แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เจตนา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เจตนา แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รักความสะอาด (ไม่เสียชาติเกิด):: สะอาด เป็นบาท ของศีล ความดีสิ้น ถ้ารักษาศีล ไม่ได้

รักความสะอาด
(ไม่เสียชาติเกิด)

สะอาด
เป็นบาท ของศีล
ความดีสิ้น
ถ้ารักษาศีล ไม่ได้
ไม่รักสะอาด
ไม่ฉลาด มองข้ามไป
จงใส่ใจ
หมั่นเก็บกวาด สะอาดหมดจรด
สุขภายใน
เกิดที่ใจ รักสะอาด
มันประหลาด
ไม่ทำ ไม่รู้
สุขดื่มด่ำ
เมื่อตั้งใจเช็ด ตั้งใจถู
ใจฟ่องฟู
เหมือนอยู่ บนสวรรค์
น้ำขุ่นสกปรก
ตะกอนตก แล้วใส
เป็นเรื่องใหญ่
ใจ หายขุ่นเคือง
รักสะอาด
บัณฑิตชาติ ที่รุ่งเรือง
ปัญญาเปรื่อง
ด้วยใจใส ใจปีติ
ศีลเป็นวินัย
สำรวมกาย วาจา
ตั้งเจตนา
มา อันดับแรก
ไม่ดื่มสุรา
สำคัญนักหนา จึงไม่แปลก
อันดับแรก
รักสะอาด ประกาศ เจตนา
การฝึกตน
เริ่มต้น ที่สะอาด
อภิชาติ
รักสะอาด เช่นยายฯ
คุณธรรม
น้อยใหญ่ ทะยอยไหล
ภูมิใจได้
ไม่ เสียชาติเกิด

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ไม่รู้จักธรรมกาย (ตายเปล่าจริงๆ):: หยุดนอกกาย เก่งเหลือล้น แต่ไม่พ้น แพ้โลกีย์ ลาภยศสรรเสริญ เพลิน เต็มที่ ลืมสติ ไม่สร้างบารมี ที่เป็น กรณียกิจ

ไม่รู้จักธรรมกาย
(ตายเปล่าจริงๆ)
เจตนา คือกรรม หมายความว่า
ใจหยุดนิ่ง พิจารณา ก่อนกระทำ
ชั่วหรือดี กรรมที่มี ลึกล้ำ
ศรัทธาล้ำ ด้วยใจหยุด ผุดศรัทธา
ใจหยุด ที่สุด ทั้งบุญบาป
ใจดำขลับ ถ้าหยุดอยู่กับ สิ่งชั่ว
มนต์ดำศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ น่ากลัว
มารชั่ว มีอวิชชา ของอธรรม
 ผ่านศูนย์กลางกาย
จึงจะถึงได้ พระรัตนตรัยในตัว
เป็นพุทธแท้ ไม่แพ้มารชั่ว
ปราบได้ทั่ว ถึงสุดธรรม
ใจหยุดภายนอกกาย
ใจมันไม่สุข
มีแต่ความเพลิน ความสนุก
เมื่อไม่สุข ก็หยุดอยากไม่ได้
 มีมากเท่าไหร่ๆ ไม่รู้จักพอ
กามคุณนี่หนอ พอไม่เป็น
หยุดอยากเมื่อใด ใจสุขจึงจะเห็น
หยุดอยากเป็น เมื่อหยุดใจไว้ในตน
หยุดนอกกาย เก่งเหลือล้น
แต่ไม่พ้น แพ้โลกีย์
ลาภยศสรรเสริญ เพลิน เต็มที่
ลืมสติ ไม่สร้างบารมี ที่เป็น กรณียกิจ
เทคนิค เทคโน ทางโลก
ล้วนชุ่มโชก กามคุณ
เป็นกับดัก จมปลัก หมกมุ่น
เวลาสูญ เสียหาย ตายเปล่า 
ไม่รู้จักสร้างบารมี หนีภัยไหญ่ไม่ได้
วนเวียนไป ในวัฏฏะ
ออกไม่ได้ เหมือนไก่ในกรง นั่นหละ
ถูกฆ่า ถูกตามล่า ล้างผลาญ
หมู่มาร ตัวการ ใส่กิเลส
ต้นเหตุ อวิชชา ปัญญาหยาบ
เห็นกงจักร เป็นดอกบัว ไม่กลัวบาป
จะซับซาบ ตอนจะตาย ก็สายแล้ว
พุทธแท้ธรรมกายเท่านั้น
ที่พญามาร กลัว
ป้องปิด มิดชิด ไม่ให้รั่ว
กระทั่งคนไม่กลัวบาป เต็มเมือง

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ชีวิตน่ากลัวนัก (ด้วยไม่รู้จักมโนกรรม) :: กฎหลักกฎเหล็ก กฎแห่งกรรม คนทั้งหลาย ฟังแล้วขำ และรำคาญ ทำตนเป็นปลาตาย ไหลตามน้ำทั้งนั้น ขยันหาเงิน เพลิดเพลินทางโลก

ชีวิตน่ากลัวนัก
(ด้วยไม่รู้จักมโนกรรม)

กฎหลักกฎเหล็ก กฎแห่งกรรม
คนทั้งหลาย ฟังแล้วขำ และรำคาญ
ทำตนเป็นปลาตาย ไหลตามน้ำทั้งนั้น
ขยันหาแต่เงิน เพลิดเพลินทางโลก
ไม่เชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า
ไม่เชื่อว่าพระคุณมารดาบิดา มีจริง
ไม่เชื่อว่า เทวดามี ขำกลิ้ง
ไม่เชื่อจริงๆ ว่ามีผู้หมดกิเลส
ผู้ไม่เชื่อทั้งหลาย ไปสู่อบายทั้งนั้น
ยากหลาย อย่าฝัน ขึ้นสวรรค์ ไม่ง่าย
เกิดเป็นมนุษย์ยิ่งยาก ยิ่งกว่ายากสุดใจ 
หลวงปู่ฯจึงได้ ตั้งใจปราบมาร
กุศลกรรมบถ และอกุศลกรรมบท
ไม่มีใครกำหนด เป็นกฎธรรมชาติ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ชัด
ไม่เกินไม่ขาด แต่ละอย่าง ต่างก็มี๑๐
ทางทำดีมี๑๐ นี้คือ กุศลกรรมบท 
ส่วนทำชั่วทั้งหมด อกุศลกรรมบท ก็มี๑๐
 กายกรรม๓ วจีกรรม๔ มโนกรรม๓ รวม๑๐
เป็นบุญก็๑๐ เป็นบาปก็๑๐ รวม๒๐กรรม
กุศลกรรมบท ทางกาย มี๓ นามว่า
ไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่เจ้าชู้
วจีกรรม๔ไม่โกหก ไม่ส่อเสียด เป็นคู่
และเป็นผู้ ไม่พูดหยาบ ไม่เพ้อเจ้อ
กุศลกรรมบท ทางใจ มโนกรรม๔
มี ไม่คิดโลภ ไม่คิดพยาบาท
ไม่มีความคิดเห็นผิดเป็นชอบ ตระบัด
ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีเว้น
มโนกรรม เป็นที่สุดของกรรม
พูดกับทำ กรรมอ่อนกว่า
เพียงคิดอยู่ในใจ นี่หละ
แต่ว่า คนทั้งหลายไม่ใส่ใจเลย
มโนกรรมทางกุศล เลิศล้น คือสมาธิ
เจริญสติ ภาวนา
กระทั่งใจ ใสสว่างจ้า
เกิดสุขอุรา มีเมตตาเกิดขึ้น
สวดมนต์นั่งสมาธิ จึงเป็นกรณียกิจ
ต้องสวดเนืองนิจ ไม่ขาด
มิฉนั้น นั่นหรือ คือประมาท
และทุ่มชีวาต ประพฤติธรรม

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คิดร้าย (เป็นภัยมหันต์) :: สรรพสัตว์ทั้งหลาย อยู่ภายใต้ กฎแห่งกรรม กฎแห่งการกระทำ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว

คิดร้าย
(เป็นภัยมหันต์)
สรรพสัตว์ทั้งหลาย
อยู่ภายใต้ กฎแห่งกรรม
กฎแห่งการกระทำ
ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว
การทำกรรม ทำได้สามทาง
จงฟัง สามทางคือ กายวาจาใจ
และทางสุดยิ่งใหญ่
คือทางใจ ไม่ใช่กายวาจา
ทางใจ ใช้การนึกคิด
ใจนิ่งสนิท ก็จะคิดดี พูดดี ทำดี
ถ้าคิดชั่ว ก็จะพูดชั่วทำชั่ว ลงอเวจี
คิดดีพูดดีทำดี ไปสุคติ สวรรค์
คนทั่วไป ใจไม่นิ่ง
ใจวิ่ง อยู่นอกกาย
จึงคิดดีไม่ได้
ได้บาปหลาย มหาศาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จริงๆไม่รู้
ว่าเพียงคิดๆ อยู่ ภายใน
ไม่น่าจะมีโทษภัย
แต่ที่ไหนได้ สุดร้าย กว่าการพูดการทำ
พระพุทธองค์ทรงตรัส ไว้ชัดเจน
พระองค์เน้น เจตนาเป็นกรรม
คือจิตหรือใจ ใช่ เป็นตัวกระทำ
จิตตั้ง มีเจตนาทำ กรรมสำเร็จ
ถ้าไม่เจตนา ท่านเรียกว่า
ประมาท พลาดพลั้ง
มีกรรมบ้าง
ทุกอย่าง พออภัยได้
จะไม่คิดร้ายได้ ต้องใส่ใจปฏิบัติ
ถือสัจจ์ เลิกลา ความเพลิน
ฝึกสติ ทุกวินาที แม้กระทั่งเดิน
เมื่อเผชิญปัญหา รักษาสติ ขันติตั้ง
ดังนั้น คนทั่วๆไป ที่ไม่สร้างบารมี
ยากเหลือที่ จะหนีอบาย
พระโพธิสัตว์จึงทุ่มเทกายใจ
สร้างบารมีใหญ่ รื้อสัตว์ขนสัตว์

;;;;;;;;;;