วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565

สุขนิรันดร์ (อุดมการณ์ชีวิต) เราคือใจ ไม่ใช่ร่างกาย ร่างกาย เป็นบ้านที่อาศัย ให้ใจอยู่เท่านั้น ใจต้องมีน้ำใจ หล่อเลี้ยง เป็นอาหาร มิฉนั้น ใจจะแห้งเหี่ยวโหยไห้ เบื่อหน่ายซึมเซ็ง

 สุขนิรันดร์
(อุดมการณ์ชีวิต)

เราคือใจ ไม่ใช่ร่างกาย
ร่างกาย เป็นบ้านที่อาศัย ให้ใจอยู่เท่านั้น
ใจต้องมีน้ำใจ หล่อเลี้ยง เป็นอาหาร
มิฉนั้น ใจจะแห้งเหี่ยวโหยไห้ เบื่อหน่ายซึมเซ็ง

คนทั้งหลาย ปล่อยให้ใจเหี่ยวแห้ง
ออกอาการสำแดง จึงหาแหล่งเพลิดเพลิน
ติดอบายมุข สุขนิด แต่พิษเหลือเกิน
เหมือนหลับตาเดิน ใกล้ปากเหว เหลวเละแน่

ใจที่มีน้ำใจ คือคนใจกว้าง
จะไม่อ้างว้าง..ว้าเหว่ โดดเดี่ยว
มีความสุขสงบ สุขแท้ แม้อยู่คนเดียว
ไม่เปล่าเปลี่ยว สุขหลาย ใจสันโดด

น้ำใจไม่ใช่อะไร ก็คือบุญ
เราจึงต้องเร่งลุ้น แสวงบุญสร้างบารมี
มิฉนั้น ใจไม่อาจอดกลั้น ตัณหากาลี
พาใจหนี ออกจากกาย อันตรายนัก

ใจกว้างยังไม่พอ ยังมีต่อ ใจต้องสูง
ใจยังสะดุ้ง ต่อภัย อันตรายจากคนพาล
ต้องยกใจให้สูง ใจจรุงห้าวหาญ 
เป็นคนยอมคนเท่านั้น จะห้าวหาญชาญชัย

ใจจะสูง ด้วยใจมุ่งรักษาศีล
รักษาเป็นอาจิน ใจจะสดใสซาบซ่าน
เป็นคนยอมคน อดทนอดกลั้น
รักษามั่น ศีลห้า อริยะวินัย

คนยอมคน ไม่ใช่คนอ่อนแอ
เพียงแต่ ยกใจสูง ไม่มุ่งลงต่ำ
ไม่ถือสา ใครจะร้ายมา อย่างไรก็ตาม
ไม่สู้ไม่หนี ไม่ลงต่ำ รักษาวินัย

ความบริสุทธิ์สดใส ใจหาญกล้า
แปลกนักหนา หมู่พาลา ระย่อ
ศีลจึงเป็นอาวุธวิเศษ เป็นเกราะ
ใจสูงนี่หนอ รักษาวินัย น้ำใจงาม

ใจกว้างใจสูงแล้ว คล้ายแก้วใส
ชีวิตยังไม่ปลอดจากภัยไหญ่ ภัยวัฏฏะ
จึงยังไม่ปลอดโปร่งโล่งเบา ด้วยธุระ
หนีภัยวัฏฏะ ที่สุดจะอันตราย

ดังนั้น ใจต้องพัฒนาต่อไป ให้สงบและสว่าง
ฝึกสติ ให้หยุดยั้ง ปล่อยวางความอยาก
เกิดสุขสันโดษ ล้นทะลัก
แสงสว่างประจัก จากพระรัตนตรัย

พ้นภัยวัฏฏะ ด้วยอานุภาพ พระรัตนตรัย
เบิกบานใจ สุขไม่มีประมาณ
ใจเป็นอิสระ ปลอดจากเครื่องผูกพัน
เป็นสุขนิรันดร์ อุดมการณ์ชีวิต

;;;;;;;;;;




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น