แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วาจาสุภาษิต แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วาจาสุภาษิต แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

สัตบุรุษ (พูดด้วยจิตเมตตา) พูดเป็นธรรม สัตบุรุษ จากแหล่งบริสุทธิ์ ในกาย มีอานุภาพ ดูดใจคนได้ ปีติใจ จึงเลื่อมใส ศรัทธา

 สัตบุรุษ
(พูดด้วยจิตเมตตา)

 พูดเป็นธรรม สัตบุรุษ
จากแหล่งบริสุทธิ์ ในกาย
มีอานุภาพ ดูดใจคนได้
ปีติใจ จึงเลื่อมใส ศรัทธา
 วาจาสุภาษิต จากจิตเมตตา
รู้กาละ รู้ว่าควรไม่ควร
พูดด้วยใจใส ไม่รีบด่วน
พูดพอควร ไม่มากไม่น้อย
พูด เพื่อประโยชน์ท่าน
ด้วยคำหวาน ปราถนาให้สุข
ไม่ปล่อยอารมณ์ส่วนตัว ที่ทุกข์
พูดหวังปลูก..คุณธรรม ประจำใจ
 สรรพสัตว์ อ่อนหัด ไม่รู้ธรรม
ชีวิตมีบุญค้ำ นำสุขสำเร็จ
หลงภาพลวงตา วิบาก ไม่เข็ด
น้ำตาเช็ด หลงเหยื่อเบ็ดมาร
ทำชั่วก็ได้ทรัพย์ เป็นกับดัก
เป็นภาพลวงตาชัดๆ ห้ามิติ
โลกเป็นเช่น เล่นละคร ชีวี
หรือเหมือนฝัน ในคืนที่ หลับสนิท
ก่อนตายนั่นหละ ได้สติ
รู้ดี แต่มิอาจทำอะไรได้
ต้องรับกรรม ในอบาย
เกิดใหม่ ก็ลืมหมด เหมือนสดซิงๆ
สัตบุรุษ คนดีสุด กัลยาณมิตร
พูดเป็นธรรม จากจิต..เมตตา
 อดทน บ่มตน บารมีกล้า
ปราบพาลา หมู่มาร ที่หาญผยอง

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2566

วาจาสุภาษิต (มีฤทธิ์ ให้สุขทุกคน) คำไพเราะ ที่มีประโยชน์ ทุกข์ปลด ให้ตนและคนอื่นได้ มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยใจ หยุดในที่ไสว ภายในตน

 วาจาสุภาษิต
(มีฤทธิ์ ให้สุขทุกคน)

 คำไพเราะ ที่มีประโยชน์
ทุกข์ปลด ให้ตนและคนอื่นได้
 มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยใจ
หยุดในที่ไสว ภายในตน

 กล่าววาจา พาตนไม่เดือดร้อน
ตั้งสติให้ดีก่อน ไม่รีบร้อนพูด
 วาจาสุภาษิต ดีสุด
 ตั้งสติพูด ด้วยจิตเมตตา
กล่าวแต่วาจา ที่น่าพอใจ
อย่าให้ใคร ระคายเคืองเป็นดี
ดังนั้น สำคัญต้องมีสติ
อย่าเอ่ยวจี ตามอารมณ์
ในกาลไหนๆ ก็ไม่ควรกล่าว
วาจาที่เขา ไม่พอใจ
ถึงแม้ด้วยความหวังดี ก็พูดไม่ได้
เดี๋ยวจะกลาย เป็นการอวดรู้อวดดี
 วาจาที่แม้ดี แต่ไม่เกินการ
การพูดนาน มันน่าเบื่อ
แม้อาหารอร่อย แต่ก็เหลือ
กลายเป็นเบื่อ อิ่มไปอีกนาน
ไม่ควรเปล่งวาจา ที่ชั่วเลย
วาจาที่เอ่ย แล้วได้บาป
ทั้งตนและคนฟัง สติดับ
คำไม่จริง คำหยาบ..เป็นต้น
เปล่งวาจา ไม่นำ ความดือดร้อน
แน่นอน คือวาจาสุภาษิต
 ถูกกาล มีเมตตา จึงมีฤทธิ์
เกิดบุญศักดิ์สิทธิ์ ให้สุขทุกคน

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ผู้มีปัญญา (เมื่อสนทนาก็รู้ได้) ความมีปัญญา เมื่อสนทนา ก็จะรู้ได้ คนปัญญาใส เคารพในปฏิสันถาร ไม่ใส่อารมณ์ คนนิยมเข้าใกล้ฟังท่าน เกิดความคิดสร้างสรร มีกำลังใจ

 ผู้มีปัญญา
(เมื่อสนทนาก็รู้ได้)


ความมีปัญญา เมื่อสนทนา ก็จะรู้ได้ 
คนปัญญาใส เคารพในปฏิสันถาร
ไม่ใส่อารมณ์ คนนิยมเข้าใกล้ฟังท่าน
เกิดความคิดสร้างสรร มีกำลังใจ

ผู้มีปัญญา พูดวาจาสุภาษิต
พูดแล้วได้มิตร ได้ศรัทธา
จึงเป็นที่รักใคร่ บูชา
นำพา แสวงบุญญาสร้างบารมี

ผู้มีปัญญา จะน้ำนิ่ง ไหลลึก
พูดออกจาก ความรู้สึก ที่เมตตา
ผู้ฟัง จังงัง มิกล้า
มีความรู้สึกว่า ต้องรักษามารยาท

ผู้มีปัญญา พูดวาจา สมานสามัคคี
มีวจี ไพเราะ เสนาะหู
มีกำลังใจ มีความรักใคร่ ทุกผู้
เป็นนักสู้ พาหมู่คณะ พ้นภัยมาร

ผู้มีปัญญา มีวาจา นอบน้อม
อดออม ถนอมมารยาท
ไม่ว่าใครๆ ไม่ก้าวล่วงเด็ดขาด
มีความองอาจ ทั้งอ่อนน้อม พร้อมเพียง

ผู้มีปัญญา จะมีความอดทนอดกลั้น
ไม่มุทะลุดุดัน เกลี้ยวกลาด
มีสติสัมปชัญญะ รักษามารยาท
ศัตรูขยาด ไม่อาจล่วงเกิน

ผู้มีปัญญา ศรัทธาในพระรัตนตรัย
อย่างอื่นไม่ใช่ เป็นมิจฉา
จะพ้นจากทุกข์ ทางสายกลางเท่านั้นหละ
ผ่านศูนย์กลางกายา เป็นสำคัญ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

พูดเจาะใจได้ (ใช่ วาจาสุภาษิต) คนฉลาดมีปัญญา แกล้งทำเป็นว่า โง่ ไม่อยากโชว์ ความฉลาด ไม่บังอาจ สอนใคร พิจารณาให้ดี ก่อนเอ่ยวจี ออกไป มิฉนั้นจะกลาย เป็นอวดรู้ อวดฉลาด

พูดเจาะใจได้
(ใช่ วาจาสุภาษิต)


คนฉลาดมีปัญญา แกล้งทำเป็นว่า โง่
ไม่อยากโชว์  ความฉลาด ไม่บังอาจ สอนใคร
พิจารณาให้ดี ก่อนเอ่ยวจี ออกไป
มิฉนั้นจะกลาย เป็นอวดรู้ อวดฉลาด

วาจาสุภาษิต พูดแล้วคนติด ใจ
ปากมีไว้ ใช้พูด วาจา สุภาษิต
ปากมีประโยชน์มาก ถ้ารู้จัก คิด
หยุดสักนิด คิดแล้ว ค่อยพูด
 

ฟังเก่ง ด้วยเกรงใจ จึงให้ ความเคารพ
ใจน้อมนบ นุ่มนวล พูดสิ่งที่ควร ออกไป
สำคัญยิ่ง คนใหญ่จริง รู้จักเกรงใจ 
ลูกน้องรักใคร่ ให้ความรัก ความนับถือ

พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง
เป็นภาษิตของ คนโบราณ นานมาแล้ว
สอนให้นิ่ง ดียิ่งกว่า พูดแจ้วๆ
คนเขาเบื่อเป็นแถว ฟังแล้ว ไม่สะบาย

ท่านรู้หรือไม่ สอนคนได้ โดยไม่ต้องพูด
นั่งนิ่งๆดีสุด สงบสง่า ก็น่าเลื่อมใส
ถึงเวลาอันควร ค่อยพูดนุ่มนวล ออกไป
ศรัทธาจะเกิดได้ ใจต้องใส พูดเจาะใจคน

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ปลาหมอ (ตายเพราะปาก) วาจานั้น เป็นเช่นเดียวกันกับใจ เป็นหน้าต่างก็ใช่ ของใจนั่นเอง ปากกับใจตรงกันนั้น มันเสงเครง ขวานผ่าซากนั่นเอง ไม่เกรงใจใคร

 ปลาหมอ
(ตายเพราะปาก)


วาจานั้น เป็นเช่นเดียวกันกับใจ
เป็นหน้าต่างก็ใช่ ของใจนั่นเอง
ปากกับใจตรงกันนั้น มันอาจเสงเครง
ขวานผ่าซากนั่นเอง ไม่เกรงใจใคร

วาจาออกจากใจ ระวังไว้ คำพูด
มีสติ ตริตรองให้ดีสุด ก่อนพูดออกไป
การเจริญสติ จึงเป็นหัวใจ
ตัดอารมณ์ให้ได้ พูดด้วยใจเมตตา

ความเป็นผู้สะอาด พึงทราบด้วยถ้อยคำ สำนวน
พูดไม่ม่วน ขาดเมตตา
ฟังแล้วร้อนใจ ฟังไม่ได้เลยหนา
ด้วยหลงพูดจา ปราศจากสติ

คนขี้โกรธนั้น ทุกคนทราบ มีวาจาหยาบคาย
ทำบุญแม้มากมาย แต่บุญเหมือนไม่มี
เที่ยวโทษ เที่ยวตำหนิ คนนั้นคนนี้
เป็นวจี เหมือนมีไฟ เผาไหม้ผู้คน

 คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมทำตัวให้เดือดร้อน
บั่นทอน กำลังใจ ทั้งตนและคนอื่น
อุปสรรคปัญหา ย่อมไหลมา ดาดดื่น
ผิวหยาบกร้าน เหม็นหืน ผื่นคัน

คนพูดไม่จริง โกหก ลงนรกแน่นอน
เป็นคำสอน พระศาสดา พระพุทธเจ้า
ผิดศีลข้อสี่ การผิดศีลนี้ ไม่เบา
ทำให้ใจของเรา มืดดับ เท่ากับนรก

ดีล้นเปล่งวาจาให้ไพเราะ เหมาะสม เป็นประโยชน์
ดีกว่าทั้งหมด คือวาจาสุภาษิต
ฟังแล้วชื่นใจ ปีติใจ และได้คิด
ทำผู้หลงผิด กลับใจได้ ฝักใฝ่ธรรม

ในกาลไหนๆ ควรเปล่งวาจา ที่น่าพอใจเท่านั้น
การพูดชั่วนั้น มันมัน สนุกปาก
ใจคิดอย่างไร ก็พูดได้อย่างนั้น เร็วนัก
ปลาหมอตายเพราะปาก ด้วยประมาทขาดสติ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ผู้ประเสริฐสุด (ยิ่งกว่ามนุษย์และเทวา):: ทันโต เสฐโฐ มนุสเสสุ มนุษย์ผู้ฝึกตน คนประเสริฐสุด เป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ เหนือเทวดา เป็นผู้ชนะโลก ชนะธรรมชาติ ชนะฟ้า ปล่อยวางกิเลสะ อันคนและเทวดา ทำไม่ได้

ผู้ประเสริฐสุด
(ยิ่งกว่ามนุษย์และเทวา)

ทันโต เสฐโฐ มนุสเสสุ
มนุษย์ผู้ฝึกตน คนประเสริฐสุด
เป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ เหนือเทวดา
เป็นผู้ชนะโลก ชนะธรรมชาติ ชนะฟ้า
ปล่อยวางกิเลสะ อันคนและเทวดา ทำไม่ได้
การฝึกตนนั้น คือการฝึกใจ
ฝึกให้ใจนิ่ง ใจใส ใจสว่าง
นั่นก็คือ ฝึกการเดินสายกลาง
ฝึกการละการวาง สิ่งภายนอก ด้วยทานศีลภาวนา
ใจมีกิเลส โลภโกรธหลง
ต้องปลดปลง ด้วย ทานศีลภาวนา
ใจจึงจะ นิ่งใสสว่างจ้า
เราเรียกว่า บรรลุธรรมาพิศมัย
กฎแห่งกรรม ทำอะไรไม่ได้
พ้นจากภัย ในวัฏฏสงสาร
สุขสมปราถนา ทุกประการ
พ้นภัยพาล หมู่มาร๕ฝูง
ยอดความสามารถ
(คนไม่คาด คือวาจาสุภาษิต)

วาจํ ปมุญเจ กุสลํ นาติเวลํ
ไม่ควรเปล่งวาจา ให้เกินกาลอันควร 
คำพูดที่แม้ดีล้วน แต่พูดนานเกินควร ก็ไม่ดี
เหมือนอาหารอร่อย ย่อยไม่ได้ ก็มี
ควรพูดแต่พอดี พอควร
มิฉนั้น มันจะกลาย เป็นเพ้อเจ้อน่าเบื่อหน่าย
น่าเสียดาย ความตั้งใจที่ดี
ต้องดูกาละเทศะ น๊า คนดี
แล้วเอ่ยวจี ถูกกาละเทศะนี้ คือวาจาสุภาษิต

วาจาสุภาษิต ที่น่าคิด เป็นยอดความสามารถ
สุดยอดความเก่งกาจ คือความสามารถในการพูด
มีวาจาสิทธิ์ สำเร็จกิจ ด้วยลิ้นนักฑูต
พูดดีสุด ให้คนมีศรัทธา มีกำลังใจ ใฝ่ทำดี
ปัญญานั้นเลิศนัก
(แต่คนส่วนมาก ไม่รักปัญญา)
พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนฺติ ยตฺถ ธีรา ปภาสเร
คนมีปัญญา แม้มีปัญหา ค้างคาอยู่
ก็จะเป็นผู้ รู้วิธีแก้ไขปัญหา
ปัญญาเป็นไฟส่องทาง เลิศล้ำค่า
มีแต่คนบ้า ที่กล้า ดับปัญญาตน

ท่านว่าปัญญานี้ ทนทาน ปานเหล็กกล้า
ยากนักหนา จะถูกทำลาย
แต่ก็มาแพ้ ที่ไม่น่าแพ้ ได้ง่ายๆ
คือแพ้สุราเมรัย อบายมุข และความสนุกสนาน

วาจาดีมีค่ายิ่งกว่าทอง
(ดังนั้น จงตรองก่อนพูด)
หทยสฺส สทิสี วาจา
วาจาเป็น เช่นเดียวกับใจ
คิดพูดออกไป เป็นกรรมใหญ่ทันที
คิดดีพูดดี ผูกใจประชาชี
ร้ายเหลือที่ คิดร้ายพูดร้าย

ที่ว่าภัยใหญ่ คือใจของเรา จะขุ่นข้นทันที
แล้วบาปอัปรี ก็วิ่งรี่เข้ามาเป็นสาย
เหนี่ยวนำปัญหา เภทภัย มากมาย
น่าเสียดาย เพราะความไม่รู้

อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
อย่าเปิดอ้าซ่า ไหลตามอารมณ์
ฝึกสติ ทุกอิริยาบถ เข้าข่ม
เข้าควบคุมอารมณ์ ถ้าทำได้ จะไม่ธรรมดา

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562

วาจาสุภาษิต (มีฤทธิ์ คนฟัง) :: วาจาสุภาษิต สกิดใจคนฟัง มีปีติประดัง คนฟัง ซึ้งใจ

วาจาสุภาษิต
(มีฤทธิ์ คนฟัง)

วาจาสุภาษิต
สกิดใจคนฟัง
มีปีติประดัง
คนฟัง ซึ้งใจ
เกิดความเคารพรัก
อยากเข้าไป ชิดใกล้
ปฏิบัติตาม คำไท้
เดินตามทางเส้นใหม่ ทางบุญ
วาจาสุภาษิต
มีฤทธิ์ เปลี่ยนชีวิตคน
เลิกนิสัยเก่า ที่เอาแต่ตน
กลายเป็นคน ใจดี อารีอารอบ
วาจาสุภาษิต มีองค์ประกอบ
หนึ่ง เป็นวาจาชอบ พูดแต่ความจริง
เสริมเติมปั้นแต่ง คลาดเคลื่อน เท็จทิ้ง
มีแต่ความจริง เท่านั้น
ปลามีชีวิตยืนยาวอยู่ได้ก็เพราะอาศัยปากเป็นสิ่งสำคัญ 
แต่ก็เพราะปากนั่นเอง  ปลาจึงต้องติดเบ็ดเสียชีวิตโดยง่าย
เช่นกัน วาจาสุภาษิตจากปาก
จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ
ได้รับความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ก็เพราะอาศัยวาจาสุภาษิตจากปาก
สอง เป็นวาจาสุภาพอ่อนหวาน
ไม่หยาบกร้าน หยาบโลน
หวานหู ของทุกผู้คน
ไม่พูดยกตน ข่มท่าน
สาม เป็นวาจาที่เกิดประโยชน์
ไม่ก่อโทษ ต่อตน และคนอื่น
สร้างสรร สามัคคี ชื่นมื่น
พูดให้ตื่นจากหลับ มีสติ
สี่ พูดด้วยจิตเมตตา
ไม่มี อิจฉาริษยา
มีสติสัมปชัญญะ
มีจิตปราถนาดี
ห้า พูดถูกกาละเทศะ
ถูกเวลาและสถานที่
เหมือนพระพุทธองค์ ทรงทำไว้ดี
ปราบองคุลีมารได้ โดยให้ไล่ตามก่อน
วาจาสุภาษิต พูดเป็นนิ่งเป็น
มีอารมณ์เย็น ไม่เป็นแต่พูด
สำคัญยิ่ง คือหยุด
ไม่พูด ถ้ารู้ว่าพูดไป ก็ไร้ประโยชน์
เป็นนักการฑูต คำพูดสำคัญยิ่ง
เหนือทุกสิ่ง คือจริงใจ
ไม่โกรธเกลียด แม้ไม่ถูกใจ
ระงับใจได้ รักษาไว้ วาจาสุภาษิต

;;;;;;;;;;