แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พุทธศาสนา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พุทธศาสนา แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2565

พุทธศาสนา (วิชาชีวิต) โทษคนอื่นเที่ยวกระจาย คล้ายโปรยแกลบ แต่โทษของตน สุดแสบ ปิดบังไว้ เหมือนพรานนกเจ้าเล่ห์ ตัวร้าย แฝงตัวบังกิ่งไม้ เหมือนไร้วี่แวว

 พุทธศาสนา
(วิชาชีวิต)


โทษคนอื่นเที่ยวกระจาย คล้ายโปรยแกลบ
แต่โทษของตน สุดแสบ ปิดบังไว้
 เหมือนพรานนกเจ้าเล่ห์ ตัวร้าย
แฝงตัวบังกิ่งไม้ เหมือนไร้วี่แวว

บัณฑิต ตามรักษาจิต ไม่คิดร้ายพูดร้าย
ด้วยรู้ว่า เป็นภัยใหญ่ ทำลายตน
ดับบุญวาสนา กรรมกิเลสไหลมา ท่วมท้น
เป็นคน ตามรักษาตน คนบัณฑิต

บัณฑิต คือผู้ดำเนินชีวิต ด้วยปัญญา
ตรงข้ามกับพาลา คนพาล
คิดพูดทำ อย่างขาดสติ ปัญญาสั้น
ใครเดือดร้อนช่างมัน ข้าไม่สน

ได้นินทา ได้ด่าว่า สุขอุราล้น
สติแตก ทำลายตน คือคนบ้า
ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปุถุชน คนธรรมดา
มีกิเลสหนา ปัญญาอ่อน

ปุถุชน รูปร่างเป็นคน แต่ใจไม่เจริญ
หากินเพลิน ไม่ต่างอะไร กับไก่กา
กินนอนถ่ายสืบพันธุ์ ที่เกิดมา
ไร้ศรัทธา เพลินโลกียะ พญามาร

ปุถุชนทั้งหลาย ไม่ต่างอะไร กับหมู่เนื้อ
ถูกหมู่เสือ ไล่ต้อน เป็นอาหาร
หมู่มาร ต้อนปุถุชน สู่นรกโลกันต์
สุดทรมาน ทุกอนันต์ อจินไตย

บัณฑิตไม่เพ่งโทษ อดไว้ได้
ด้วยใจ..เป็นสุข มีเมตตา
คอยจับดี ให้กำลังใจ มีกรุณา
นี่หละพุทธศาสนา วิชาชีวิต

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2565

ไม่รู้คุณศาสนา (มหาภัย) การมีกินมีใช้ ในปัจจุบัน สุขสบายอยู่นั้น มันเป็นผลบุญในอดีต ผู้ประมาท ยังมีบุญ หนุนชีวิต หมดบุญก็หมดสิทธิ์ ล้มทั้งยืน

 ไม่รู้คุณศาสนา
(มหาภัย)

การมีกินมีใช้ ในปัจจุบัน
สุขสบายอยู่นั้น มันเป็นผลบุญในอดีต
ผู้ประมาท ยังมีบุญ หนุนชีวิต
หมดบุญก็หมดสิทธิ์ ล้มทั้งยืน

บุญนั้นหมดได้ ใช้ไปๆก็หมด
เมื่อน้ำลด ตอผุด ปัญหาจะมา
ชีวิตเหมือนพายเรือข้าม นั่นหละ
การแสวงบุญญา จะต้องสม่ำเสมอ

กิเลสตัณหา ใช้อวิชชา มาปิดบัง
สรรพสัตว์ หลงคลั่ง กามคุณ
รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส กระตุ้น
จึงหัวหมุน เร่งลุ้นหาเงิน

ปัญหาใหญ่ ไม่รู้ว่าตนไม่รู้
กลายเป็นผู้..หัวแข็ง ด้วยแรงมานะทิฏฐิ
ทั้งกระด้าง ทั้งอวดดื้อ ถือดี
และคนเหล่านี้ ตัวดี คือหมู่ญาติมิตร

พุทธศาสนา เปรียบว่าเป็น เช่นตะวัน
ฉายแสงเฉิดฉัน ไม่แบ่งชั้นวรรณะ
ให้ความอบอุ่น แด่สรรพสัตว์ ทั่วหล้า
ให้มีชีวิตชีวา ท้่วหน้ากัน

ใครไม่รู้คุณศาสนา ก็จะเอาแต่หากิน
สติสิ้น ปัญญาดับ เหมือนกับแมงเม่า
หลงแสงสี หลงโลกีย์ มัวเมา
ลืมชีวีของเจ้า ลืมตัวเก่า ลืมแสวงบุญ

ตายแล้วไปอบาย จะไม่ได้เห็นตะวัน
เป็นโทษทัณฑ์ ทุกข์อนันต์ นับกาลไม่ได้
เมื่อได้โอกาศ เกิดเป็นมนุษย์ใหม่
ทุกข์หลาย จะเกิดในถิ่นร้าย ที่ไม่เจริญ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2564

มหาวิบัติ (ถ้าหากขาดศรัทธา) วิบัติใดใด ใหญ่ไม่เท่า ไร้ศรัทธา เกิดนอกพุทธศาสนา ไร้สัมมาทิฎฐิ ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักแสวงบุญ สร้างบารมี เกิดมานี้ สูญเปล่า ตายเปล่าดาย

มหาวิบัติ
(ถ้าหากขาดศรัทธา)

วิบัติใดใด ใหญ่ไม่เท่า ไร้ศรัทธา
เกิดนอกพุทธศาสนา ไร้สัมมาทิฎฐิ
ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักแสวงบุญ สร้างบารมี
 เกิดมานี้ สูญเปล่า ตายเปล่าดาย
หลังตายทุกข์หลาย มากมายเกินพรรณา
เสียน้ำตา มากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้งสี่
สรรพสัตว์ ยังเล่นเพลิน ไม่รู้ไม่ชี้
เหมือนเป็ดไก่ ที่ไม่คิดหนี ออกจากกรง
 สูเจ้า กินบุญเก่า อุตลุด
ไม่หยุดทำบาป ก่อเวร เดนนรก
 อนันตกาล วัฏฏสงสาร เวียนว่าย เพิ่งขึ้นมาหยกๆ
สู่อบาย ลงนรก เหมือนเดิม
โชคดีแท้ๆ แม้ ไม่รวยทรัพย์
ไม่เท่ากับ รวยอ
ริยทรัพย์ ศรัทธา
แม้มีทรัพย์สมบัติ กองท่วมฟ้า
ก็แพ้ศรัทธา อริยทรัพย์
มีจิตศรัทธา รู้จักสร้างบารมี สุดสุด
ไม่คิด ไม่พูด ไม่ทำ กรรมชั่ว
มีขันติอดทน พ้นโลกีย์ ที่มืดมัว
ได้เข้าวัด ปฏิบัติตัว ตามธรรม
 มีจิตเมตตา ไม่ว่าเป็นศัตรู
ชนทุกหมู่ ล้วนเครือญาติ ร่วมชาติกันมา
สงเคราะห์ญาติ ไม่ขาด เลยหนา
ได้แสวงบุญสร้างบารมี จนกว่า สุดธรรม
จะเกิดในพุทธศาสน์ ต้องมีโอกาส พบกัลยาณมิตร
แล้วมีบุญสะกิด ทำให้คิดได้
จึงปลงใจ ละเลิกสิ่งเลวร้าย ทั้งหลาย
กัลยาณมิตรจึงยิ่งใหญ่ เป็นหัวใจ ไขชีวิต
  พระพุทธองค์ ทรงเป็น ยอดกัลยาณมิตร
อานุภาพเกินคิด ปราบมิจฉาทิฏฐิ
ได้เกิดร่วมชาติ ยากหลาย สุดโชคดี
เพียงได้เกิดในพระศาสน์นี้ ก็ดีสุดสุด

 ;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พึ่งพาตน (คือคนพึ่งพระรัตนตรัย) :: พุทธศาสนา สอนให้พึ่งพาตน แต่แปลกล้น คนพึ่งพา พระรัตนตรัย ดูสับสน แต่ว่า นี่ล่ะใช่ อย่าสงสัย พระรัตนตรัย ก็คือตน

พึ่งพาตน
(คือคนพึ่งพระรัตนตรัย)
พุทธศาสนา สอนให้พึ่งพาตน
แต่แปลกล้น คนพึ่งพา พระรัตนตรัย
ดูสับสน แต่ว่า นี่ล่ะใช่
อย่าสงสัย พระรัตนตรัย ก็คือตน
เป็นธรรมกาย กายธรรมมหาบุรุษ
กายในสุด บริสุทธิ์จากกิเลส
เป็นอมตะ พึ่งพาตนเองเสร็จ
สุขสำเร็จ อยู่ในตัว
เข้าไปถึง จึงรู้ว่าใช่
ไม่สงสัย ทำไมเราอยู่ตรงนี้
พูดไม่ได้ แต่มันเข้าใจ เต็มที่
ก็ด้วยอย่างนี้ ที่เรียกว่า อจินไตย
ตนหรือเรา คนเข้าใจว่ากายหยาบนี้
แต่เมื่อตายเป็นผี กายนี้ถูกเผา
ผีก็คือเรา
ดังนั้น ไม่ใช่กายเน่าๆ นี้แน่
ยังมีกายซ้อนกาย ล้วนใช่กายของตน
แต่ไม่ใช่ตน ด้วยยังปนกิเลส
ธรรมกายจึงใช่ตนแท้ ไม่เท็จ
หมดจรดจากกิเลส เป็นเอกเทศ อย่างแท้จริง
ใจมีศรัทธา ได้ชื่อว่า มีอริยทรัพย์
เท่ากับ รับว่า ใจคือตนมีที่พึ่ง
มีสมบัติสาม ติดตาม ประหนึ่ง
เป็นที่พึ่งรับใช้ ไปทุกชาติ
รักตนให้ทนฝึกใจ มีนิสัยดี
อย่าปล่อยให้หนี ทางสายกลาง
ทานศีลภาวนา ชีวาตั้ง
สุขสมหวัง ทุกประการ
มีศรัทธา จึงสร้างบารมีได้
บารมีนั้นไซร้ ใช่ คือสะเบียงเดินทาง
เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว ที่ไม่มีห่าง
ดุจดั่งมารดาบิดา รักษา บุตร
เมื่อมีบารมีเพิ่ม มิติเดิม เปลี่ยนไป
รู้สึกได้ ไม่เหมือนเดิม
กายภายนอก ดูหลอกๆ ของเพิ่ม
ได้เริ่ม รักร่าง อย่าง ผู้ให้คุณ 
รู้สึกเป็น เช่น เสื้อผ้า
ไม่สำคัญ ว่า เป็นตัวตน 
อยู่ภายใน สุขใจ ล้น
กายตนไซร้ อยู่ภายใน นี่เอง 
กายที่สิบแปด ธรรมกาย ใส
พระรัตนตรัยในตัว 
เมื่อเข้าถึง จึงรู้สึก เป็นตัวของตัว
รู้สึกตัว ว่าใช่ อจินไตยจริงๆ 

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

สมบัติมีพิษมาก (หากไม่รู้จักใช้) :: ทรัพย์มีพิษมาก หาก ไม่รู้จักใช้ เหมือนงูพิษร้าย โอบกอดไว้ อันตราย

มบัติมีพิษมาก
(หากไม่รู้จักใช้)

ทรัพย์มีพิษมาก
หาก ไม่รู้จักใช้
เหมือนงูพิษร้าย
โอบกอดไว้ อันตราย
คนจนชาตินี้
คือคนขี้เหนียวในอดีต
ผิดศีลอทินนา หาทรัพย์มาผิด
ก่อการทุจริต ผิดศีลธรรม
มีสมบัติ ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
มุ่ง ประโยชน์ตนและท่าน
มีกัลยาณมิตรคู่กาย สำคัญ
ศรัทธามั่น พาเดินไป ในเส้นทางบุญ
มิฉนั้น อันตรายใหญ่หลวง
เป็นบ้าป่วง ด้วยตัณหา หน้ามืด
ทุกข์ทั้งหลาย โถมใส่ อึดทึด
มีชีวิตมืด มนอนธการ
มีเท่าใด ก็ไม่รู้จักพอ
ตัณหานี่หนอ พอไม่เป็น
ทรัพย์ที่ได้มา เป็นของร้อน ไม่นอนเย็น
ต้องหยุดอยากเป็น ทรัพย์เย็นจึงจะมา
ทรัพย์สมบัติ แน่ชัด คือดอกผล
ที่มีต้น คือบุญ
สะสมบุญเข้าไว้ ได้ทรัพย์ ไม่ต้องลุ้น
เหมือนปลูกขนุน แน่ไซร้ ได้กินผล
จงเชื่อพระพุทธเจ้า เราจึงเจริญ
อย่าประมาท หลงเดิน เพลินทางโลก
ลาภยศสรรเสริญสุข ของลามก
ของโลกๆ เป็นของร้อน
 กิเลสตัณหา สร้างภาวะเลวร้าย
เป็นภัย ต่อสรรพสัตว์
ไม่ปล่อยให้มารกิเลสรุกฆาต
 พระโพธิสัตว์ จึงต้องมา
ผู้ที่รักตนแท้ ได้แก่คนใจกว้าง
สุขใจจัง เหมือนดังขึ้นสวรรค์
จึงเข้าวัด แสวงบุญ ทำทาน
เป็นเศรษฐีมหาศาล ทุกภพชาติ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562

ประเทศไทย (ไม่ใช่เจ้าของพุทธศาสนา):: พระพุทธศาสนา สอนให้ละ ความสุขทางโลก ซึ่งเป็นที่มา ของบรรดาทุกข์โศก โลกทั้งผอง จะได้เป็นพี่น้องกัน

ประเทศไทย
(ไม่ใช่เจ้าของพุทธศาสนา)
พระพุทธศาสนา
สอนให้ละ ความสุขทางโลก
ซึ่งเป็นที่มา ของบรรดาทุกข์โศก
โลกทั้งผอง จะได้เป็นพี่น้องกัน
สุขภายใน ยิ่งใหญ่กว่านัก
ไม่อาจจัก ประมาณได้
เข้าถึงได้ง่ายๆ คล้ายเส้นผมบังไว้
อันคนทั่วไป คิดไม่ถึง
มีสุขภายในได้ เพียงใช้สติ
คือเอาความรู้สึกที่มี ไว้ในตัว
นุ่มๆนิ่งๆ ประคองไว้ ในความมืดมัว
ความมืดสลัว ค่อยๆหาย สุขใจแทนที่
สุขที่สุด เมือใจหยุดนิ่ง
สุขที่ไม่อิง สิ่งภายนอก
สุขชื่นฉ่ำ อิ่มหนำ ไม่อาจบอก
สุขภายนอก สุขหลอกๆ ปานหิงห้อย
สุขภายใน
ยิ่งไหญ่ เทียบพระอาทิตย์
เป็นสุขสันโดษ สุดปราโมทย์ และมีฤทธิ์
มีอานุภาพ ตามติด ความคิดเรา
สุขภายใน ใช่ ทางสายกลาง
ทาง หนีภัย ในวัฏฏะ
เป็นทางเอก อริยะ
 เป็นทาง มุ่งไปหา พระรัตนตรัย
พุทธศาสนา แสวงหา ผู้มีธุรีน้อย
เหมือนรอคอย ให้ไปหา
ได้ฟังธรรมเพียงนิด ก็สะกิดศรัทธา
พุทธศาสนา จึงแผ่ไป ในทุกที่
อีกอย่าง สรรพสัตว์ทั้งหลาย
ล้วนใช่พี่น้องกัน
ล้วนมีสายสัมพันธ์
กันมาในอดีต
สงเคราะห์ญาติ
สงเคราะห์สรรพสัตว์ พุทธศาสนา
จึงออกเผยแผ่ ทั่วโลกา
รวมทั้งเทวดา ชั้นฟ้าด้วย

;;;;;;;;;;