วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ผู้ประมาทขาดสติ (โศกเศร้ามี ไม่สุดสิ้น) ผู้ประมาท ย่อมโศกเศร้า ไม่สุดสิ้น มีชีวิน วนเวียน ในวัฏฏสงสาร ไม่หมด ไม่สุด ไม่สิ้น กาลนาน ดักดาน อยู่ในกระแส กิเลสกรรมวิบาก

 ผู้ประมาทขาดสติ
(โศกเศร้ามี ไม่สุดสิ้น)


ผู้ประมาท ย่อมโศกเศร้า ไม่สุดสิ้น
มีชีวิน วนเวียน ในวัฏฏสงสาร
ไม่หมด ไม่สุด ไม่สิ้น กาลนาน
ดักดาน ในกระแส กิเลสกรรมวิบาก

ผู้ปัญญาทราม มีแต่ความประมาท
ไม่สดุ้งภัย ในสังสารวัฏฏ์ คุกประหาร
ดูเบาในความตาย ไม่รู้จักบุญกัน
สรรพสัตว์ นับอนันต์ เป็นเช่นนี้

อย่ามัวประมาท แม้ขณะ
อย่าเลยละ ทางแห่งความดี
จงมีสัมปชัญญะ รักษาสติ
รักษาใจไว้ที่ ในตัว

ไม่ควรประมาท ขาดสติ
 ไม่ควรที่ จะคบกับคนพาล
สติไม่ดี คือตัวเรานี้ ตัวกลั่น
ใจเราเองเป็นพาล อันตรายยิ่ง

ความรู้เกิดแก่คนพาล เป็นอันฉิบหาย
รู้ นอกศูนย์กลางกาย ขาดเมตตา
ระเบิดปรมาณู ใช้เข่นฆ่า
ใช้ขู่เข็น บีฑา เพื่อตัณหาของตน

ไร้ปัญญา อยู่ร้อยปี หามีประโยชน์ไม่
มีปัญญา อยู่วันเดียวได้ ประเสริฐกว่า
มีศรัทธา มีสติสัมปชัญญะ
ไม่หลงกาละ ในเวลาเปลี่ยนภพ

ผู้ประมาทเมื่อได้สติ มิมีสาย
เป็นคล้าย พระจันทร์ ผ่านพ้นหมู่เมฆ
ย่อมสว่างไสว ในนภา เป็นอุเอก
เกินหมู่ดาว ใหญ่เล็ก ทั้งหลาย

การลืมตัว มัวเมาในกิจ ที่ไม่ควรทำ
บาปกรรม..ย่อมได้ช่อง ไม่ต้องร้องหา
กิเลสอาสวะ ขยะใจ ไหลเข้ามา
ขัดขวางชีวา ไม่ให้เจริญ

แม้รู้ธรรมะมาก แต่หาก ไม่ปฏิบัติ
เหมือนชัด กับคนเลี้ยงโค คอยนับโค
ไม่ได้อานิสงส์ ได้แต่โม้
มีลาภยศใหญ่โต พ่อใบลานเปล่า

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น