วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สุขสันโดษ (พ้นกฎแห่งกรรม) มีความพอใจได้ ใจจึงจะสุข ส่วนความสนุกนั้น มันพอใจชั่วคราว ทุกคนรู้จัก ได้รักใหม่ ลืมเก่า สุขไม่ยาว สุขทางโลก

 สุขสันโดษ
(พ้นกฎแห่งกรรม)


 มีความพอใจได้ ใจจึงจะสุข
ส่วนความสนุกนั้น มันสมใจชั่วคราว
ทุกคนรู้จัก ได้รักใหม่ ลืมเก่า
สุขไม่ยาว สุขทางโลก

ความสมใจอยาก ในวัตถุทรัพย์สมบัติ
เหมือนกันชัด กับไฟ ไม่อิ่มเชื้อ
มีมากเท่าใดยิ่งดี มิมีวันเบื่อ
ที่เหลือเชื่อ ถึงกับ ดับปัญญาตน

ใจเมื่อมีกิเลสตัณหา จะลุกลาม
เหมือนไฟป่า บ้าระห่ำ ยากล้ำจะดับได้
เผาไหม้ทุกสิ่งอย่าง สุดอันตราย
ทำลายทำร้าย ทั้งตนและคนอื่น

ความพอใจ สำคัญหลาย ในทางธรรม
จงจำ คำว่า สันโดษ
เป็นลักษณะของใจที่มีสติ ปราโมทย์
ไม่แล่นโลด แต่หยุดนิ่ง ในตน

เป็นใจที่ หลุดจากกระแสโลกตัณหา
เหมือนหลบจากพายุมา หาที่ปลอดภัย
ภายในตน เปรียบได้ปานเรือใหญ่
ภัยใดๆ ไม่อาจกล้ำกลายได้

สุขสันโดษ สุขจากใจหยุดใจนิ่ง
สุขจริงๆ ไม่อิงวัตถุ
มีทั้งสุข ทั้งปีติ น่าดู
และยังมาคู่ กับเมตตามหานิยม

สุขสันโดษ สุขทั้งตนและคนอื่น
อีกทั้งธรรมชาติสดชื่น สดใส
โลกและสวรรค์ ไม่ห่างกันไกล
สุขใจได้ เหมือนคล้าย บนสวรรค์

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เสียชีพ (อย่าเสียสัตย์) ความสัตย์มีรสเลิศ กว่ารสทั้งหลาย ความปีติใจ เลิศกว่ารสทั้งปวง ความสัตย์เป็นบุญ คุณใหญ่หลวง ติดตามเป็นห่วง อย่างมารดา

 เสียชีพ
(อย่าเสียสัตย์)

 

ความสัตย์มีรสเลิศ กว่ารสทั้งหลาย
ความปีติใจ เลิศกว่ารสทั้งปวง
ความสัตย์เป็นบุญ คุณใหญ่หลวง
ติดตามเป็นห่วง อย่างมารดา

ความสัตย์ ความดี บริสุทธิ์สะอาด
เสียชีพอย่าเสียสัตย์ สละชีวิต
รักษาความดี กรณียกิจ
อย่าทำบาปแม้นิด โทษอนันต์

คำสัตย์ วาจาไม่ตาย
มีฤทธิ์หลาย ได้บุญอนันต์
บุญ ธาตุกายสิทธิ์ เหมือนฝัน
เป็นอัศจรรย์ ให้สุขสมปราถนา

เกียรติ ชื่อเสียง มีด้วยความสัตย์
เห็นได้ชัด ได้ความไว้วางใจ
ในบ้านเมือง ได้ตำแหน่งใหญ่
คนจัญไร เป็นใหญ่ได้ แต่ไปไม่รอด

สัตตบุรุษ มั่นคงในสัตย์
อภิชาติ มีแต่สูงกับสูง
นำพามหาชนพ้นอบาย ชีวีรุ่ง
ชีวิตมุ่ง เข้าถึง พระรัตนตรัย

พึงรักษาความสัตย์ ด้วยชีวิต
คนเขลา โง่สนืท ตามใจตน
ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักบาป ปุถุชน
ทุกข์ท่วมท้น ในอบายภูมิ

ทางสายกลาง ทางความสัตย์
แน่ชัด ผ่านศูนย์กลางกาย
ทางตรงทางลัด นอกนั้นไม่ใช่
เข้าถึงได้ พระรัตนตรัย ในตัว

;;;;;;;;;;


วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ขันติคุณธรรม (เลิศล้ำคนดี) ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นบุคคล เป็นที่ชอบใจ ย่อมอยู่สบาย ในทุกที่ เป็นที่รักใคร่ ศูนย์รวมใจ สามัคคี ขันตินี้ ยอดคุณธรรม

 ขันติคุณธรรม
(เลิศล้ำคนดี)

ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นบุคคล ที่คนชอบใจ
ย่อมอยู่สบาย ในทุกที่
เป็นที่รักใคร่ ศูนย์รวมใจ สามัคคี
ขันตินี้ ยอดคุณธรรม

ยกเว้นปัญญา ท่านว่า ขันตินี้เป็นยอด
นำความสำเร็จ ตลอด..จนชัยชนะ
ด้วยขันตินั้น เป็นเหมือนไฟ ไหม้กิเลสะ
จึงได้บารมี ปราบพาลา และปัญหาอุปสรรค

เป็นบัณฑิตฝึกตน ให้เป็นคนมีขันติ
แล้วคุณงามความดี จะไหลลี่มาหา
ชีวิตพลิกผัน อัศจรรย์ อย่างว่า
เป็นผู้ไม่ธรรมดา มีบารมี

เราเกิดมาสร้างบารมี จึงหนีขันติไม่ได้
ทานศีลภาวนาสุดใจ สะสมไว้ขันติ
เมื่อประสพปัญหา ให้ตั้งสติ
ได้เวลาดี สั่งสมขันติบารมีแล้ว

ขันตินี้ คือความอดทนอดกลั้น
ต่อกระสัน..ความอยาก ตัณหาอุปาทาน
ออกจากทางโลก เข้าสู่ทางธรรม ไม่กันดาน
ชีวิตพลิกผัน..อย่างว่า ด้วยบารมี

ขันติคุณธรรม นำชีวิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
อดทนอดกลั้นไว้ เป็นคนยอมคน

เป็นคนยอมคน ทนรักษาความดี
รักษาสติ ให้ดี เอาไว้ในตน
รักษาปีติ ใจไม่ตก หมดทุกข์ทน
เป็นคนยอมคน มีความเคารพคารวะ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ความตายไม่ธรรมดา (อย่ารอช้า รีบหาบุญ) ชีวิตสรรพสัตว์ เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วน สลายสิ้น เป็นที่สุด ความตาย ไม่มีนิมิตรหมาย แต่มนุษย์ ทำตัวประดุจ ตายไม่เป็น

 ความตายไม่ธรรมดา
(อย่ารอช้า รีบหาบุญ)

ชีวิตสรรพสัตว์ เหมือนภาชนะดิน
ซึ่งล้วน สลายสิ้น เป็นที่สุด
ความตาย ไม่มีนิมิตรหมาย แต่มนุษย์
ทำตัวประดุจ ตายไม่เป็น

ปราชญ์กล่าวว่า ชีวานี้น้อยนัก
เพียงสัก หยดน้ำค้าง บนยอดหญ้า
ฟองน้ำฝนหนึ่งฟอง ของฝนทั่วฟ้า
หรือรอยขีดในน้ำ เท่านั้นหละ อายุคน

 ผัดผ่อนกับมฤตยู ผู้มีกองทัพใหญ่
เป็นไป..ไม่ได้เลย จะผัดผ่อน
แม้พระผู้รู้ เพียงรู้ วันแน่นอน
ปุถุชนไม่เดือดร้อน นอนสะบาย

เมื่อชรา พาไป ไม่มีผู้ป้องกัน
เหมือนตะวัน คล้อยต่ำ ธรรมชาติ
ความชราเตือนสติ มิให้ประมาท
ตัดอาลัยให้ขาด โอกาศสุดท้าย

เมื่อสัตว์จะตาย ไม่มีผู้ป้องกัน
แม้รู้ทัน ก็สาย เสียดายชีวิต
เวียนว่ายวัฏฏะ อำมหิต
ทุกข์หลาย สุดคิด อจินไตย

ทรัพย์สักนิด ก็ติดตามไปไม่ได้
 กอบโกย กันไปทำไม นักหนา
สรรพสัตว์ ขาดศรัทธา
กัลยาณมิตร จึงล้ำค่า สุดบรรยาย

ขจัดความแก่ ด้วยทรัพย์ไม่ได้
ทรัพย์ทั้งหลาย คล้ายภรรยาสาว
คนแก่ ทั้งทุกข์ ทั้งเศร้า
ส่วนภรรยาสาว ดีใจ เหมือนได้ปีก

;;;;;;;;;;


วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เมื่อใจตก (นรกถามหา) อย่าปล่อยให้ใจตก นรกถามหา อุปสรรคนาๆ เข้ามาใกล้ แม้ชีวิต ก็รักษาไว้ไม่ได้ อยู่ในช่วงอันตราย ให้ระวัง

 เมื่อใจตก
(นรกถามหา)


อย่าปล่อยให้ใจตก นรกถามหา
อุปสรรคนาๆ เข้ามาใกล้
แม้ชีวิต ก็รักษาไว้ไม่ได้
 อยู่ในช่วงอันตราย ให้ระวัง

โลก อันจิตนำไป พึงระวังจิต
ไม่ปล่อยให้คิด..พูดทำ ตามใจอยาก
การฝึกสติ จึงต้องย้ำมากๆ
ทำพระนิพพานให้แจ้ง เป็นหลัก..ชีวิต

การฝึกสติ นี้คือการยกใจ
ให้พ้นกระแสอันตราย กิเลสตัณหา
หรือกิเลสกรรมวิบาก ของมารา
พ้นกระแสบาปหนา มาสู่กระแสธรรม

กระแสธรรม สว่างล้ำ ทางสายกลาง
 สุดสว่าง ที่ศูนย์กลางกาย
สัมมาสติ นั่นแหละใช่
หลักชัย เข้าถึงพระรัตนตรัย ในตัว

คนทั้งหลาย ไม่ควบคุมจิต
ถูกหรือผิดไม่รู้ ลู่ตามสังคม
เหมือนน้ำ ไหลตามกันไป ที่คนนิยม
สุดระทม น่าสลด ทั้งหมดไปอบาย

ยกเว้น คนเข้าวัด ศรัทธาพระศาสน์
ฝึกสติยกใจ ไม่ขาด เป็นอาจิน
แสวงบุญสร้างบารมี สุดชีวิน
มีปีติกิน เป็นภักษา มนุสสเทโว

มีจำนวนน้อยแสนน้อย เท่า เขาวัว
ที่รู้ตัว เข้าวัดปฏิบัติธรรม
ส่วนขนนั้นมากนัก ชอบทางต่ำ
ไม่ฟังคำ..พระ ไม่ละมิจฉาทิฏฐิ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เกิดมาไม่ทาน (แล้วท่านจะทำอะไร) ท่านว่า ทานและการรบ เสมอกัน จุดสำคัญ การมีศัตรู ต้องสู้ด้วยขันติ ทาน ต้องอดทน ต่อความตระหนี่ ขันติ ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

 เกิดมาไม่ทาน
(แล้วท่านจะทำอะไร)


ท่านว่า ทานและการรบ เสมอกัน
จุดสำคัญ การมีศัตรู ต้องสู้ด้วยขันติ
ทาน ต้องอดทน ต่อความตระหนี่
ขันติ ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

เมื่อจิตเลื่อมใส ในทักขิณาทาน
บุญนั้น ชื่อว่าน้อยย่อมไม่มี
สังฆทาน หรือทักขิณาทาน นี้
จึงเป็นบุญที่ อุทิศได้ ไปให้ผู้ล่วงลับ

การเลือกให้ พระสุคตสรรเสริญ
เลือกเนื้อนาบุญใหญ่ ใดไม่เกินสงฆ์
คือให้ ไม่เฉพาะเจาะจง
แต่เป็นสงฆ์ ในพุทธศาสนา

คนพาลเท่านั้น ไม่สรรเสริญทาน
การสังเกตคนพาล ดูการให้
คนพาลได้แต่เอา คนจัญไร
มีเท่าได ก็ไม่พอยัดไส้ ใช่คนพาล

ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
ชีวิตต้องเดินทางไกล ต้องมีมิตร
หัวเดียวกระเทียมลีบ หมดสิทธิ์
ชีวิตทุกข์หลาย ในสังสารวัฏฏ์

ผู้ให้เป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา
ส่วนคนเขลา ตระหนี่ มีแต่ศัตรู
ขี่หลังเสือ ลงไม่ได้ 
และไม่อาจอยู่
กว่าจะรู้..สึกตัว ก็สายแล้ว

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก เป็นธรรมดา
จิตเมตตา..นี้ มีอานุภาพ
กลับจิตกลับใจ คนสันดานหยาบ
เหมือนตื่นจากหลับ ชีวิตกลับ เป็นคนละคน

;;;;;;;;;;

ชนะไม่มีแพ้ (มีแต่ทางธรรม) ผู้ชนะ ย่อมก่อเวร ที่เห็นๆ คือเถรเทวทัต แม้มีพุทธบารมี มารยังบังอาจ เทวทัต ยังตามล่าตามล้าง

 ชนะไม่มีแพ้
(มีแต่ทางธรรม)


ผู้ชนะ ย่อมก่อเวร
ที่เห็นๆ คือเถรเทวทัต
แม้มีพุทธบารมี มารยังบังอาจ
เทวทัต ยังตามล่าตามล้าง

ให้ธรรม ย่อมชนะให้ทั้งปวง
ทุกข์ใหญ่หลวง คือวัฏฏะ
พ้นจากกิเลสกรรมวิบาก จึงชนะ
ให้ธรรมะ มีศรัทธา จึงสุดยอด

รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวง
ก้าวล่วง รสทั้งปวง โลกีย์
แม้สุดยาก พรากจากกามคุณนี้
 ชนะโลกีย์ ได้ด้วยบารมี นี้เท่านั้น

ยินดีในธรรม ชนะความยินดีทั้งสิ้น
ธรรมทาน จึงเป็นปิ่น ความยินดี
เกิดปัญญา มีศรัทธา ชื่นชีวี
สุดแสนยินดี ชีวีพลิกผัน
 

สิ้นตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง
ภัยที่ใหญ่หลวง คือตัณหา
ยิ่งกว่ายาเสพติด ทำลายชีวา
ออกยากนักหนา แม้ตายก็ยอม

ชัยชนะ ที่กลับแพ้ได้ ไม่ดี
ชนะด้วยบารมี จึงดีสุด
ไม่กลับแพ้ มีกตัญญู เป็นอาวุธ
อภิชาติบุตร ตกน้ำไม่ไหล ไฟไม่ไหม้

พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
ความพิโรธ ร้อน ดับด้วยเย็น
น้ำดับไฟ เราเห็นๆ
ความเย็น ความอดทน มีชัยชนะ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

การฝึกจิต (ชีวิตเจริญ) จิตเศร้าหมองได้ ไปสู่ทุคติ ทุกชีวี ไม่อาจหนีกฎแห่งกรรม ทำชั่วได้บาป มืดดำ ไหลลงต่ำ คราคร่ำ ความเพลิน

 การฝึกจิต
(ชีวิตเจริญ)


จิตเศร้าหมองได้ ไปสู่ทุคติ
ทุกชีวี ไม่อาจหนีกฎแห่งกรรม
ทำชั่วได้บาป มืดดำ
ไหลลงต่ำ คราคร่ำ ความเพลิน

จิตผ่องใส ไปสุคติ
ซึ่งยากเหลือที่ จะไปได้
สรรพสัตว์ จมปลักตัณหา จัญไร
จักออกได้ ยากยิ่งกว่ายาก 

โลกชีวิต อันจิตนำไป
ใช่.. โอกาศโลก สังขารโลก สัตวโลก
เป็นระบบระเบียบ น่ารู้ ดูตลก
คนโมเม ยก..ให้พระเจ้า

การฝึกจิต ให้ปราณีต
กรณียกิจ ของชีวิต สรรพสัตว์
สุขสม พ้นภัย สังสารวัฏฏ์
เป็นมนุษย์จึงอาจ สามารถฝึกจิต

จิตฝึกดีแล้ว เป็นแก้ว นำสุขมาให้
ฝึกใจ ให้หยุดให้นิ่ง ในตน
ตามทางสายกลาง ทางกุศล
ทางธรรม ทางหลุดพ้น กฏแห่งกรรม

จิตที่คุ้มครองแล้ว นำสุขมาให้
นิ่งสนิทสดใส อยู่ในตน
อยู่ที่ศูนย์กลางกายได้ เลิศล้น
กุศลใหญ่ เข้าถึงพระธรรมกายในตัว

ประพฤติตามใจตน ย่อมลำบาก
ด้วยจิตนั้น จมปลัก..ตัณหา
เป็นคน ไม่ต่างจากไก่กา
เราเกิดมา เพื่อแสวงบุญสร้างบารมี

;;;;;;;;;;