อาภรณ์อันประเสริฐ
(เกิดด้วยศีล)
ศีลได้ชื่อว่า อาภรณ์ อันประเสริฐ
ด้วยมีคุณสมบัติ ดีเลิศ ดังนี้
ศีลมาจากคำว่าสิระ หรือศีรษะ หรือยอดดี
ด้วยเป็นลักษณะของคนดี ที่เป็นยอดคน
ศีลมาจากคำว่า สีละ แปลว่าปกติ
ด้วยคนเรานี้ ปกติรักชีวีของตน
และมองเห็นคุณค่า ของคน
คนปกติ จึงกระตือลือล้น รักษาศีล
ศีลมาจากคำว่า สีตะละ แปลว่าเย็น
อันเป็นความเย็น เป็นเหมือนได้อาบน้ำ
แล้วนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบหนา สะบายล้ำ
คนอยู่ใกล้ ให้รู้สึกชื่นฉ่ำ ตามไปด้วย
ศีล มาจากคำว่า ศิวะ แปลว่าปลอดโปร่ง
หายใจโล่ง ด้วยใจ ใสบริสุทธิ์
ไม่ระแวงอันใด เหมือนมีเกราะป้องภัย และอาวุธ
ที่ดีสุด เป็นเช่นอาวุธ เกราะแก้ว วิเศษ
ดังนั้น ศีล เป็นคุณธรรม ทำให้เป็นยอดคน
อันเป็นลักษณะของคน..ปกติ ที่สมบูรณ์พูนสุข
เย็นกายเย็นใจ ชีวิตปลอดโปร่งปลอดภัย ไร้ทุกข์
ไร้เวรกรรม นำสุขแท้จริง
พระสารีบุตร เคยพูดไว้ว่า
ศีลนั่นหนา คือการตั้งเจตนางดเว้น กายทุจริต๓
ไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่ประพฤติผิดในกาม
และวจีทุจริต๔ ก็ตาม ได้แก่ พูดเท็จ คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ
ศีลยังเป็นเจตสิก หลีกจากมโนทุจริต๓
มีนาม..ว่า คิดโลภ คิดพยายาท และคิดเห็นผิด
โดยสรุป ศีล เป็นการสำรวมระวัง การปิดกั้นความชั่ว ทุกชนิด
ตั้งจิต งดเว้นชั่ว ทุจริต สิ่งไม่ดีทุกประการ
ศีลนี้ เป็นบุญกิริยาวัตถุ หรือการทำบุญญา
ทุกครั้งที่ตั้งเจตนา งดเว้น จะมีกระแสบุญไหลรุด
ชำระใจ ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์
อันเป็นปัจจัย เยี่ยมยุทธ ของชีวิต
ศีล นี้หละ จะทำให้ชีวา ปกติ
คือมีสุขี สมปราถนา ทั้งดินฟ้าอากาศ
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และโรคระบาด
อีกทั้งคนภัยคนพาล ไม่อาจ เข้าใกล้
ศีล นี้หละ ได้ชื่อว่า มหาทาน
ข้อที่หนึ่งนั้น ไม่ฆ่า ได้ชื่อว่าให้ชีวา
ข้อที่สองไม่ลักทรัพย์ นับว่า ให้ฐานะ
ข้อที่สาม ไม่เจ้าชู้นั้นหนา ให้ครอบครัวอบอุ่น
ข้อที่สี่ ไม่พูดคำเท็จ อันเป็นเหตุให้ระแวง
เกิดความคลางแคลง ไม่สะบายใจ
การพูดคำจริง จึงยิ่งหญ่
ให้ความสุขใจ แก่ผู้คน
ข้อที่ห้า ไม่ดื่มสุรา อันทำให้ประมาท ขาดสติ
เป็นเช่นพระอาทิตย์เปร่งรัศมี สว่างไสว
สรรพสัตว์ เหมือนนัด ต่างดีใจ
ธรรมชาติ สดใส สุดสวยด้วยตะวัน
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น