แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระรัตนตรัย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระรัตนตรัย แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565

พระรัตนตรัยเป็นอัตตา (สุขสมปราถนาจึงมีได้) โภคะของใคร ไม่ว่าบุรุษหรือสตรี เพียงคิดเอาเท่านี้ ย่อมมีไม่ได้ จะต้องมีบุญบารมี ที่ยิ่งใหญ่ เข้าถึงพระรัตนตรัย ที่เป็นอัตตา

 พระรัตนตรัยเป็นอัตตา
(สุขสมปราถนาจึงมีได้)


โภคะของใคร ไม่ว่าบุรุษหรือสตรี
 เพียงคิดเอาเท่านี้ ย่อมมีไม่ได้
จะต้องมีบุญบารมี ที่ยิ่งใหญ่
เข้าถึงพระรัตนตรัย ที่เป็นอัตตา

คนทั้งหลาย ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์
เป็นกฎหลัก ของชีวิต
มี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ลิขิต
มีชีวิต เหมือนเล่นละคร

อนัตตา คือว่า มันไม่เป็นไปตามจิต
จะคิดอย่างไร มันไม่เป็นตามใจเรา
มันเป็นของมันเอง แล้วแต่กรรมเก่า
ที่เราทำไว้ ในอดีต

กรรมวิบาก ไหลมาจากอดีต
ควบคุม ความคิด คำพูด การกระทำ
เป็นเหมือนบทละคร ที่เราท่องจำ
แล้วก็ร้องรำ ไปตามบท

สิ่งที่มีที่ได้ที่เป็น ที่เห็น มันไม่จริง
แปลกอย่างยิ่ง ทุกสิ่งหายสูญ หลังตาย
เหลือแต่บุญกับบาป ลองคิดดูให้เข้าใจ
เหมือนเล่นละคร เสร็จใหม่ๆ กลายเป็นคนเดิม

พระพุทธศาสนา รู้เช่นเห็นชาติ
จึงออกประกาศ พระศาสนา
สรรพสัตว์ มีอันตราย จากมารา
ใช้กิเลสตัณหา พาไปอบายภูมิ

หลอกให้เล่นละครได้ อย่างไม่รู้สึก
เมื่อนึกได้ ตอนตาย ก็สายแล้ว
ไม่ได้แสวงบุญสร้างบารมี อันเป็นแก้ว
เป็นอัตตา พาคลาดแคล้ว บ่วงมาร

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

หิริโอตัปปะ (จึงจะพบพระรัตนตรัยในตัว) หิริโอตัปปะ รักษาโลกนี้ไว้ หิริ อาย..บาป โอตัปปะ กลัวบาป บุญธรรมธาติ บริสุทธิ์สะอาด ขจัดบาป บุญเป็นอัตตา เท่ากับ รักษาโลก

หิริโอตัปปะ
(จึงจะพบพระรัตนตรัยในตัว) 

หิริโอตัปปะ รักษาโลกนี้ไว้
หิริ อาย..บาป โอตัปปะ กลัวบาป
บุญธรรมธาติ บริสุทธิ์สะอาด ขจัดบาป
บุญเป็นอัตตา เท่ากับ รักษาโลก

เมตตา นั่นหละ เครื่องค้ำจุนโลก
ดับทุกข์โศก ให้ชาวโลกทั้งผอง
ดินฟ้าอากาศสดใส เรืองรอง
สรรพสัตว์ทั้งผอง เป็นพี่น้องกัน

ความริษยา เป็นเหตุโลกา ฉิบหาย
คิดร้าย..ต่อกัน ไม่ใช่ฉันพี่น้อง
แตกแยกสัมพันธ์ แบ่งชั้น ใจหมอง
ดินฟ้าอากาศขุ่นข้อง หมองไปด้วย

พระมหาบุรุษ กรุณามาก ไม่อาจจักดูดาย 
ทุ่มชีวิต ขวนขวาย สร้างบารมี
สรรพสัตว์ สุดประมาท ไม่รู้ไม่ชี้
ไม่อาจหนี คุกประหาร สังสารวัตร 

คนดี มีความกตัญญู เป็นเครื่องหมาย
มีปัญญาหลาย จึงได้ทราบซึ้งคุณ
สำคัญสุด กตัญญูต่อบุญ
จึงเร่งลุ้น แสวงบุญสร้างบารมี

คนอกตัญญู คือผู้ไม่รู้จักอิ่ม
เหมือนสนิม ไม่มีอิ่ม เนื้อเหล็ก
ให้โลกทั้งโลก ก็ยังว่าเล็ก
 ตัณหา เป็นกิเลส ไม่รู้อิ่ม

ทางสายกลางภายใน ทางไร้ตัณหา
ของผู้มีศรัทธา คารวะ และกตัญญู
เป็นทางอริยะ ของพระผู้รู้
เป็นทางที่อยู่ ของพระรัตนตรัย

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ล้มแล้วลุกไม่เข็ด (อนุสาวรีย์ความสำเร็จ ขันติ):: ขันติ อนุสาวรีย์ ความสำเร็จ ล้มแล้วลุก ไม่เข็ด เด็ดแท้ เหล็กถูกไฟ ยิ่งกล้าแก่ ขันตินี่แหละ ไฟ ใหม้กิเลส

ล้มแล้วลุกไม่เข็ด
(อนุสาวรีย์ความสำเร็จ ขันติ)

ขันติ อนุสาวรีย์ ความสำเร็จ
ล้มแล้วลุก ไม่เข็ด เด็ดแท้
เหล็กถูกไฟ ยิ่งกล้าแก่
ขันตินี่แหละ ไฟแท้ เผากิเลส 
มีปัญญา จึงกล้าหาญ อดทน
อุทิศตน เพื่อคน ส่วนใหญ่
เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ
อยู่ไม่ได้ เมื่อเห็นใคร เดือดร้อน
อดทน ทน วิ่งไป 
หยุดไม่ได้ ตราบใด หายใจอยู่
ทำความดี สุดดี คือสู้
หยุดอยู่ ไม่ได้ พ่ายแพ้ 
ด้วยขันติ ทานศีลภาวนา จึงมาสม่ำเสมอ
ได้บุญเยอะ ต่อกันเป็นสาย กลายเป็นบารมี
บารมีสิบทรรศ เจิดจรัส ดังพระสุรีย์
ส่องสว่างให้โลกนี้ และโลกหน้า
ด้วยสติดี ขันติ จึงมา
ดังนั้นภาวนา จึงขาดไม่ได้
หมั่นเก็บใจ ไว้ในกาย
จะได้ไม่ได้คิดร้าย มหาภัยของชีวิต
พระพุทธองค์ ทรง ย้ำ
ขันตินำ บรรลุธรรม เป้าหมาย
เข้าให้ถึงที่พึ่ง จึง พ้นภัย
พระรัตนตรัย หลักชัย ค้ำชีวิต
บรรลุธรรม อานุภาพล้ำ พ้นภัย
หมู่มารพ่าย พระรัตนตรัย ในตัว
ภัยธรรมชาติอุบัติ ขจัด คนชั่ว
ความมืดสลัว หายไปสิ้น แผ่นดินสูง

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

สวดมนต์ผูกใจ (พ้นภัย ทั้งตนและคนอื่น) สวดมนต์ บูชา พระรัตนตรัย เป็นการ ผูกใจ ไว้ที่สูง พ้นทุกข์โศก ใจเป็นสมถะ สงบระงับ ดับกระแสโลก ใจถูกยก ขึ้นสู่สูง มุ่งสู่เส้นทางสมปราถนา

สวดมนต์ผูกใจ
(พ้นภัย ทั้งตนและคนอื่น)
สวดมนต์ บูชา พระรัตนตรัย
เป็นการ ผูกใจ ไว้ที่สูง พ้นทุกข์โศก
ใจเป็นสมถะ สงบระงับ ดับกระแสโลก
ใจถูกยก ขึ้นสู่สูง มุ่งสู่เส้นทางสมปราถนา
บูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมหามงคล
บันดาลดล ความสุข ความสดใส
 บูชาถูกเนื้อนา ได้มหาบุญใหญ่
พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียวในวัฏฏะ
สวดมนต์ เปล่งเสียง สำเนียงก้อง
 กระชับหน้าท้อง ให้เกร็ง แล้วเปล่งเสียง
อวัยวะน้อยใหญ่ ใช้อย่าง พร้อมเพียง
เปล่งเสียง สวดมนต์ พ้นออกมา
อวัยวะใด ใช้ทำ ความดี
 จะมี ความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง
 สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่ขัดข้อง
ไม่หมอง อะหล่องฉ่อง งดงาม 
เสียง แซกซึมได้ ไปในบรรยากาศ
ความมืดมัว ถูกขจัด หายหม่นหมอง
 สรรพสัตว์ สรรพสิ่ง พิสุทธิ์เรืองรอง
บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไปด้วยกัน
เทวดาอารักษ์ ชอบใจนัก อนุโมทนา
ลงปกปักรักษา ให้สมปราถนา อยู่เย็น
ดินฟ้าอากาศ ดีสุดคาด นี้ช่างเป็น
โรคภัยไข้เจ็บ ความยากเข็ญ มลาย
สิ่งทั้งหลาย ภายนอก อยู่ที่เรา
กระเทือนดาว เพียงปลิดเอา ใบไม้
อุปสรรค จงรู้จัก ไม่ใช่อะไร
กรรมเราไซร้ ทำไว้ สมแก่กรรม
สวดมนต์ ชำระกาย วาจาใจ
กรรมน้อยใหญ่ ชะลอไหล เข้ามา
สงเคราะห์ สรรพสัตว์ ธรรมชาติ แจ่มจ้า
นี่แหละหนา คุณสวดมนต์ ล้นพ้นนัก

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

โลกมืด (ไม่เห็นทุกข์) โลกนี้มืด แม้ยืนยืด อยู่กลางแจ้ง มารแกล้ง เอาอวิชชา มาปิดบัง ไม่เห็นทุกข์ เห็นแต่สนุก โธ่ถัง! ฟังพระบ้าง โง่แล้วยัง อวดดี


โลกมืด
(ไม่เห็นทุกข์)
โลกนี้มืด แม้ยืนยืด อยู่กลางแจ้ง
มารแกล้ง เอาอวิชชา มาปิดบัง
ไม่เห็นทุกข์ เห็นแต่สนุก โธ่ถัง!
ฟังพระบ้าง โง่แล้วยัง อวดดี
หลับตาแล้วมืด นั่นหละ อวิชชา
 ต้นเหตุ ตัณหา พามืด
หน้าด้าน หน้าทน เอาตะพึด
ติดยึด เหมือนปลา คุ้นกะน้ำ
 
ที่ลืมตาเห็น เป็นโลก หลอกๆ

โลกจริงขอบอก เพียงหลับตา แล้วจะเห็น
เหมือนเต่าขึ้นบก หรือนก ที่บินเป็น
สมารถเห็น ไม่เป็น เช่นปลา
 
ลืมตาเห็น ในครอบ ขอบจักรวาล
หลับตาเห็นนั้น แสนโกฏิจักรวาล ยังเห็น
อดีตปัจจุบันอนาคต เห็นหมด นี้ช่างเป็น
เห็นไม่เว้น ไกลใกล้ เล็กใหญ่ ไม่จำกัด
เห็นอดีตของตน ของคน และสรรพสัตว์
เห็นแจ้งชัด แม้กิเลสร้าย ในใจตน
เห็นเส้นทางสายกลาง ที่ห่าง อกุศล
อันเป็นทางหลุดพ้น พบพระรัตนตรัย
 
เห็นทุกข์ หมดสนุก แล้วที่สุดจะเห็นธรรม
 แปลกล้ำ ทุกข์คลาย แล้วใจหลุด เหมือนถูกดูดเข้าข้างใน
เกิดใจบริสุทธิ์ ผ่องใส
หยุดในหยุด ที่สุดถึงพระรัตนตรัย ในตัว
 มีปัญญา หลับตา ไม่มืด

ใจไม่จืด มีเมตตา มหาศาล
นำพา มหาชน พ้นกันดาร
สุขสำราญ สมปราถนากัน ทุกคน

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พึ่งพาตน (คือคนพึ่งพระรัตนตรัย) :: พุทธศาสนา สอนให้พึ่งพาตน แต่แปลกล้น คนพึ่งพา พระรัตนตรัย ดูสับสน แต่ว่า นี่ล่ะใช่ อย่าสงสัย พระรัตนตรัย ก็คือตน

พึ่งพาตน
(คือคนพึ่งพระรัตนตรัย)
พุทธศาสนา สอนให้พึ่งพาตน
แต่แปลกล้น คนพึ่งพา พระรัตนตรัย
ดูสับสน แต่ว่า นี่ล่ะใช่
อย่าสงสัย พระรัตนตรัย ก็คือตน
เป็นธรรมกาย กายธรรมมหาบุรุษ
กายในสุด บริสุทธิ์จากกิเลส
เป็นอมตะ พึ่งพาตนเองเสร็จ
สุขสำเร็จ อยู่ในตัว
เข้าไปถึง จึงรู้ว่าใช่
ไม่สงสัย ทำไมเราอยู่ตรงนี้
พูดไม่ได้ แต่มันเข้าใจ เต็มที่
ก็ด้วยอย่างนี้ ที่เรียกว่า อจินไตย
ตนหรือเรา คนเข้าใจว่ากายหยาบนี้
แต่เมื่อตายเป็นผี กายนี้ถูกเผา
ผีก็คือเรา
ดังนั้น ไม่ใช่กายเน่าๆ นี้แน่
ยังมีกายซ้อนกาย ล้วนใช่กายของตน
แต่ไม่ใช่ตน ด้วยยังปนกิเลส
ธรรมกายจึงใช่ตนแท้ ไม่เท็จ
หมดจรดจากกิเลส เป็นเอกเทศ อย่างแท้จริง
ใจมีศรัทธา ได้ชื่อว่า มีอริยทรัพย์
เท่ากับ รับว่า ใจคือตนมีที่พึ่ง
มีสมบัติสาม ติดตาม ประหนึ่ง
เป็นที่พึ่งรับใช้ ไปทุกชาติ
รักตนให้ทนฝึกใจ มีนิสัยดี
อย่าปล่อยให้หนี ทางสายกลาง
ทานศีลภาวนา ชีวาตั้ง
สุขสมหวัง ทุกประการ
มีศรัทธา จึงสร้างบารมีได้
บารมีนั้นไซร้ ใช่ คือสะเบียงเดินทาง
เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว ที่ไม่มีห่าง
ดุจดั่งมารดาบิดา รักษา บุตร
เมื่อมีบารมีเพิ่ม มิติเดิม เปลี่ยนไป
รู้สึกได้ ไม่เหมือนเดิม
กายภายนอก ดูหลอกๆ ของเพิ่ม
ได้เริ่ม รักร่าง อย่าง ผู้ให้คุณ 
รู้สึกเป็น เช่น เสื้อผ้า
ไม่สำคัญ ว่า เป็นตัวตน 
อยู่ภายใน สุขใจ ล้น
กายตนไซร้ อยู่ภายใน นี่เอง 
กายที่สิบแปด ธรรมกาย ใส
พระรัตนตรัยในตัว 
เมื่อเข้าถึง จึงรู้สึก เป็นตัวของตัว
รู้สึกตัว ว่าใช่ อจินไตยจริงๆ 

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กราบพระรัตนตรัย (อานิสงส์ใหญ่ คิดไม่ถึง):: ธรรมสี่ประการ อันมี อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเป็นปกติธรรมดา จะ เจริญแก่ผู้ รู้จักอภิวาท

กราบพระรัตนตรัย
(อานิสงส์ใหญ่ คิดไม่ถึง)
พรสี่ประการ
อันมี อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเป็นปกติธรรมดา
จะ เจริญแก่ผู้ รู้จักอภิวาท
อภิวาท เป็นมารยาท กราบไหว้
พระรัตนตรัย ด้วยจิตเลื่อมใสศรัทธา
กราบ เบญจางคประดิษฐ์ ท่านว่า
อวัยวะห้าแห่ง แตะพื้น
คุกเข่า และเอาฝ่ามือทั้งสอง
ศอก หน้าผาก แตะพื้น
กราบพระพุทธฯผู้รู้ผู้ตื่น
ไม่ดาษดื่น แต่เป็นของพื้นๆชาวพุทธ
กราบง่ายๆ แต่ได้อานิสงส์ใหญ่
ที่คนทั้งหลาย ใฝ่หา
อายุยืนยาว ผิวพรรณวรรณะ
สุขสมปราถนา และพละ มีสุขภาพ
การกราบ อาจยิ่งกราบยิ่งเมื่อย
กราบเรื่อยเปื่อย ไม่ได้อะไร
ไม่ได้กราบด้วยใจ
ไม่เอาสติไว้ ในตัว
เมื่อใจนิ่งอยู่ภายใน บุญไหล
ใจสดใส มีปีติ
บุญพระนิพพาน เป็นท่อธาร มาทันที
ดวงธรรมใสเต็มที่ มีสุข
ของง่ายๆ กลายเป็นยาก
ถ้าไม่รู้จัก ศรัทธา
การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
จึงเป็นมหา มงคล
ผู้บูชาพระรัตนตรัย ไม่ธรรมดา
ยังจะได้สมบัติ๖ โชคอนันต์
หนึ่ง ได้กาลสมบัติ คือได้เกิดในยุคนั้น
เกิดมาทัน พุทธศาสนา
สอง ได้คติสมบัติ
คือไม่ได้เกิดเป็นสัตว์ หรือเทวดา
ได้เกิดเป็นมนุษย์ สุดปราถนา
 เกิดมา สร้างบารมีได้
สาม ได้ประเทศสมบัติ
เกิดในแหล่งไม่ขาด พุทธศาสนา
สี่ ได้ตระกูลสมบัติ มีศรัทธา
ห้า ได้อุปธิสมบัติ มีความสามารถ มีความรู้
หก ได้ทิฏฐิสมบัติ เป็นสัมมา
ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
โชคประเสริฐ หกอย่างนี้
ใครเกิดมี นี้คือมนุษเทโว

;;;;;;;;;;