แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขันติบารมี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขันติบารมี แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สำเร็จและชนะ (ถ้ารู้จักขันติ) ธรรม เป็นทาง ควรเดินตาม ส่วนอธรรม ควรระวัง ให้ห่างเหิน อธรรม นำไปนรก อย่ามัวเพลิน ธรรม คือทางเดิน ไปสวรรค์

สำเร็จและชนะ
(ถ้ารู้จักขันติ)


ธรรม เป็นทาง ควรเดินตาม
ส่วนอธรรม ควรระวัง ให้ห่างเหิน
อธรรม นำไปนรก อย่ามัวเพลิน
ธรรม คือทางเดิน ไปสวรรค์
ทางธรรม ทางดีงาม หรือทางบุญ
คนทั้งหลายไม่คุ้น เหมือนแมลงวัน
ชอบบินลงต่ำ อย่างนั้น
ต่างกัน..กับ แมลงภู่ บินสู่สูง

ทางธรรม ทางบุญ ทางสละ
ต้องศรัทธา จึงจะกล้าหาญ
สละทรัพย์ อวัยวะ แม้ชีวัน
คนดีเท่านั้น ธัมมัญญุตา

ธัมมัญญุตา รู้ว่า โลกและชีวิต
มีบุญบาป ตามติด กำกับ
ตามกฎแห่งกรรม กฎไตรลักษณ์
ซึ่งยากนัก จักเชื่อตอนยังมีชีวิต
โลกนี้ พระท่านชี้ ว่าคือโรงละคร
เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ตอนจบ
เมื่อจะตาย จึงได้สติ อย่างนี้ทุกภพ
จึงเวียนว่ายไม่รู้จบ วัฏฏสงสาร

การเผยแผ่ธรรม นำพาสาธุชน
หลีกพ้น กลมาร โลกโลกีย์
ประคองศรัทธา พาแสวงบุญสร้างบารมี
ส่งเสริมกิจกรณีย์ ทำพระนิพพานให้แจ้ง

ธรรมะชนะอธรรม ด้วยขันติ
ศรัทธามี ขันติจึงมีได้
กัลยาณมิตร ต้องอุทิศตน อย่างใหญ่
ชนะมารได้ ต้องใช้ ขันติบารมี

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

นักสร้างบารมี (ไม่มีแพ้ มีแต่ชนะ) ผู้แพ้ ย่อมแน่นอน เป็นทุกข์ ด้วยคนรักสนุก อยากชนะ ถ้าแพ้ ก็จะร้องไห้เศร้าโศก โศกา ถ้ามีน้ำใจนนักกีฬา ก็ถือว่ายาวิเศษ

 นักสร้างบารมี
(ไม่มีแพ้ มีแต่ชนะ)


ผู้แพ้ ย่อมแน่นอน เป็นทุกข์
ด้วยรักสนุก อยากชนะ
เมื่อแพ้ ก็จะเศร้าโศก โศกา
ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ที่เป็นยาวิเศษ

ชีวิตนักสร้างบารมี ไม่มีแพ้
จะมีแต่ชนะ ด้วยขันติบารมี
เมื่อมีปัญหา เพียงตั้งสติ
ปัญหาที่มี จะไม่เป็นปัญหา

ขันติบารมี ทำให้เรานี้ศักดิ์สิทธิ์
เลิศฤทธิ์ ปราบมารได้
เมื่อพบปัญหา ควรจะดีใจ
ได้โอกาศใหญ่ หาได้ยาก

ผู้มีขันติ จะมีจาคะ เป็นเครื่องหมาย
มิฉนั้น จะกลาย เป็นดื้อด้าน
ขันติความอดทน เพื่อหมู่ชน ไม่ยั่น
มีจาคะ แบ่งปัน เพื่อสุขสันติ์ส่วนรวม

คนพาล กำแหงหาญ ก่อการร้าย
หารู้ไม่ เป็นภัยอย่างใหญ่หลวง
ทำลายตน ทำลายขันติ คนบ้าป่วง
ทุกข์ทั้งปวง จะวิ่งเข้าหา อนันตกาล

วัดพระธรรมกาย หลักชัยศาสนา
เป็นตัวอย่าง สู้ภัยพาลา ด้วยขันติ
ไม่สู้ แต่ก็ ไม่หนี
แสวงบุญสร้างบารมี ทำดีเรื่อยไป

ขันติบารมี เป้าหมายชีวี ต้องสร้าง
ชนะอุปสรรคต่างๆ ของชีวิต
ทุกภพชาติ มีขันติบารมี ตามติด
ทุกชีวิต ชีวี ปลอดภัย

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

สุขสันติ (อยู่ในคนดีเท่านั้น) คนดีเท่านั้น จึงจะสุขสันติ์ได้ ดูเหมือนแพ้พ่าย แต่สุดท้าย ชนะ หัวเราะทีหลัง ดังกว่า ด้วยขันติอย่างว่า เอาชนะด้วยบารมี

 สุขสันติ
(อยู่ในคนดีเท่านั้น)


คนดีเท่านั้น จึงจะสุขสันติ์ได้
ดูเหมือนแพ้พ่าย แต่สุดท้าย ชนะ
หัวเราะทีหลัง ดังกว่า
ด้วยขันติอย่างว่า เอาชนะด้วยบารมี

ชนะด้วยบารมี ชนะที่ ขาวสะอาด
ชนะเด็ดขาด ไม่มีกลับแพ้
ด้วยชนะใจ ชนะด้วยความดี นั่นแหละ
เป็นชัยชนะ ไม่มีผู้แพ้ ชนะแน่นอน

คนพาลหัวเราะลั่น เมื่อห้ำหั่นศัตรูได้
ช่างสะใจ ได้ทำลาย คนอื่น
ชนะภายนอก หลอกๆ ตื้นๆ
จงลืมตาตื่น ชาวโลก น่าตกใจ

กฎแห่งกรรม ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
สุดท้าย คนพาลทั้งหลาย หนีไม่พ้น
รับกรรมหนัก ในอบาย เวียนวน
เมื่อเกิดใหม่เป็นคน ยังใช้กรรมต่อ

เมื่อมีปัญหา ใช้ปัญญา เข้าแก้ไข
เอาขันติมาใช้ ชนะใส เด็ดขาด
คำสอนพระพุทธองค์ ช่างสุดคาด
น่าประหลาด ชนะด้วยความดี

ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
นี่หละใช่ สู้ด้วยขันติ อดกลั้น
ไม่สู้ คือ ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้ายกัน
ไม่ใช้นิสัยพาล สันดานดิบ

ใช้สงบ สยบเคลื่อนไหว ไม่หนี
ทำดีเรื่อยไป ทำใจนิ่งใจหยุด
เชื่อมั่น ในขันติบารมี เป็นธรรมาวุธ
 มีอานุภาพ วิเศษสุด ปราบมาร

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2564

ผู้ยิ่งใหญ่ (ชนะใจมหาชน) ล้มแล้วลุกได้ ยิ่งใหญ่ แท้ ไม่มีท้อไม่มีถอย ไม่มีแพ้ มีแต่ชนะ ขันติบารมี อนุสาวรีย์ ทหารกล้า ไม่มีล้า ยิ่งตียิ่งกล้า ยิ่งแกร่ง

ผู้ยิ่งใหญ่
(ชนะใจมหาชน)
ล้มแล้วลุกได้ ยิ่งใหญ่ แท้
ไม่มีท้อไม่มีถอย ไม่มีแพ้ มีแต่ชนะ
ขันติบารมี อนุสาวรีย์ ของผู้กล้า
ได้ชัยชนะ ด้วยว่า รักษาความดี
ขันติ ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
ไม่สู้ ไม่ต่อยตีทำร้าย ไม่ทำลายล้าง
ไม่หนี ล้มแล้วลุก ปลุกใจนิ่งหยุด อยู่ยั้ง
ทำดีเรื่อยไป ใจสว่าง ปัญหาต่างๆคลี่คลาย
 เหล็กถูกไฟ กลายเป็นเหล็กกล้า
ขันตินี่หละ ตะบะ ไฟอย่างยิ่ง 
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป ใจหยุดนิ่ง
ความมหัศจรรย์ยิ่ง จะปรากฎ หมดทางแพ้
ล้มร้อยครั้ง ลุกร้อยครา หันหน้าสู้
ศิษย์มีครู เห็นศัตรู คือครูสอน
เห็นปัญหา เป็นยาชูกำลัง ไม่อนาทร
ไม่ทุกข์ร้อน ได้ฝึกขันติบารมี ดีใจจัง 
 ล้มแต่ละครั้ง เสริมสร้าง กำลังใจ
ลุกขึ้นมาใหม่ กำลังใจ ยิ่งกว่าเดิม
บุญทับทวี ขันติบารมี เพิ่ม
ศัตรูที่เหิมเกริม แพ้ใจ กลายเป็นมิตร 
ขันติบารมี กำลังที่ ยิ่งใหญ่
 กำลังใดใด ไม่..เทียมทานเท่า
โลกธาตุ สะเทือน สะท้าน ปานผีเข้า
หมู่มารผู้โง่เขลา หลบลี้ หนีกระเจิง
คนพาลยิ้มเผล่ ดูโก้เก๋ รังแกประชาชน
ไม่มีความอดทน ต่อความอยากของตน คนอ่อนแอ
เหมือนภูเขาทราย ยิ่งสูงยิ่งอันตราย หมดทางแก้
ประมาทแท้ ไม่เคารพแม้แต่..คำสอนพระศาสดา
ขันตินี้ ล้มแล้วลุกได้ จะมีอานุภาพใหญ่เกิดขึ้น
อานุภาพบารมี ทะมึน มากล้นเกินคนคิด
ปราบมาร และคนพาล อำมหิต
เหนือความนึกคิด ปุถุชน คนธรรมดา
ขันติบารมี ศัตรูแพ้ใจ แพ้ภัยตน
เป็นคน..ให้อภัยได้ ยิ่งใหญ่แท้
ชนะใจตนเอง ไม่อวดเบ่ง รังแก
นี่แหละ ผู้ยิ่งใหญ่ ชนะใจ มหาชน

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

หลังคารั่วอยู่ไม่ได้ (อย่าปล่อยใจให้มีอารมณ์) :: อารมณ์เหนื่อยหน่าย อย่าให้เกิดกับเรา ยิ่งอารมณ์ซึมเศร้า อย่าให้เกิดกับเรา เด็ดขาด พลังชีวิต ใกล้ดับ อย่าประมาท อย่าเปิดโอกาศ ให้บาปหลั่งไหล เผาไหม้ชีวิต

หลังคารั่วอยู่ไม่ได้
(อย่าปล่อยใจให้มีอารมณ์) 

อารมณ์เหนื่อยหน่าย อย่าให้เกิดกับเรา
ยิ่งอารมณ์ซึมเศร้า อย่าให้เกิดกับเรา เด็ดขาด
พลังชีวิต ใกล้ดับ อย่าประมาท
อย่าเปิดโอกาศ ให้บาปหลั่งไหล เผาไหม้ชีวิต
รู้ตัวหรือไม่ การคิดร้าย บาปหลายยิ่งกว่าพูดและทำ
ด้วยเจตนาเป็นกรรม อย่างยิ่ง
การคิด จิตเจตนา จริงๆ
ใจคิดร้ายเหมือนมีผีสิง มืดมล อนธกาล
หยุดคิดร้ายไม่ได้ ถ้าใจไม่เมตตา
อันเกิดจากสุขสมอุรา ภายใน
 สุขจากใจหยุด ที่จุด ศูนย์กลางกาย
นี่หละท่านทั้งหลาย มันไม่ธรรมดา
การคิดร้าย คิดโลภ คิดโกรธ สาเหตุใหญ่ ของใจเบื่อเซ็ง
กลายเป็นคนเสงเครง ไม่เอาไหน
เพื่อนดีหนีหน้า ไม่กล้าเข้าใกล้
เพื่อนชั่วจัญไร ได้โอกาศ
หมั่นจับอารมณ์ตน คือคนบัณฑิต
อย่าปล่อยใจคิด พูดจา หรือกระทำ ตามอารมณ์
ให้ตัดไฟแต่ต้นลม
ตัดต้นเหตุความทุกข์ระทม คืออารมณ์นี้เอง 
 สิ่งร้ายๆ จะย่างกรายเข้ามา
ระงับสุดชีวา สติตั้งไว้ แล้วใช้ขันติ
 นึกถึงบุญญา เจริญภาวนา นั่งสมาธิ
 มีสติมั่น รู้ทันอารมณ์
 อารมณ์เครียด ใจไม่ละเอียด หยาบ
ถึงกับ งุ่นง่านหงุดหงิด จิตแตกซ่าน
 ขุ่นข้น มืดมล อนธการ
 การงาน มีปัญหา พะว้าพะวัง
ขาดกำลังใจ นอนตื่นสาย เกียจคร้าน
อืดอาดหย่อนยาน เหนื่อยหน่าย
ถูกดุถูกว่า ยิ่งระอา เบื่อเซ็งหลาย
หมดอาลัย ซังกะตาย ท้อแท้
คิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย กลายเป็นคนละคน
ทำลายตนโดยแท้ รีบแก้ไข
เหตุจาก ปล่อยตัว ปล่อยใจ
เพลิดเพลินไป ในอารมณ์
 อารมณ์เหมือนน้ำฝน หล่นใส่ หลังคา
สาดเทลงมา ใส่หลังคา โดยตรง
หลังคาไม่ดี สติขาด ไม่อาจดำรง
ชีวิตแทบปลิดปลง อยู่ลำบาก ยากเย็น
ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นมรรคาของบัณฑิต
อารมณ์ถูกพิชิต มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย
 ให้สุขสำเร็จสมปราถนา ตลอดไป
 กระแสพระนิพพานหลั่งไหล คุ้มครอง
ชีวิตมีค่า เกิดมา ต้องมีอุดมการณ์
มีความฝัน บากบั่น มานะ
รักษาใจ ไวในตัว มีสติสัมปชัญญะ
  รักษา หลังคาคือใจ ให้ไร้อารมณ์

 ;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ความเครียดโรคร้าย (ขจัดง่ายๆเพียงใช้สติ) :: การมีสติ คือมิปล่อยอารมณ์ไหล ควบคุมใจ ไม่ให้ไหล ไปตามอารมณ์ ใจเหมือนเด็กทารก ชอบสกปรก เล่นโคลนตม ใจมีอารมณ์ ชอบไหล ไปที่ต่ำ

 ความเครียดโรคร้าย
(ขจัดง่ายๆเพียงใช้สติ)
การมีสติ คือมิปล่อยอารมณ์ไหล
ควบคุมใจ ไม่ให้ไหล ไปตามอารมณ์
ใจเหมือนเด็กทารก ชอบสกปรก เล่นโคลนตม
ใจมีอารมณ์ ชอบไหล ไปที่ต่ำ
เด็กก็เป็นผู้ใหญ่ได้ ถ้ามีใจมั่นคง
 สติดำรงมั่น ขยันพัฒนาสติ
ควบคุมอารมณ์ ไม่จ่อมจม อยู่กับความคิดไม่ดี
อดทนอดกลั้นเต็มที่ เมื่อมีอารมณ์เครียด
ผู้มีสติ ขณะที่จะมีอารมณ์ร้าย
 ดับมันได้ โชคดีหลายที่สุด
ดับความเครียด ตัวเสนียดของมนุษย์
 ร้ายสุดสุด ยิ่งกว่าบุตร อกตัญญู
หยุดใจไว้ภายใน สำคัญหลาย หายเครียด
ขจัดเสนียด ได้ขันติ อนุสาวรีย์ แห่งชัยชนะ
 ใจที่มืด ค่อยๆจางจืด สว่างจ้า
 สุขสมอุรา ได้ชัยชนะและความสำเร็จ
คนทั่วไป ไม่ฝึกใจ เพิ่มพูนสติ
จึงมีความเครียดสะสม อารมณ์ เปราะบาง
ใครไม่อยากเข้าใกล้ คนอะไร ตาขุ่นขวาง 
สมบัติต่างๆ ก็ไม่อยู่ วิ่งอู้หนีหาย
รักษาสติในตน คนบัณฑิต
  มีชีวิต มุ่งสู่ทิศ พระนิพพาน
ยิ่งก้าวเดิน ยิ่งเพลิน ยิ่งชื่นบาน
ชีวิตตระการ สุขสมบูรณ์ ด้วยบุญบารมี
ทางบุญ สายกลาง ทางบัณฑิต
คนละทิศ กับพาลี มีแต่เครียด
เห็นบาปเป็นน้ำผึ้ง คิดไม่ถึง เป็นเสนียด
ดูไม่ละเอียด ด้วยความเครียด ปิดบัง
บัณฑิต ถูกทำร้าย ได้บารมี
ถือเป็นดี ยากจะมี ของพระโพธิสัตว์
เสียเลือดเนื้อ ชีวา ก็ยังว่า ดีชมัด
เป้าหมายชัด ช่วยสรรพสัตว์ หายเครียด

;;;;;;;;;;