผู้รู้ธรรมปฏิบัติ
มีตะบะ บารมี
นำพาหมู่คณะ ประชาชี
สงบสันติ สามัคคีรวมใจ
คนทั่วไป ไร้ขันติ
ไม่สงบวจี ด้วยใจไม่สุข
ใจแคบ ใจขุ่น งุ่นง่าน มีทุกข์
หาเรื่องสนุก แก้ทุกข์ ไปวันวัน
ต่างคนต่างอยู่ ในหมู่ปุถุชน
ไม่สน ไม่กระตือลือล้นดูแลกัน
จึงต้องมีบัณฑิต ผู้ขยัน
เป็นขวัญ กำลังใจ
พุทธศาสนา มีคุณนัก ต่อสังคม
แหล่งอบรม สร้างบัณฑิต ผู้ขยัน
สร้างชาติประชา กลมเกลียวกัน
อดทนอดกลั้น ขันติ
คนพาลเป็นใหญ่ ไม่ขันติ
บัณฑิตไม่มี ในที่ปรึกษา
ยังโง่ทำลาย พุทธศาสนา
สุดระอา โลกา ยุคทะมิฬ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566

บำเพ็ญทาน (สำคัญสุด) การบำเพ็ญทาน สุดสำคัญ ทำให้ท่าน ได้เป็นใหญ่ มหาชนสามัคคี รวมใจ ธรรมชาติสดใส โรคภัยไม่มี

บำเพ็ญทาน
(สำคัญสุด)

การบำเพ็ญทาน สุดสำคัญ
ทำให้ท่าน ได้เป็นใหญ่
มหาชนสามัคคี รวมใจ
ธรรมชาติสดใส โรคภัยไม่มี

เป็นผู้ที่ คนดีคบหา
คนดี เหมือนเทวดา ลงมาโปรด
บำรุงรักษา ปกป้องภัยทั้งหมด
ชีวิตรุ่งโรจน์ ดังตะวัน
เป็นผู้ที่ ผู้คนสนใจ
ร่วมเป็นร่วมตาย ร่วมทุกข์ร่วมสุข
เดินทางไกล ไม่กลัวทุกข์
ทุกข์ก็ทุกข์ด้วย สุขก็สุขด้วยกัน
การบำเพ็ญทาน แสวงบุญฯ
คนไม่คุ้น ไม่รู้จักบุญ เป็นธรรมดา
ด้วยโลกนี้ เป็นที่ของกิเลสตัณหา
ยากนักหนา จะสละ ความตระหนี่
การบำเพ็ญทาน จึงยากนัก
มีบุญมาก มีบารมี
เป็นคนเหนือคน มหาชนเปรมปรี
มีสง่าราศรี เป็นที่เคารพบูชา
เศรษฐีใจบุญ ค้ำจุนสังคม
บุญอุ้มสม พาสังคมอยู่เย็น
พาแสวงบุญ พาพ้นยากเข็ญ
พระพุทธศาสนา เป็นเช่น ตะวัน
ชีวิตไม่อาจ ขาดตะวัน
การบำเพ็ญทาน จึงเป็นชีวิต
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง บำเพ็ญจิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัยในตัว

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

มีชีวา (เพื่อว่าเตรียมตัวตาย) เราเกิดมา เตรียมตัวตาย ทุกวินาที ที่ผ่านไป มีค่า เวลามนุษย์ น้อยนัก สุดพรรณา ท่านเปรียบว่า ปานฟองน้ำฝน

มีชีวา
(เพื่อว่าเตรียมตัวตาย)

เราเกิดมา เตรียมตัวตาย
ทุกวินาที ที่ผ่านไป มีค่า
เวลามนุษย์ น้อยนัก สุดพรรณา
ท่านเปรียบว่า ปานฟองน้ำฝน

คนทั้งหลาย เมามายในชีวิต
ลืมสนิท ชีวิตในโลกโลกีย์
เป็นเพียงโรงละคร ดีดี
อย่าคิดว่านี่ คือสวรรค์
คนทั้งหลาย  ก่อนตายค่อยได้สติ
เสียใจเหลือที่ เป็นอย่างนี้ทุกชาติ
ตายเกิดๆเป็นอนันต์ น่าอนาถ
 เป็นมนุษย์ชาติ ยากนัก อจินไตย
ยากนักจะเชื่อได้ ด้วยไร้ศรัทธา
มีปัญญา จึงจะดับตัณหาได้
เป็นบัณฑิต ฝึกตนฝึกใจ
ยากๆหลาย จะออกจาก ปลักตัณหา
ชีวิต คือการเดินทางไกล
 วนเวียนไป ในวัฏฏสงสาร 
ซึ่งก็คือ คุกประหาร
มีทัณฑ์ทรมาน ในอบายภูมิ
บุญ เปรียบปานมิตรแท้
หรือมารดาแม่ ของเด็กทารก คือเรา
หรือเป็นเสบียง เลี้ยงตัวเก่า
ผู้ไม่เขลา มีปัญญา แสวงหาบุญ
อย่าฝัน จะได้ไปสวรรค์
สำหรับนักสร้างบารมีเท่านั้น ไปได้
ดังนั้นเป็นมนุษย์นี้ มาเตรียมตัวตาย
จะได้สุขสะบาย ไปสวรรค์ 

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ผู้กล้าหาญ (คือท่านผู้มีบารมี) ในเวลาคับขัน ต้องการคนกล้า ผู้มีปัญญา ที่กล้าหาญ มีอุเบกขา สละชีวัน มีอานุภาพ ปราบมาร ที่หาญผยอง

ผู้กล้าหาญ
(คือท่านผู้มีบารมี)

ในเวลาคับขัน ต้องการคนกล้า
ผู้มีปัญญา ที่กล้าหาญ
มีอุเบกขา สละชีวัน
มีอานุภาพ ปราบมาร ที่หาญผยอง
พุทธศาสนา วิชชาปราบมาร
ผ่านศูนย์กลางกายเท่านั้น ใช่
หมู่มารกันนัก โวยวายกันใหญ่
ใช่ไม่ใช่ ให้มาพิสูจน์
สันโดษสมถะ ไม่ใช่อยู่ป่าเขา
แต่หยุดใจของเจ้า ให้ได้
หยุดในหยุด หยุดเข้าไป
มีทางเดินภายใน ทางสายกลาง
คนโง่ กล้า บ้าบิ่น
แม้สละชีวิตสิ้น ไม่ใช่กล้าหาญ
ระเบิดพลีชีพ โง่ดักดาน
การฆ่าทำลายนั้น มันผิดศีล
ปราบมารด้วยบารมี มิมีเวร
ใช้ขันติ เป็น เช่นอาวุธ
ศัตรูกลายเป็นมิตร ประหลาดสุด
ทำชั่วหยุด กลายเป็นคนดี
ศัตรูแพ้พ่าย แพ้ภัยตน
บาปอกุศล เหมือนสนิมเหล็ก
กัดเหล็กผุพังได้ แม้แข็งเป๊ก
บารมีเหมือนเศก ด้วยคาถา
บารมี เป็นที่พึ่งทั้งตน และคนอื่น
มีสุขแช่มชื่น ทั่วหล้า
ธรรมชาติสวยงาม อร่ามตา
นี่หละธรรมะ พระพุทธองค์

;;;;;;;;;;