สัตบุรุษ
(พูดด้วยจิตเมตตา)
;;;;;;;;;;
สัตบุรุษ
(พูดด้วยจิตเมตตา)
;;;;;;;;;;
วาจาสุภาษิต
(มีฤทธิ์ ให้สุขทุกคน)
;;;;;;;;;;
ผู้มีปัญญา
(เมื่อสนทนาก็รู้ได้)
ผู้มีปัญญา พูดวาจาสุภาษิต
พูดแล้วได้มิตร ได้ศรัทธา
จึงเป็นที่รักใคร่ บูชา
นำพา แสวงบุญญาสร้างบารมี
ผู้มีปัญญา จะน้ำนิ่ง ไหลลึก
พูดออกจาก ความรู้สึก ที่เมตตา
ผู้ฟัง จังงัง มิกล้า
มีความรู้สึกว่า ต้องรักษามารยาท
ผู้มีปัญญา พูดวาจา สมานสามัคคี
มีวจี ไพเราะ เสนาะหู
มีกำลังใจ มีความรักใคร่ ทุกผู้
เป็นนักสู้ พาหมู่คณะ พ้นภัยมาร
ผู้มีปัญญา มีวาจา นอบน้อม
อดออม ถนอมมารยาท
ไม่ว่าใครๆ ไม่ก้าวล่วงเด็ดขาด
มีความองอาจ ทั้งอ่อนน้อม พร้อมเพียง
ผู้มีปัญญา จะมีความอดทนอดกลั้น
ไม่มุทะลุดุดัน เกลี้ยวกลาด
มีสติสัมปชัญญะ รักษามารยาท
ศัตรูขยาด ไม่อาจล่วงเกิน
ผู้มีปัญญา ศรัทธาในพระรัตนตรัย
อย่างอื่นไม่ใช่ เป็นมิจฉา
จะพ้นจากทุกข์ ทางสายกลางเท่านั้นหละ
ผ่านศูนย์กลางกายา เป็นสำคัญ
;;;;;;;;;;
ปลาหมอ
(ตายเพราะปาก)
วาจาออกจากใจ ระวังไว้ คำพูด
มีสติ ตริตรองให้ดีสุด ก่อนพูดออกไป
การเจริญสติ จึงเป็นหัวใจ
ตัดอารมณ์ให้ได้ พูดด้วยใจเมตตา
ความเป็นผู้สะอาด พึงทราบด้วยถ้อยคำ สำนวน
พูดไม่ม่วน ขาดเมตตา
ฟังแล้วร้อนใจ ฟังไม่ได้เลยหนา
ด้วยหลงพูดจา ปราศจากสติ
คนขี้โกรธนั้น ทุกคนทราบ มีวาจาหยาบคาย
ทำบุญแม้มากมาย แต่บุญเหมือนไม่มี
เที่ยวโทษ เที่ยวตำหนิ คนนั้นคนนี้
เป็นวจี เหมือนมีไฟ เผาไหม้ผู้คน
คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมทำตัวให้เดือดร้อน
บั่นทอน กำลังใจ ทั้งตนและคนอื่น
อุปสรรคปัญหา ย่อมไหลมา ดาดดื่น
ผิวหยาบกร้าน เหม็นหืน ผื่นคัน
คนพูดไม่จริง โกหก ลงนรกแน่นอน
เป็นคำสอน พระศาสดา พระพุทธเจ้า
ผิดศีลข้อสี่ การผิดศีลนี้ ไม่เบา
ทำให้ใจของเรา มืดดับ เท่ากับนรก
ดีล้นเปล่งวาจาให้ไพเราะ เหมาะสม เป็นประโยชน์
ดีกว่าทั้งหมด คือวาจาสุภาษิต
ฟังแล้วชื่นใจ ปีติใจ และได้คิด
ทำผู้หลงผิด กลับใจได้ ฝักใฝ่ธรรม
ในกาลไหนๆ ควรเปล่งวาจา ที่น่าพอใจเท่านั้น
การพูดชั่วนั้น มันมัน สนุกปาก
ใจคิดอย่างไร ก็พูดได้อย่างนั้น เร็วนัก
ปลาหมอตายเพราะปาก ด้วยประมาทขาดสติ
;;;;;;;;;;