วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ปัญญา (ประเสริฐกว่าทรัพย์) ปัญญา ย่อมประเสริฐกว่าทรัพย์ ส่วนคนพาล คิดกลับ คนละอย่าง ทรัพย์คือชีวิต หลงผิด แม้กระทั่ง ทำทุกอย่าง..เพื่อทรัพย์ แม้ดับปัญญา

 ปัญญา
(ประเสริฐกว่าทรัพย์)


ปัญญา ย่อมประเสริฐกว่าทรัพย์
ส่วนคนพาล คิดกลับ คนละอย่าง
ทรัพย์คือชีวิต หลงผิด แม้กระทั่ง
ทำทุกอย่าง..เพื่อทรัพย์ แม้ดับปัญญา

สุรานารี พาชีกีฬาบัตร
คนพาลถนัด ชีวาตของคนพาล
คนส่วนใหญ่ ฝักใฝ่โลกีย์กัน
ช่างน่าสงสาร ไหลตามกัน เหมือนน้ำ

ปัญญา คือความสว่าง แห่งโลก
ดับทุกข์โศก ความมืดหนา
ความมืดในใจ พิชิตด้วยปัญญา
ทำลายอวิชชา พญามาร

อวิชชา ความไม่รู้ ว่าตนเองไม่รู้
กลายเป็นผู้ ที่เรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ
เหมือนอีหอย หน้าวัด ตัวดี
ทำตาหยี แลบลิ้น ปลิ้นตาใส่พระ

แม้เหาะให้ดู กูก็ไม่สน
แปลกเหลือล้น คนมิจฉาทิฏฐิ
มีนิสัย กลายเป็นผู้ แสลงดี
เห็นประชาชี..เข้าวัด ขัดใจนัก

วัดพระธรรมกาย วัดใหญ่ สู้ภัยมิจฉา
พญามาร มารา สุดโกรธ
ธรรมกายพุทธแท้ ทรหด
ยิ่งตียิ่งดัง ไม่ลด มารโฉดแพ้ภัยตน

พุทธแท้ไม่แท้ อย่ามองแต่ภายนอก
ดูให้ออก ขอบอก ให้เข้ามาพิสูจน์
ใช้สติปัญญา พิจารณา ดีกว่าพูดๆ
ขอให้เป็นคนจริง ดูให้สุด พิสูจน์ด้วยปัญญา

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565

สันโดษสมถะ (ประหยัดสุด ประโยชน์สูง) สิ่งทั้งหลาย ที่เห็นได้ ด้วยตาเนื้อ ผู้หลงเชื่อ หลงติด เป็นมิจฉา เห็นก็สักแต่เห็น เป็นก็สักแต่เป็น หรือว่า จะ มีก็สักแต่มี ได้ก็สักแต่ได้

 สันโดษสมถะ
(ประหยัดสุด ประโยชน์สูง)


สิ่งทั้งหลาย ที่เห็นได้ ด้วยตาเนื้อ
อย่าหลงเชื่อ หลงติด เป็นมิจฉา
เห็นก็สักแต่เห็น เป็นก็สักแต่เป็น นะ
หรือว่า มีก็สักแต่มี ได้ก็สักแต่ได้

จงปล่อยวาง สิ่งต่างๆบนโลก
ถ้ายึดติด แล้วจะโศก เป็นทุกข์
ทุกสิ่งอย่าง ยังกะเงา ยั่วเย้าให้เราสนุก
เหมือนดูหนัง ลืมทุกข์ สนุกสนาน

คนติดหนังติดละคร ติดโลก
ใจจะโศก โหยไห้ คนึงหา
ต้องเสพ จึงจะสุข สมอุรา
เหมือนคนติดยา จะลงแดง

เป็นสักแต่เป็น มีสักแต่มี..ฯ นี้คือสันโดษ
เป็นคุณธรรม อุโฆษ ของพระสงฆ์
ปล่อยวางทางโลก จิตจำนง
เมื่อปลดปลง..ได้ ใจหยุด ที่สุดบุญ

 เกิดปีติ มีจิตที่ จะสงเคราะห์โลก
ดับเคราะห์ดับโศก ให้โลกทั้งผอง
สรรพสัตว์ ล้วนญาติ พี่น้อง
โลกทั้งผอง เป็นผืนเดียวกัน

สันโดษสมถะ ประหยัดสุดประโยชน์สูง
หมายมุ่ง แสวงบุญสร้างบารมี
เข้าวัดธรรมปฎิบัติ เจริญสติ
ทำสมาธิ เจริญภาวนา

สันโดษสมถะ แสวงหา เนกขัมมบารมี
ทุกภพชาติจะสุขี ไม่มี ตัณหาอุปาทาน
ยกตน พ้น แดนกันดาร
ตรงสู่พระนิพพาน แดนอมตะ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565

คำจริง (คำศักดิ์สิทธิ์) คำจริง เป็นสิ่งไม่ตาย มีความหมาย เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพ มีฤทธิ์ ทำคน เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ คนเหนือคน

 คำจริง
(คำศักดิ์สิทธิ์)


คำจริง เป็นสิ่งไม่ตาย
มีความหมาย เป็นคำศักดิ์สิทธิ์
มีอานุภาพ มีฤทธิ์
 ทำคน เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ คนเหนือคน

คนพูดคำจริงได้ ไม่ธรรมดา
มีสติสัมปชัญญะ ไม่สักแต่พูดๆ
คำจริงดีจริง ไม่พูดอุตลุด
สุขแล้วจึงพูด หลุดออกไป

คำพูดชนิดนี้ รักษาไว้ จะได้สัจจะบารมี
 ชีวิตนี้ 
เกิดมา คุ้มเกินคุ้ม
สุดปีติ สุขหลาย ใจนิ่งนุ่ม
หมดกลุ้ม หมดโศก หมดโรคภัย

มีอานุภาพปราบมาร คนพาลสยอง
คนแซ่ซร้อง เทิดไท้ สรรเสริญ
มหาชนอยู่เย็น เป็นสุข จำเริญ
พากันเดิน ตามหลัง ฟังคำท่าน

เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ เพียงคิดก็สำฤทธิ์ผล
บันดาลดล ให้เป็นไป ดังจิต
ท่านเป็นยอดคน กัลยาณมิตร
ดังมหาชน ตามติด มหาปูชนียาจารย์

คำจริง ที่ว่า คือวาจาสุภาษิต
ไม่สักแต่พูด ต้องคิด ตั้งสติให้ดี
เป็นคำจริง มีประโยชน์ จิตเมตตา
มี

และสุดดี ถูกกาละเทศะ ด้วย

วาจาสุภาษิต ยอดกัลยาณมิตร จึงมี
มหาปูชนี..ยาจารย์ ท่านมีพร้อม
ท่านเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ ทุกผู้น้อม
พรั่งพร้อม..เดินตามท่าน สู่สุดธรรม

;;;;;;;;;;

ตนเตือนตน (คนเทวดา) ที่ลืมตาเห็น เป็นเช่นภาพยนต์ หรือหนัง ที่คน ดูในโรง เป็นวิบาก ย้อนกลับ โดยตรง คนรู้ทัน จึงปลง ไม่หลงไหล

 ตนเตือนตน
(คนเทวดา)


ที่ลืมตาเห็น เป็นเช่นภาพยนต์
หรือหนัง ที่คน ดูในโรง
เป็นวิบาก ย้อนกลับ โดยตรง
คนรู้ทัน จึงปลง ไม่หลงไหล

เป็นผลกรรม ทำไว้ในอดีต
เมื่อถึงขีด..ถึงคราว กรรมเก่า ส่งผล
เหมือนต้นผลไม้ ของตน
ปลูกไว้นานโพ้น มากมาย

ถ้ากรรมดี เป็นผลไม้ดี มีรสชาติ
น่าอนาถ กรรมไม่ดี มีพิษ
สุขหรือทุกข์ คือกรรมตามติด
ชีวิต สุดคาดคิด เป็นอย่างนี้

เมื่อเราทำ กรรมดี ในปัจจุบัน
บุญนั้น จะยังไม่ส่งผล
แต่จะไปเชื่อมต่อบุญวาสนา อันไกลโพ้น
ให้มีผล นำมาใช้ ในปัจจุบัน

วาสนามาเป็นสาย ด้วยทำบุญไม่ขาด 
นี้เป็นชีวาต เราลิขิต ชีวิตเราเอง
ทำดีได้ ทั้งเก่ง ทั้งเฮง
ทำชั่วได้ชั่ว เจ๊ง ทำเองทั้งนั้น

เมื่อประสพทุกข์ ก็อย่าดูถูกตน
จงชมตน เป็นคนได้ ก็เก่งมากแล้ว
มีทุกข์ก็ดี รักษาสติ ได้บารมีแจ๋ว
ชีวิต เหมือนมีแก้ว..สารพัดนึก

ตนเตือนตนได้ ใช่ ยอดคน
ไม่ปล่อยใจให้ตกให้หล่น คนเทวดา
มีสติ มีปีติ เป็นภักษา
มีชีวิต สุขสมปราถนา ทุกประการ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ผู้เป็นใหญ่ (ศูนย์รวมใจประชาชน) การอยู่ในอำนาจของคนอื่น ย่อมอึดอัด คนมีศีลมีสัตย์ เป็นอิสละ เป็นที่รัก เป็นที่บูชา เป็นศูนย์รวมมหา ประชาชน

 ผู้เป็นใหญ่
(ศูนย์รวมใจประชาชน)


เสียทรัพย์ ไปกับการพนัน โทษยังน้อย
แต่ไม่หน่อย ของผู้ที่คอยคิดร้าย..
ต่อผู้ปฏิบัติดี มีศีลใส
ประมาทไม่ได้ เป็นภัยอย่างใหญ่หลวง

ความบริสุทธิ์ เป็นอาวุธ สุดวิเศษ
เป็นภัยเภท อย่างใหญ่ แพ้ภัยตน
เหมือนปิตุฆาต ไม่อาจหนีพ้น
ร้อนรน อยู่ไม่ได้ ไฟนรก

ผู้ใดเห็นใคร ล่วงเกินกันอยู่
แล้วเป็นผู้ ประสานเชื่อมรัก สมัครสมาน
มีความรัก สามัคคีเกิดขึ้นนั้น
เป็นผู้ สำคัญ ปานสวรรค์ส่งมา

ผู้ยินดี ในความสามัคคี ของหมู่คณะ
เป็นผู้ใหญ่ มีเมตตา ชนพึ่งพาได้
เป็นหลักเป็นประธาน มหาชนเทอดไท้
บูชากราบไหว้ เป็นมงคล

ฝูงสุกรรวมใจ ฆ่าได้เสือโคร่ง
คุณธรรมสามัคคี สูงส่ง เกิดสุข
ผู้รู้ศึกษาไว้ ใช้ขจัดทุกข์
เดินทางถูก ทานศีลภาวนา

ผู้ปกครองทรงธรรม จึงนำสุขมาให้
ชาวประชาหน้าใส ชื่นใจเหลือล้น
ถ้าประชาสามัคคี จะมีคนดีปกครองตน
สามัคคีมีผล ทุกคนฝักใฝ่ในบุญ

การอยู่ในอำนาจของคนอื่น ย่อมอึดอัด
คนมีศีลมีสัตย์ เป็นอิสระ
เป็นที่รัก เป็นที่บูชา
เป็นศูนย์รวมมหา ประชาชน

;;;;;;;;;; 

ทำงานเพื่อทรัพย์ (เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ) ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

 ทำงานเพื่อทรัพย์
(เหมือนกับปลาหลงเหยื่อ)


ทำงานเพื่อทรัพย์ ต่างกับ ทำงานเพื่องาน
ทำงานเพื่องาน เป็นอุดมการณ์ชีวิต
มีคุณธรรมอิทธิบาทสี่ สำเร็จกิจ
งานสำฤทธิ์ อย่างงดงาม

ส่วนทำงานเพื่อเงิน ทำเพลินๆไป
มือไม้ กับใจ ไปคนละทาง
ทำงานปานหุ่นยนต์ เพื่อค่าจ้าง
เบื่อหน่ายจัง อยากกลับ ไปหลับนอน

อิทธิบาทสี่ เริ่มต้น เป็นคนมีฉันทะ
คือมีใจรักนักหนา ที่จะทำ ตามความฝัน
ไม่หวังความชื่นชม คำนิยมใดๆ ทั้งนั้น
จึงทำด้วยใจ มุ่งมั่น ขยันวิริยะ

ต่างจากทำงานเพื่อทรัพย์ หรือขยับยศ
มีตัณหาบังบด อดไม่ได้ ทำลายคนอื่น
แม้ร่ำรวยมากหลาย แต่ไม่ชื่น
เกิดความขมขื่น เบื่อหน่ายซึมเซ็ง

การทำงานเพื่อทรัพย์ วิริยะ หามีไม่
วิริยะนั้น ขยันด้วยใจ ไม่อิงวัตถุ
จึงขยัน และกล้าหาญ น่าดู
ถ้าขยันเพื่อทรัพย์ ก็รู้ เป็นผู้แล้งน้ำใจ

การประดิษฐ์ คิดค้นทางวัตถุ
ทุ่มเทกันน่าดู จะได้เป็นผู้..ครองโลก
แต่น่าเสียดาย ที่ไม่ได้ ดับโศก
แต่ทำให้คนติดโลก ยิ่งขึ้น

ต่อจากวิริยะ เป็นจิตตะ ใจหยุดสนิท
มีจิต..เป็นหนึ่ง แล้วถึงบางอ้อ วิมังสา
จึงรังสรร งานออกมา
ด้วยปัญญา คุณธรรม งามวิไล

น่าเสียดาย เสียเวลามากมาย คิดค้น
เปี่ยมล้น ด้วยลาภยศฯ ปรากฎนาม
มีผู้คนชื่นชม มากมายก็ตาม
แต่ไม่อาจนำ ตามไปปรโลกได้

จิตตะของนักคิดค้น ดิ้นรน อยู่ภายนอก
เหมือนโดนหลอก ให้เสียเวลา
ได้แต่โหยไห้ เสียใจ สติช้า
เมื่อสติมา ก็หมดเวลาชีวิต

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

บ่อสมบัติจักรพรรดิ์ (คือวัดนั่นเอง) วัด บ่อสมบัติจักรพรรดิ์ ตักไม่พร่อง ครอบครองได้ ย่อมสะบาย ทุกชาติ คนมองเห็น เพียงเป็นวัด ขาดวัด ขาดพระศาสน์ โลกขาดตะวัน

 บ่อสมบัติจักรพรรดิ์
(คือวัดนั่นเอง)


วัด บ่อสมบัติจักรพรรดิ์ ตักไม่พร่อง
ครอบครองได้ ย่อมสะบาย ทุกชาติ
คนมองเห็น เพียงเป็นวัด
ขาดวัด ขาดพระศาสน์ โลกขาดตะวัน

 วัด จึงยิ่งใหญ่ คล้ายบ่อสมบัติ
ให้สุขสมมาด แด่สรรพสัตว์ ทั่วหล้า
เหมือนแสงตะวัน ไม่เลือกชั้นวรรณะ
แผ่สุขทั่วหล้า แต่ชาวประชาไม่รู้

วัดเป็นที่แสวงบุญ สร้างบารมี
เป็นสถานที่ ของพระนิพพาน
บุญหลั่งไหล ส่งตรงมา ไม่อั้น
วัดนั้น เป็นพระนิพพาน ในเมืองมนุษย์

บริสุทธิ์สะอาด เป็นสถานี ปราบมาร
มุ่งมั่น ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ปราบไอ้ดำ ที่สุดธรรม เป็นแหล่ง
ของความขัดแย้ง แหล่งของปัญหา

ผู้แสวงบุญ สร้างบารมี
คือคนดี ที่เป็นเจ้าของวัด
ทำพระนิพพานให้แจ้ง ไม่ขาด 
นำพาหมู่ญาติ แสวงบุญ สร้างบารมี

ปรากฎการณ์ต่างๆ ทั้งในและนอกโลก
ย่อมตก..อยู่ภายใต้ กฎใหญ่ของมาร
กฎไตรลักษณ์ กฎแห่งกรรม คุกประหาร
ทั้งหลายทั้งนั้น มารมันสร้าง

หลวงปู่ฯ ท่านรู้ทัน ตั้งปณิธานปราบ
ไม่สยบราบคาบ เป็นไม่ยอม
สร้างหมู่คณะ ปราบมาร ที่หาญผยอง
หมู่มารสุดลำพอง โลกทั้งผอง จะบรรลัย

วัดพระธรรมกาย หลักใหญ่ ปราบมาร
สวดธรรมจักร ปราบมาร นั้นเหมาะ
เป็นอาวุธสุดวิเศษ ใช้จำเพาะ
ปราบมารผู้ก่อ..เหตุ ภัยเภททั้งหลาย

;;;;;;;;;;