หลังคารั่วอยู่ไม่ได้ (อย่าปล่อยใจให้มีอารมณ์) :: อารมณ์เหนื่อยหน่าย อย่าให้เกิดกับเรา ยิ่งอารมณ์ซึมเศร้า อย่าให้เกิดกับเรา เด็ดขาด พลังชีวิต ใกล้ดับ อย่าประมาท อย่าเปิดโอกาศ ให้บาปหลั่งไหล เผาไหม้ชีวิต

หลังคารั่วอยู่ไม่ได้
(อย่าปล่อยใจให้มีอารมณ์) 

อารมณ์เหนื่อยหน่าย อย่าให้เกิดกับเรา

ยิ่งอารมณ์ซึมเศร้า อย่าให้เกิดกับเรา เด็ดขาด
พลังชีวิต ใกล้ดับ อย่าประมาท
อย่าเปิดโอกาศ ให้บาปหลั่งไหล เผาไหม้ชีวิต

รู้ตัวหรือไม่ การคิดร้าย บาปหลายยิ่งกว่าพูดและทำ
ด้วยเจตนาเป็นกรรม อย่างยิ่ง
การคิด จิตเจตนา จริงๆ
ใจคิดร้ายเหมือนมีผีสิง มืดมล อนธกาล

หยุดคิดร้ายไม่ได้ ถ้าใจไม่เมตตา
อันเกิดจากสุขสมอุรา ภายใน
 สุขจากใจหยุด ที่จุด ศูนย์กลางกาย
นี่หละท่านทั้งหลาย มันไม่ธรรมดา

การคิดร้าย คิดโลภ คิดโกรธ สาเหตุใหญ่ ของใจเบื่อเซ็ง
กลายเป็นคนเสงเครง ไม่เอาไหน
เพื่อนดีหนีหน้า ไม่กล้าเข้าใกล้
เพื่อนชั่วจัญไร ได้โอกาศ

หมั่นจับอารมณ์ตน คือคนบัณฑิต
อย่าปล่อยใจคิด พูดจา หรือกระทำ ตามอารมณ์
ให้ตัดไฟแต่ต้นลม
ตัดต้นเหตุความทุกข์ระทม คืออารมณ์นี้เอง 

 สิ่งร้ายๆ จะย่างกรายเข้ามา
ระงับสุดชีวา สติตั้งไว้ แล้วใช้ขันติ
 นึกถึงบุญญา เจริญภาวนา นั่งสมาธิ
 มีสติมั่น รู้ทันอารมณ์

 อารมณ์เครียด ใจไม่ละเอียด หยาบ

ถึงกับ งุ่นง่านหงุดหงิด จิตแตกซ่าน

 ขุ่นข้น มืดมล อนธการ

 การงาน มีปัญหา พะว้าพะวัง

ขาดกำลังใจ นอนตื่นสาย เกียจคร้าน
อืดอาดหย่อนยาน เหนื่อยหน่าย
ถูกดุถูกว่า ยิ่งระอา เบื่อเซ็งหลาย
หมดอาลัย ซังกะตาย ท้อแท้

คิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย กลายเป็นคนละคน
ทำลายตนโดยแท้ รีบแก้ไข
เหตุจาก ปล่อยตัว ปล่อยใจ
เพลิดเพลินไป ในอารมณ์

 อารมณ์เหมือนน้ำฝน หล่นใส่ หลังคา

สาดเทลงมา ใส่หลังคา โดยตรง

หลังคาไม่ดี สติขาด ไม่อาจดำรง

ชีวิตแทบปลิดปลง อยู่ลำบาก ยากเย็น

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นมรรคาของบัณฑิต

อารมณ์ถูกพิชิต มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย
 ให้สุขสำเร็จสมปราถนา ตลอดไป
 กระแสพระนิพพานหลั่งไหล คุ้มครอง

ชีวิตมีค่า เกิดมา ต้องมีอุดมการณ์

มีความฝัน บากบั่น มานะ
รักษาใจ ไวในตัว มีสติสัมปชัญญะ

  รักษา หลังคาคือใจ ให้ไร้อารมณ์

 ;;;;;;;;;;

อย่าปล่อยอารมณ์ (อย่าเพลินความสนุก) :: ใจมีอารมณ์ ขย่มเจ้าของ เกิดจาก สิ่งหมักดอง อยู่ในใจ เป็นบารมีหรือกิเลส ดีหรือร้าย ผสมอยู่ในใจของเรา

อย่าปล่อยอารมณ์
(อย่าเพลินความสนุก)

ใจมีอารมณ์ ขย่มเจ้าของ

เกิดจาก  สิ่งหมักดอง อยู่ในใจ

เป็นบารมีหรือกิเลส ดีหรือร้าย

ผสมอยู่ในใจของเรา

กิเลสเหมือนเกลือ

เจืออยู่ในน้ำบารมี

กิเลสมาก น้ำเค็มมาก อัปปรี

น้ำจืดสนิทดี ถ้าบารมีมาก

ใจปราศจากอารมณ์ เหมือนลมหยุดพัด
สงบสงัด สุขสมปราถนา
ทำอะไรง่ายๆ ก็ได้มา
ทั้งกายาสวยงาม ความเจ็บไข้ก็ไม่มี

คนทั้งหลาย ไม่ใส่ใจ ในอารมณ์
จึงจ่อมจมอยู่กับทุกข์
เห็นได้จาก รักสนุก
ขลุก อยู่กับความเพลิดเพลิน

หนังละครน้ำเน่า เร้าอารมณ์
จม อยู่กับมือถือ
เล่นเกมส์ดูแข่งขันสารพัด ขจัดเวลา ช่างบื้อ
กลายเป็นคนดื้อ ว่ายากสอนยาก

เหตุทั้งหมด คือไม่จรดใจไว้ในตัว
ไม่อายไม่กลัวบาป เท่ากับท้านรก
นั่งสมาธิน้อยไป ไม่ใส่ใจคำครู น่าตระหนก
อยู่ใกล้นรก ใกล้ทุกข์ ยังสนุกอยู่ได้

ดังนั้น กรณียกิจอันดับแรกของชึวิต
อุทิศให้ กับการนั่งสมาธิ
สะกดบาปเอาไว้ ไม่ให้มีฤทธี
บุญบารมีได้โอกาส หนุนชีวาตเรา

ไม่ว่าน้ำเค็มหรือกล่อย

สัตว์ใหญ่น้อย อาศัยอยู่ได้

ไม่ทุกข์ หลงว่าตนสุข ระเริงใจ

 สุขไม่ใช่ เพียงสนุกสุกๆดิบๆ คล้ายติดยา

อ้ตคัดขัดสน ยากจนกระทั่งเคย
อยู่สะเบย เหมือนปลาอยู่ในน้ำ
หนอนในส้วม หรือในน้ำคลำ
ลำบากตรากตรำ แต่ก็ยังอยู่ได้

นักเลงสุราเช้าฮา เย็นเฮ

เดินเอียงกะเท่เล่ คิดว่าตนเท่นักหนา

ส่งเสียงดังลั่น ว่าตัวฉันไม่ธรรมดา

ช่างเก่งกล้า เป็นบ้าท้านรก

กินเหล้าย้อมใจ คลายทุกข์

หลงสนุก เหมือนแมงเม่า บินเข้าไฟ

นี่หละทุกข์ เอาสนุกบังไว้

คนรักสนุกทั้งหลาย ใช่ ทุกข์ทั้งนั้น

คล้ายๆหมู่หนอนหรือหมู่ปลา

ต้องดิ้นรนแสวงหา ไม่หยุด

เป็นอาการของทุกข์ สุดสุด

สุขสุดสุด คือหยุดแสวงหา

เหมือนอย่างในพระนิพพาน

นั่งนิ่งๆเท่านั้น ไม่ทำอะไร

สุขสุดสุด เหนือมนุษย์ ใจสว่างไสว

เป็นสุขที่เป็นไทย ไพบูลย์ในตน

นี่หละ ที่ว่าภาวะตัณหา
คือการยึดติดในสภาวะ ของตน
ยากนักหนา จะมีศรัทธาพาพ้น
ยากเหลือล้น สั่งสอนคนมีกิเลส

;;;;;;;;;;

รักษาตนพ้นอบาย (ให้รักษาอารมณ์):: คนทั้งหลาย ไหลตามกิเลส สังเกตจาก ไม่รักษาอารมณ์ เวลาโกรธ หรือเศร้าใจ ก็จ่อมจม ทุกข์ระทม อยู่กับอารมณ์นั้น

รักษาตนพ้นอบาย
(ให้รักษาอารมณ์)

คนทั้งหลาย ไหลตามกิเลส

สังเกตจาก ไม่รักษาอารมณ์

เวลาโกรธ หรือเศร้าใจ ก็จ่อมจม

ทุกข์ระทม อยู่กับอารมณ์นั้น

หรือไม่ ก็หาทางไล่ ปัดป่าย

ยิ่งไล่ก็ยิ่งมากหลาย ด้วยไม่รู้

เหมือนแหย่รังผึ้ง ผึ้งวิ่งกรู

แตกตื่นหาผู้ อยู่ไม่สุข

วิธีที่ถูกคือ อย่าถืออารมณ์

อย่าจ่อมจม เพียงรู้ทันอารมณ์ เท่านั้น

รู้ว่า นี้คือภาวะ มีกิเลสะ บีบคั้น

แล้วนิ่งๆอดกลั้น อยู่กับมันให้ได้

นิ่งๆไม่นาน อย่ากดดันก็แล้วกัน

ใจเรานั้น จะขยับขยาย เปลี่ยนไป

ถ้าฝึกบ่อยๆ จะค่อยๆเร็วไว

ทุกข์ทั้งหลาย เกาะกินใจเราไม่ได้

นี่หละ ที่เรียกว่า ฝึกขันติ

เป็นวิธี เอาชนะมาร

ไม่สู้ไม่หนี เป็นไงเป็นกัน

ได้บารมีบาน เป็นรางวัลใหญ่

เมื่อมีบารมี อะไรก็จะดีไปหมด

ชีวิตใสสด เหมือนฝัน

อานุภาพบุญ ช่างน่าอัศจรรย์

อดทนอดกลั้น ได้บุญบารมี

เวลามีปัญหา เป็นเวลาฝึกตน

อยู่นิ่งๆ อย่าบ่น อดทนไว้

ดูอารมณ์ของตน ภายใน

ตั้งสติไว้ คิดดีไว้ ว่าได้บารมี

อารมณ์มี๓ ทุกข์ สุข และเฉย

อารมณ์ทุกข์  ไม่สะเบย ใจดิ้นหนี
อารมณ์สุข ใจนิ่งสงบ สุขสันติ
ใจเฉยนี้ เฉื่อยชาซึมเซ็ง เล็งหาแต่กามคุณ

ใจเฉยนี้ ไม่หนี ไม่ไปไหน
เป็นปลาตาย ไหลลอยตามน้ำไป เป็นแพ
ติดโลก ติดวัตถุ ติดสนุก เดี๋ยวทุกข์แน่
ตามกันไปเป็นแพ สู่อบาย ในที่สุด

;;;;;;;;;;

ความเครียด (เสนียดชีวิต):: ทำให้ใจมืดมิด อารมณ์ร้าย โง่เป็นลา หรือยังกะควาย ทุรนทุราย ก่อบาป หยาบช้า

ความเครียด
(เสนียดชีวิต)

ความเครียด เสนียดชีวิต

ทำให้ใจมืดมิด อารมณ์ร้าย
 โง่เป็นลา หรือยังกะควาย
ทุรนทุราย ก่อบาป หยาบช้า

ความเครียดทำให้ ไม่สบาย
เกิดความเบื่อหน่าย ซึมเซ็ง
ใจไม่สงบ ตัวเกร็ง
กลายเป็นคนเส็งเครง น่าเบื่อ

ใจดำมืด อึดอัด
สารพัดปัญหา ดาหน้าเข้า
เรื่องเล็ก เฉกเช่นเรื่องใหญ่ คนเขลา
ชีวิตของเจ้า ตายทั้งเป็น 

ดังนั้น ชีวิตของเรา

จึงต้องเฝ้า ตามติด 
รักษาอารมณ์ สุดชีวิต
ประมาทแม้นิด ไม่ได้
 

 ปมาโท มัจจุโน ปทัง

ความประมาท เป็นทาง แห่งความตาย

เป็นอนันต์ ทุกข์ทรมานหลาย

เวียนว่าย ตายเกิด ในทุคติภูมิ

อินทรีย์สังวร

อย่าให้ร้อน ดูแลตาหูฯ

เห็นก็สักแต่เห็น ดูก็สักแต่ดู

ไม่ปล่อยกิเลสฟู สติล่ม

 นั่งสมาธิ ฝึกสติ เจริญภาวนา

นี่หละ ถึงว่า เป็นกรณียกิจ
แต่ว่า ยากนักหนา จะได้คิด
เนื่องด้วยฤทธิ์ ของกิเลส

 ไม่ฝึกสติ เป็นผู้ที่ประมาท

หมดโอกาส ได้เกิดเป็นมนุษย์
คนส่วนมากเหมือนปลา ประมาทสุด
 พระพูด ไม่มีฟัง

เพียงหลับตา ละโลกได้
นั่นแหละใช่ มีสติ
ใจนิ่งสนิทดี
เกิดปีติ อยู่ภายใน มีโชคชัยนัก

 ปล่อยวางโลก ปล่อยวางกามคุณ
ทุกข์หัวหมุน หดหาย
ความทยานอยาก ตัวร้าย
ตัณหาหมดไป ทะลายความเครียด

 

ดับกามตัณหาได้

 ใจอบอุ่นดีนัก รู้จักรับผิดชอบ
ขยันหมั่นเพียร ในกรอบ

รอบคอบ เสียสละ

มีก็สักแต่มี

ดูแลอย่างดี ไม่เลิกลา

ไม่ตั้งปราถนา

แต่สมบัติ ก็มาเอง

ตัณหาดับ กลับมี ฉันทะ

ชอบเสียสละ อุทิศตน เพื่อคนอื่น
มีความกตัญญู เป็นผู้ที่ตื่น
เหมือนหลับแล้วฟื้น ยืนขึ้นได้

รู้จัก รักสร้างบารมี

รู้ดี ด้วยสติตื่น

ความเครียดดับ สติฟื้น

ยิ้มระรื่น สว่างไสว

;;;;;;;;;;

ความขุ่นข้องหมองใจ (Resentment):: ความขุ่นข้องหมองใจ ทำลาย มิตรภาพ รีบทำใจให้กลับ มารับมัน และรู้ทันอารมณ์

ความขุ่นข้องหมองใจ

(Resentment)

ความขุ่นข้องหมองใจ

ทำลาย มิตรภาพ

รีบทำใจให้กลับ

มารับมัน ให้รู้ทันอารมณ์

ดูมันข่ม ดูมันเขย่า

รุกรานเรา อย่างน่าชม

มันหวังให้เราระทม

มันจะได้สมน้ำหน้า

 ตามรู้อารมณ์ ผู้รู้ชมว่ามีสติ

เป็นลักษณะที่ มีปัญญา

ไม่หลงเป็นบ้า

กลายเป็นพาลา ตัวร้าย

อารมณ์ที่เรารู้ทัน

มัน จะคลายออกเอง

ใจจะเกิดบานเบ่ง

เป็นลักษณะคนเก่ง มีจาคะ

ถ้าเรารู้ไม่ทัน ใจมันจะขุ่นข้อง

จิตเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส

ขาดสติ นี้ ยิ่งกว่าตาย

ไปอบายแน่นัก ไม่อาจจักนับเวลา

 เมื่อเรารู้ทันอารมณ์

ไม่จ่อมจม อยู่กับมัน

ได้บุญมหันต์

เป็นคุณธรรมขันติ

สะสมไว้มากๆ

ดีนัก ปราบพาลี

เกิดเป็นบารมี

สุขสมปราถนาดี ทุกประการ

การสร้างบารมี

ไม่อาจหลีกหนี จากหมู่คณะ

เราเหมือนลูกแกะ ไม่อาจจะ

ออกจากหมู่คณะ ละออกจากฝูง

 ความขุ่นข้องขัดเคือง

เป็นเรื่อง ที่หนีไม่ได้

เจ็บปวดแค่ไหน อดทนไว้

อดทนได้ คุ้มค่าหลาย ได้บารมี

ฝึกตน เป็นคนว่าง่าย

อย่างยายฯสิ

ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ชมเขาดี เรื่อยไป

ทำใจให้เป็นพระ

มีเมตตา หลายๆ

นั่งสมาธิเข้าไว้

แผ่เมตตาไป ทุกวันๆ

;;;;;;;;;;