แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กาม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กาม แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567

หมดตระหนี่ (หมดทุกข์โศก) ผู้ใด ข้ามพ้น กามได้ ยากหลาย ข้ามได้ยากสุด ตัณหา เป็นเครื่องผูก หมดตระหนี่ หมดสนุก หมดทุกข์โศก

หมดตระหนี่
(หมดทุกข์โศก)

ผู้ใด ข้ามพ้น กามได้
ยากหลาย ข้ามได้ยากสุด
ตัณหา เป็นเครื่องผูก
หมดตระหนี่ หมดสนุก หมดทุกข์โศก
ผู้ใดไม่รู้ ย่อมก่อ อุปธิกิเลส
น่าสมเพช เข้าถึงทุกข์บ่อย ๆ
ผู้รู้ ผู้เห็นเหตุแห่งทุกข์ มีน้อย
ที่คอยระวัง ถอยห่างอุปธิ
ผู้โลภ ไม่รู้อรรถสาระ
ผู้โลภ บาปหนา ไม่เห็นธรรม
เมื่อความโลภเข้าครอบงำ
ความมืดดำ ย่อมมีเมื่อนั้น
ท่านทั้งหลายจงตัดป่า กิเลส
ป่าเป็นอาเพท อย่าตัดต้นไม้
ป่า ขึ้นคลุมฆ่า ไม้น้อยใหญ่
จงรักษาต้นไม้ คุณความดี
ความโกรธไม่ดีเลย
ใจไม่สะเบย ร้อนเร่า
ปัญญาดับ เหมือนกับไฟเผา
ผิวของเจ้า หยาบกร้าน ปานตอตะโก
ความโกรธ เป็นดังสนิมศัสตรา
มีปัญญา แต่ใช้ไม่ได้
ถูกความมืด ปิดบังไว้
ความจำหดหาย ได้หน้าลืมหลัง
ความโกรธ ก่อความพินาศ
ไม่ประหลาด เหมือนไฟป่า
เผาไหม้ทุกอย่าง ที่ขวางหน้า
ความโกรธา เป็นยิ่งกว่าไฟ
;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567

เลิกอยากลาหยอก (ออกจากกาม) ปุถุชน เหมือนคน ลูกศรแทง ย่อมแล่นไปทุกแห่ง ทั่วทิศ ถอนลูกศรนั้นแล้ว จึงหยุดสนิท ไม่คิดแล่นโลด และปลอดโปร่งใจ

 เลิกอยากลาหยอก
(ออกจากกาม)

ปุถุชน เหมือนคน ลูกศรแทง
แล่นไปทุกแห่ง ทั่วทิศ
ถอนลูกศรนั้นได้ จึงหยุดสนิท
 มีจิตตั้งมั่น ไม่กระสันอยาก

โลภะ โทสะ โมหะ
เกิดจากตัวข้า ตัวเอง
ย่อม เบียดเบียน เสงเครง
ฆ่าตนเอง ดุจขุยไผ่ ฆ่าต้นไผ่

กาม ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน
มีทุกข์ขมขื่น มีพิษมาก
ดังก้อนเหล็กที่ร้อนนัก
จงประจักษ์ มีทุกข์หนักเป็นผล

โลก ถูกอวิชชาปิดบัง น่าสลด
ไม่ปรากฎ เพราะตระหนี่ ประมาท 
 ความอยาก เป็นเครื่องฉาบ
คนไม่ทราบ เป็นภัยใหญ่ ของโลก
โลก มีความอยาก ผูกมัดไว้
 หลุดได้ ใจหมดอยาก
 ความอยาก ละได้ยาก
ละอยาก จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวง
ความอยาก ชักลากนรชนไป
 ความอยาก ละได้ยากในโลก
สัตว์เป็นอันมาก เป็นเหมือนนก
 ที่ตก อยู่ในบ่วงดัก
ผู้วางเฉย มีสติทุกขณะ
ไม่สำคัญตนว่า เสมอเขา ดีกว่าเขา
หรือ ว่าต่ำกว่าเขา
ผู้นั้นชื่อว่า กิเลสเครื่องเศร้า ไม่ฟูขึ้น

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2567

นิสัยยากจะปลง (กัลยาณมิตรจึงสูงส่งยิ่งนัก) ความกำหนัด อุบัติจากดำริ ด้วยจิตนั้นมีตัณหา ปะปน จึงมีกาม ความใคร่ในตน ดิ้นรนหา โลกียทรัพย์

นิสัยยากจะปลง
(กัลยาณมิตรจึงสูงส่งยิ่งนัก)

 
ความกำหนัด อุบัติจากดำริ
ด้วยจิตนั้นมีตัณหา ปะปน
จึงมีกาม ความใคร่ในตน
ดิ้นรนหา โลกียทรัพย์
กามที่เที่ยง ไม่มีในมนุษย์
ตัณหา เป็นประดุจสนิม 
กัดกิน ไม่มีอิ่ม
ได้ลิ้มแต่รส เหยื่อล่อ
 ความอิ่มด้วยกาม ไม่มี
เหมือนอย่างที่ ไฟไหม้เชื้อ
ปุถุชน บริโภคกามล้นเหลือ
ไม่มีเบื่อ ยิ่งอยาก มากกว่าเดิม
ความอิ่มในกามทั้งหลาย ไม่มี
ตราบที่ ยังไม่บำเพ็ญทาน
สละทรัพย์ ขจัดตระหนี่ มุ่งมั่น
สันโดษคุณธรรมนั้น จึงเกิด
ทุกข์ ยิ่งกว่ากาม ย่อมไม่มี
ความตระหนี่ ต้นเหตุปัญหา
ทำใจให้มืดมน ไร้ปัญญา
เวียนว่าย ไม่เลิกลา ในทุคติ
แม่น้ำเสมอด้วยตัณหา ไม่มี
สรรพสัตว์ ไม่มี จะหนีพ้น
จมปลักดักดาน ทุกตัวตน
เหมือนปลา ไม่สน ไม่ดิ้นรนขึ้นบก
ความอยาก ละได้ยากในโลก
ด้วยใจสกปรก มีโลภโกรธหลง
เป็นนิสัย ยากหลายจะปลง
กัลยาณมิตร จึงสูงส่ง ยิ่งนัก

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ขอไปวัด (ครอบครัวอบอุ่น):: การมาวัดได้ มีคุณใหญ่ ไม่ธรรมดา ชนะกามา หลุดจากเคหะ ที่ละได้ยาก

ขอไปวัด
(ครอบครัวอบอุ่น)

การมาวัดได้
มีคุณใหญ่ ไม่ธรรมดา
ชนะกามา หลุดจากเคหะ
ที่ละได้ยาก

บุญเนกขัมม
ชนะกามคุณ ดีนัก
ได้ชื่อว่ารัก​​​​ษาตน
หนีพ้นอบาย

มาวัดได้
ใช่แล้ว คนเหนือคน
ได้หลุดพ้น จาก
ปลัก โคลนดูด

มีบุญนักหนา
กิเลสะ หลุด
เป็นที่สุด แห่งชัยชนะ
ยากยิ่งกว่า สิ่งใด

มาวัดได้ ใจไหญ่
ไม่ติดครอบครัว
สละสิ่งพันพัว
ในครอบครัว มาวัด

สละสิ่งใด
ก็ได้สิ่งนั้น ธรรมชาติ
สละครอบครัว มาวัด 
สุดคาด ได้ครอบครัวอบอุ่น

การมาวัด
มีจิตศรัทธา จึงมาได้
ปัญญาใส
เชื่อใน บุญบาป

จึงตั้งใจมั่น
ฝ่าฟัน ปัญหาดับ
รักบุญกลัวบาป
นักหนา จึงมาวัด

การมาวัด
เพื่อดัดตน พ้นกิเลส
ไม่ไปเป็นเปรต
สัตว์นรก ไม่ตกอบาย

เข็ดแล้วหนอ
ขอเข้าวัด ขจัดภัย
เป็นตาย
ไม่ไปไหน ขอไปวัด

;;;;;;;;;;