วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ทรัพย์สมบัติ (ไม่อาจใช้ในปรโลก) ทรัพย์สมบัติ ขาดไม่ได้ ใช้เลี้ยงชีวิต ทุกผู้คน จึงวิ่งขาขวิด หาทรัพย์ หากันจ้าระหวั่น แข่งขันกันรวย ถึงกับ ลืมบุญ ลืมบาป ลืมญาติพี่น้อง

 ทรัพย์สมบัติ
(ไม่อาจใช้ในปรโลก)

ทรัพย์สมบัติ ขาดไม่ได้ ใช้เลี้ยงชีวิต
ทุกผู้คน จึงวิ่งขาขวิด หาทรัพย์
หากันจ้าระหวั่น แข่งขันกันรวย ถึงกับ
ลืมบุญ ลืมบาป ลืมญาติพี่น้อง

คนทั้งหลาย ลืมคิดไปว่า
ทรัพย์นั้นหนา เพียงใช้ได้ ในโลกนี้
หลังตาย ซึ่งนานหลายๆ ใช้แต่บุญที่มี
 พระพุทธองค์ อุบัติขึ้นมานี้ เพื่อที่จะมาบอก

 เมื่อตายไป สิ่งที่หาไม่ได้ใช้ ได้แก่ทรัพย์
ตรงข้ามกับ สิ่งที่ใช้ไม่ได้หา นั่นหละ คือบุญ
โลกมนุษย์นี้ พระท่านชี้ ต้องเร่งลุ้น
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
เพราะทุกวันนี้ ที่เราสะบายอยู่ได้
ด้วยอาศัย บุญเก่า กรรมวิบาก
โลกนี้คือโรงละคร ที่กรรมนำชัก
ไม่ใช่ผลจาก หนึ่งสมองสองมือ
กิเลสกรรมวิบาก อยู่หลังฉากละคร
คอยกำกับ ทุกตอน สอนให้คิดให้พูดให้ทำ
ดังนั้น คนดีก็รวยได้ คนชั่วก็รวยได้ ด้วยกรรม
ที่ทำไว้ในอดีต เมื่อถึงขีดถึงคราว
อย่าคิดว่า บุญบาปไม่มี ทำดีได้ดีมีที่ไหน
จะเชื่อใคร ถ้าไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่าผ่าน มิฉนั้นโง่เขลา
ผู้ดูเบา ปัญญาพระพุทธเจ้า คือคนพาล
น่าเวทนายิ่งนัก สรรพสัตว์คล้ายกัน เมามันชีวิต
เหมือนคนตาบอดสนิท ไม่คิดว่ามีท้องฟ้า
เดินตามกัน สู่โรงประหาร ของมารา
เมื่อตอนจะตายสติคืนมา เป็นอย่างนี้หละ ทุกภพชาติ
บ้านแท้ของสรรพสัตว์ แน่ชัด ที่ปรโลก
น่าตลก โลกมนุษย์ เลิศสุด มาขุดทอง
มาแสวงบุญ สร้างบารมี  อันเป็นที่หมายปอง
ของ..สรรพสัตว์ทั้งผอง ในปรโลก 
ทรัพย์สมบัติ ปนตัณหา หากว่าขาดสติ
ลืมไปว่า สมบัตินี้ มาด้วยบุญ
จะเกิดความทยานอยาก มักมาก กามคุณ
สมบัติไม่ใช่สมบัติ ค้ำจุน ชีวิต
สมบัติเป็นวิบัติ ทำลายตน
เหมือนเหล็กมีสนิมปน ทำลายจน ผุพัง
สมบัติเป็นวิบัติ ทำลายล้าง
สมบัติให้สุขสมหวัง เพียงใช้แสวงบุญสร้างบารมี

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น