แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิบัติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิบัติ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

หาทรัพย์นับว่ายาก (แต่ไม่มากเท่าสละทรัพย์) แสวงหาทรัพย์ นับว่ายาก แต่ไม่มากเท่า สละทรัพย์ สละตระหนี่ ต้องมีศรัทธากำกับ จิตหยาบ สละทรัพย์ไม่ได้

หาทรัพย์นับว่ายาก
(แต่ไม่มากเท่าสละทรัพย์)

 แสวงหาทรัพย์ นับว่ายาก
แต่ไม่มากเท่า สละทรัพย์
สละตระหนี่ ต้องมีศรัทธากำกับ
 จิตหยาบ สละทรัพย์ไม่ได้
 ความตระหนี่ เหนียวหนึบ
หนืดเหนียว ติดแน่นอยู่ที่ใจ
สละสิ่งภายนอก ทำไม่ได้
ด้วยใจมิจฉา ไม่เห็นประโยชน์
ความตระหนี่ นี้แพ้ศรัทธา
มีบุญญา ขจัดตระหนี่ได้
เกิดความสุขความใส สบาย
มีกำลังใจ ได้ชีวิตใหม่ แสนสุข
ตระหนี่ ตัวการ ขวางกั้นทรัพย์
 เหมือนกับ พยับแดด ที่เห็นได้
แต่ก็ลอย ถอยห่าง เมื่อเข้าใกล้
คนตระหนี่ คล้ายอิ่ม เมื่อมีทรัพย์
คนตระหนี่ มีวิบัติ ไม่ใช่สมบัติ
เหมือนกันชัด กับน้ำเค็ม เต็มทะเล
ยิ่งดื่มยิ่งกระหาย จบเห่
น้ำเต็มทะเล ดื่มไม่ได้
ทรัพย์คนดีมีน้อย พลอยได้พึ่ง
เหมือนน้ำบึงน้ำบ่อ พออาศัย
ทรัพย์คนชั่วมากมี ตระหนี่ใน
ดื่มไม่ได้ เหมือนน้ำเค็มเต็มทะเล
 ใจมีอายตนะ ดึงดูดและส่ง
 สมบัติตรง ไปยังผู้ใจใสใจดี มีบุญ
ส่วนบาป กลับทำใจให้ขุ่น
ใจวายวุ่น ดูดวิบัติ ขจัดลาภ
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งไหลยิ่งมี
เหมือนมหานที ไหลไม่หยุด
ขจัดตระหนี่ อย่าให้ผุด
สุดชีวิต บำเพ็ญทาน การกุศล

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สมบัตินี้ (มีไว้ทาน) ชาวนาผู้ฉลาด จะคัดพันธุ์ข้าวเก็บไว้ ปีหน้าฟ้าใหม่ จะได้ปลูก ส่วนชาวนาผู้โง่เขลา เจ่าจุก ไม่เก็บพันธุ์ไว้ปลูก เอาข้าวไปขาย

สมบัตินี้
(มีไว้ทาน)


ชาวนาผู้ฉลาด จะคัดพันธุ์ข้าวเก็บไว้
ปีหน้าฟ้าใหม่ จะได้ปลูก
ส่วนชาวนาผู้โง่เขลา เจ่าจุก
ไม่เก็บพันธุ์ไว้ปลูก เอาข้าวไปขาย

ผู้มีทรัพย์ เหมือนกับชาวนา
ผู้มีปัญญา นำทรัพย์มา ทำบุญ
คนส่วนใหญ่ กินใช้ ลงทุน
ไม่รู้จักแสวงบุญ สร้างบารมี

เมื่อไม่ให้ ไม่ทาน คือท่านไม่ปลูก
สมบัติจะออกลูก เป็นวิบัติ
หน้าตาเหมือนกัน ชัด
แต่เป็นวิบัติ กัดเจ้าของ

เมื่อให้หรือทาน ผู้รับนั้น เหมือนกันกับนา
ผู้รับมีวาสนา เป็นนาที่ดี
ดังนั้น การให้การทานนั้น คิดให้ถ้วนถี่
เลือกนาที่ดี อุดมสมบูรณ์

ทำทานกับพระ นั่นหละ เนื้อนาบุญ
คนไม่คุ้น กับสงฆ์ สังฆทาน
เป็นเนื้อนายอดเยี่ยม ไม่มีใดเทียมทัน
การเข้าวัดทำสังฆทาน อุดมการณ์ชีวิต

การบำเพ็ญทาน อุดมการณ์ชีวิต
แสวงบุญสร้างบารมี สุดขีด ชีวิตมีน้อย
ได้ชื่อว่ามีปัญญา มีวาสนาคอย
มีสมบัติใช้สอย ไม่ขาด

มีสมบัติแล้วไม่ให้ ไม่ทาน
ความตระหนี่บาน อยู่ในใจ
เหมือนเหล็กมีสนิม กัดเหล็ก สลาย
ทุรนทุราย ไม่มีความสุข

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565

ซื่อกินไม่หมด (คดกินไม่นาน) ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่าคิดอ่าน ว่ามันเป็นได้อย่างไร คนซื่อ คือไม่ทรยศคดโกงใคร ส่วนคนจัญไร คนคด ทรยศหักหลัง

 ซื่อกินไม่หมด
(คดกินไม่นาน)


ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน
น่าคิดอ่าน ว่ามันเป็นได้อย่างไร
คนซื่อ คือไม่ทรยศคดโกงใคร
ส่วนคนจัญไร คนคด ทรยศหักหลัง

คนซื่อถือธรรม นำชีวิต
เดินตามทางสุจริต ที่ดีงาม
ทางบุญ กุศลธรรม
ต้องอดทนล้ำ รักษาธรรม ความดี

คนซื่อ มีน้ำใจ จึงไม่ใฝ่ต่ำ
มีน้ำใจงาม มีบุญค้ำ อุปถัมภ์ชีวิต
เป็นที่รักเคารพบูชา ชนทุกทิศ
มหาชนตามติด รักษา ดูแล

คนคด ทรยศ ไร้สัจจะ อกตัญญู
ผิดครู ผิดธรรมชาติ คุณธรรม
ผิดกฎเหล็ก กฎหลัก กฎแห่งกรรม
กรรมวิบาก กระหน่ำ ตายทั้งเป็น

สิ่งที่เรามีเราได้ เรากินเราใช้ ในปัจจุบัน
จงรู้กัน ว่ามันมาจากอดีตเก่าๆ
ไม่ใช่ผลจาก หนึ่งสมองสองมือเรา
เป็นภาพลวงตา น่าเศร้า คนเขลาไม่รู้

ซื่อกินไม่หมด แต่ต้องอดทน
เหมือนปลูกต้น..ผลไม้ ต้องรอหลายปี
ไม่นานเกินรอ อานุภาพบุญนั้นมี
เหมือนแม่ไก่กกไข่ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

บุญคล้ายพืชมีเมล็ด บุญเป็นเม็ดสมบัติ
คนดีทำดีไม่ขาด ปลูกสมบัติไว้มากล้น
เมื่อถึงขีดถึงคราว ก็ทะยอยส่งผล
คนซื่อรักบุญกุศล จึงกินไม่หมด

ส่วนคนคด ไม่อดทน รนหาที่
เป็นแมงเม่า หลงแสงสี ตายเปล่า
มือใครยาว สาวได้สาวเอา
มีเรื่องอื้อฉาว อยู่ไม่ได้ เมื่อ
หมดบุญ

คนคดทำบาป ได้บาปเม็ดวิบัติ
ปลูกแน่นขนัด ในอดีต
ก็ทะยอยส่งผล เมื่อถึงคราวถึงขีด
คนคด หน้าซีด เมื่อกรรมอดีตส่งผล

ทรัพย์สมบัติ เป็นวิบัติ กัดคนคด
มีสมบัติ ต้องประโยชน์สูง ประหยัดสุด
เป็นคนซื่อ ถือธรรม เป็นอาวุธ
ด้วยชีวิตมนุษย์ อยู่ภายใต้ กฎแห่งกรรม

 ;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตไม่อาจดูเบา (กรรมของเจ้า เหมือนเงาตามตัว) เพื่อกินอยู่ของตน คน จึงวุ่นวายหาทรัพย์ อย่างน้ำไหลไฟดับ ถึงกับทิ้งดี ยิ่งรวยก็ยิ่งอยากรวยใหญ่ ไม่สนใจศักดิ์ศรี ไม่คำนึงถึงชีวี ว่าเรานี้ เกิดมาทำอะไร

ชีวิตไม่อาจดูเบา
(กรรมของเจ้า เหมือนเงาตามตัว)
เพื่อกินอยู่ หมู่คนทั้งหลาย วุ่นวายหาทรัพย์
อย่างน้ำไหลไฟดับ ถึงกับทิ้งดี
ยิ่งรวยก็ยิ่งอยากรวยใหญ่ ไม่สนใจศักดิ์ศรี
  ไม่คำนึงถึงชีวี ว่าเรานี้ เกิดมาทำอะไร
คนไม่รู้ว่า บุญนั่นหละ นำทรัพย์มาให้
เป็นบุญวาสนา ทะยอยไหล ส่งให้ผล
เป็นความดี ที่เราทำไว้ ในกาลโพ้น
ได้ส่งผล เมื่อถึงขีดถึงคราว
 ทรัพย์ไม่ใช่สมบัติ เป็นวิบัติ ถ้าขาดดี
เป็นทรัพย์อัปปรี ที่ยิ่งกว่าเชื้อโรคร้าย
ตกนรกหมกไหม้ ทุกข์หลาย ยิ่งกว่าตาย
เมื่อกรรมเบาบางลงไป เกิดใหม่เป็นเปรต 
เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็สุดรำเค็ญ 
ช่างยากเข็ญ ข้นแค้น แสนสมเพท
 อดมื้อกินมื้อ มือถือกะลา จงสังเกต
เป็นกรรมกิเลส ตระหนี่ส่งผล ดลบันดาล
 ทั้งคนดี หรือคนชั่วช้า ล้วนหาเงินได้
ด้วยบุญวาสนาส่งให้ ของใครของท่าน
ส่วนการกระทำใดๆ ในปัจจุบัน
ขี้เกียจหรือขยัน ผลนั้นยังไม่ออก
คนชั่วได้ดี จึงมีถมไป
ดีหรือร้าย คนทั้งหลายสับสน
ทำดีไดัดี ทำชั่วได้ชั่ว จริงหรือ ชักกังวล
ความตระหนี่ ทำให้จน จริงหรือ
 คนกิเลสหนา หาทรัพย์ เลี้ยงชีวิต
สุดอำมหิต เบียดเบียนล้างผลาญ
เป็นมิจฉาทิฏฐิ อวดดี ดื้อรั้น
น่าสงสาร น่าเวทนา สรรพสัตว์
มิจฉาทิฏฐิ นี้ร้ายสุดสุด พระพุทธองค์ตรัส
อย่างแจ่มชัด ว่าไม่เห็นโทษอื่นใดเท่า
ต้นเหตุใหญ่ คือผัสสะ กับสิ่งภายนอกกายเรา
ด้วยอินทรีย์ห้า ตัวเก่า ของเราเอง
ดังนั้นจืงต้องสำรวม ตาหูจมูกลิ้น และกายสัมผัส
พูดให้ชัด มีสติสัมปชัญญะ อยู่ในกาย
แล้ว วิตกวิจาร หรือ ตรึกตรอง ประคองใจไว้
จำเป็นหลาย ถ้าใครอยากได้ สุขสมปราถนา
ความสุข กับสนุกสนาน คนละอย่าง
ไม่ใช่ดัง กินเหล้าเมามัน นั้น มันสนุก
เหมือนเกาตุ่มคัน มันดี คลายทุกข์ 
เป็นความสนุก ปนตัณหา พาฉิบหาย
สุจทางใจ เปรียบได้ คล้ายพระอาทิตย์
สุขทางเนื้อหนัง น้อยนิด ปานหิงห้อย
สุขทางใจ ทรัพย์ไหลมา ไม่ถอย
ไม่ใช่สุขลอยๆ ลมๆแล้งๆ 
 สุขทางใจ หรือทางธรรม มีน้ำใจ
เปี่ยมเมตตากรุณา แผ่ได้ ไปทั่วทิศ
เราก็สุข เขาก็สุข ทุกชีวิต
สามัคคี ร่วมจิต เป็นปึกแผ่น
สุขทางใจ เรียกได้ว่า สุขสันโดษ โทษไม่มี 
พอใจ ในสิ่งที่ ตนมีตนเป็น ตนควร
มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ดีล้วนๆ
อันเป็นขบวน ธรรม นำชัยชนะและสำเร็จ
คนธรรมดา ดิ้นรนหา ความพอใจ
แต่ไม่เคยได้ เหมือนไล่ ตามเงา
ได้มาแล้วคิดว่าใช่ แต่ได้ใหม่ ลืมเก่า
นี้คือเรา เหล่าคน กิเลสหนา
ตราบใด ถ้ายังไม่ รู้จักบุญ
ชีวิตจะสูญ..เปล่า น่าเศร้าใจ
ชีวิตมีแต่ทุกข์ เวียนว่ายไป
ไม่มีต้นปลาย น้ำตาไหล อนัตกาล
 
;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สมใจนึก (เพียงตรองตรึกอยู่ฐานที่เจ็ด) :: ใจเป็นธาตุสำเร็จ เพียงคิดก็เสร็จ สำเร็จแล้ว เหมือนมีแก้ว สารพัดนึก แต่ขอให้อยู่ฐานที่เจ็ด ตรองตรึก สำเร็จดังใจนึก ทุกประการ

สมใจนึก
(เพียงตรองตรึกอยู่ฐานที่เจ็ด)
ใจเป็นธาตุสำเร็จ เพียงคิดก็เสร็จ สำเร็จแล้ว
เหมือนมีแก้ว สารพัดนึก
แต่ขอให้อยู่ฐานที่เจ็ด ตรองตรึก
สำเร็จดังใจนึก ทุกประการ
 จึงต้องฝึกใจ ให้นิ่งใสสว่าง 
เข้าสู่ทาง สายกลาง ทานศีลภาวนา
ยิ่งฝึกยิ่งใกล้ ฐานที่เจ็ดเข้าไป ความสำเร็จยิ่งมา
นี่แหละหนา คือวิชาชีวิต
คนขยัน หมั่นเพียรนักหนา ทำมาหาเงิน
ทำกันเพลิน หาเงินเลี้ยงชีพตัวเก่า
ไม่รู้หรอก ที่ได้มานั้น มันมาจาก บุญของเรา
ไม่มีบุญเก่า..ที่เจ้าสั่งสมไว้  ไม่มีทาง
งานทุจริต ผิดศีลธรรม ก่อกรรมได้เงินมา
จงรู้ว่า นั่นหนะ ไม่ใช่เงินน่ะ ไม่ใช่สมบัติ
ใช้เลี้ยงชีวิตไม่ได้ มันเป็นวิบัติ
สรรพสัตว์ หลงวิบัติ น้ำตานอง
สมบัติแน่แท้ เกิดแต่ทานบารมี
สมบัตินี้ จะเกิดมีขึ้นเอง
ทุกภพชาติ สมบัติเกิดขึ้นรอรับ คนเก่ง
จะทำการงาน เงินนั้นมาเอง ง่ายๆ
คนใจมืด อึดอัดขาดบุญ ด้วยขาดศรัทธา
ความคิดชั่วช้า ประดังมา เป็นเสร็จ
มีอุปสรรคปัญหามากมาย เจ็บป่วยไข้ ไม่เข็ด
ด้วยไม่รู้จักเหตุ ที่มาที่ไป
แม้ใจสว่าง ถ้าไม่ตั้งมั่น ณ ฐานที่เจ็ด
น่าสังเกต ขาดความสุข ขาดเมตตา
ยังติดโลกธรรม ส่ำสัตว์ หลงกามา
มีปัญญา ฉลาดนักหนา แต่ว่ากะล่อน
ชาวโลกน้อยนัก จักรู้จักฐานที่เจ็ด
ของวิเศษ..พญามาร กันนักหนา
เหมือนปู่โสมเฝ้าทรัพย์ อย่างนั้นหละ
แต่ว่า พญามาร ไม่อาจจะกันหลวงปู่ฯ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2563

บำเพ็ญทานบารมี (คือเศรษฐีใจบุญ):: สันโดษสมถะ นั่นหละ หัวใจเศรษฐีใจบุญ ไม่หมกมุ่นโลกีย์ มีใจบุญสุนทาน อยู่ง่ายกินง่าย ไม่เกียจคร้าน สะอาดสะอ้าน ชอบเจือจาน และการสงเคราะห์

บำเพ็ญทานบารมี
(คือเศรษฐีใจบุญ)
สันโดษสมถะ นั่นหละ หัวใจเศรษฐีใจบุญ
ไม่หมกมุ่นโลกีย์ มีใจบุญสุนทาน
อยู่ง่ายกินง่าย ไม่เกียจคร้าน
สะอาดสะอ้าน ชอบเจือจาน และการสงเคราะห์
ชาวบ้านรักใคร่ อยู่ในใจมหาชน
ถือทุกคนเช่นญาติ ไม่ขาดการดูแล
ทุกผู้ทุกคน ทั้งสาวหนุ่ม คนแก่
ท่านเป็นเช่นพ่อแม่ ดูแลทุกคนเสมอ
ใจกว้างขวาง ดังแม่น้ำ
คืนวันยังค่ำ ไหลไม่ขาดสาย
หล่อเลี้ยงเทือกสวนไร่นา ชาวบ้านสะบาย
ท่านช่างดีเหลือใจ เศรษฐีใจบุญ
เศรษฐีใจบุญ ค้ำจุนพระศาสนา
ดุจดังนางวิสาขา และอนาถบิณฑิกะเศรษฐี
เป็นพุทธตำนาน เล่าขาน มานานเต็มที
เป็นคู่บุญบารมี ของพระพุทธองค์
สมบัติเป็นวิบัติ ถ้าไม่ใช้ขจัด ตระหนี่
สมบัติมีหรือไม่มี ไม่เป็นที่ สำคัญ 
 สมบัติมีหน้าที่ ขจัดตระหนี่ ตระหนักให้มั่น
ชีวิตจะพลิกผัน เป็นอัศจรรย์ เลย
ตระหนี่หลุด สุขสันโดษ เกิดขึ้น
สติตื่น เกิดเมตตา กรุณาหลาย
นี่แหละ หัวใจเศรษฐี ยิ่งใหญ่
ทานบารมีของไท้ บันดาลให้ สมบูรณ์ด้วยลาภ
ทางสายกลาง เป็นทาง แห่งการให้
ให้ทุกอย่างได้ ให้กระทั่งชีวา
สั่งสมบารมี สละชีวี กอบกู้ศาสนา
นี่หละหัวใจพระ โพธิสัตว์

;;;;;;;;;;