วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

กามตัณหาอันตราย (จึงต้องฝึกใจ ให้มีสติ) ภิกษุใด เห็นโทษในกาม เห็นความไม่ดีไม่งาม ในความใคร่ เห็น โลกโลกีย์ ที่เลวร้าย เห็นอันตราย เวียนว่าย อบายภูมิ

 กามตัณหาอันตราย
(จึงต้องฝึกใจ ให้มีสติ)

ภิกษุใด เห็นโทษในกาม
เห็นความไม่ดีไม่งาม ในความใคร่
เห็น โลกโลกีย์ ที่เลวร้าย
เห็นอันตราย เวียนว่าย อบายภูมิ
ย่อมมีความประฤติดี ที่ประเสริฐ
เกิดจากจิต ที่สงบผ่องใส
ปราศจากตัณหา ตั้งสติไว้ในกาย
พิจารณาแล้วหน่าย คลายกิเลส
ย่อมไม่มีความหวั่นไหว ในโลกีย์
มีก็สักแต่มี ได้ก็สักแต่ได้
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง มุ่งไป
สร้างบารมีใหญ่ ปราบมาร

กามตัณหา คือความอยากมี
รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ที่..น่าใคร่
แม้มีแล้ว ก็ยังไม่พอใจ
ขอมีใหม่ มากขึ้นไป ไม่จบสิ้น

ตัณหา พาใจมืดมน อนธกาล
สติแตกซ่าน ไม่รู้จักดีชั่ว
ตามใจตน ทนไม่ได้ อบายไม่กลัว
ลืมตนลืมตัว ลืมสติ

คนเกือบร้อยทั้งร้อย พอใจตัณหา
เหมือนปลา เหมือนหนอน 
จมปลักดักดาน ไม่ฟังคำสอน
แม้ทุกข์ร้อน ก็ไม่เห็นทุกข์

ผู้เห็นโทษในกาม ก็คือพระ
จึงได้ละ..ครอบครัว มาอยู่วัด
ฝึกสติ ควบคุมตน ไม่ขาด
ทุกภพชาติ ขอตามรอยบาทหลวงปู่ฯ

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น