แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หญ้าปากคอก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หญ้าปากคอก แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

หาทรัพย์ได้ง่ายๆ (เพียงรักษาใจให้สันติ) ความหงุดหงิด งุ่นง่าน รำคาญใจ เป็นอารมณ์ร้าย ปัญหาน้อยใหญ่ จะตามมา โชควาสนาหนีหาย การงานทั้งหลาย ไม่สมอุรา ญาติมิตรหนีหน้า หน้าตาหมองคล้ำ

หาทรัพย์ได้ง่ายๆ
(เพียงรักษาใจให้สันติ)

ความหงุดหงิด งุ่นง่าน รำคาญใจ
เป็นอารมณ์ร้าย ปัญหาน้อยใหญ่ จะตามมา
โชควาสนาหนีหาย การงานทั้งหลาย ไม่สมอุรา
ญาติมิตรหนีหน้า หน้าตาหมองคล้ำ
ใจนิ่งใจใส ครูไม่ใหญ่ เน้นหนัก
ไม่ใช่เพียงสัก พอดีพอร้าย
สำคัญหลาย ปิดประตูอบายได้
มีโชคมีชัย สรรพเคราะห์อันตราย ไม่เบียดเบียน
คุณธรรมสติสัมปชัญญะ จึงมีอุปการะมาก
เหมือนบิดามารดานัก ห่วงหาลูก
คอยนำชัก ลูกรัก สู่ทางถูก
นำพาลูก สู่ทางแห่งความดี
ใจนิ่งใจใส กุญแจไขชีวิต
เกินความคิด ปุถุชน คนธรรมดา
เมื่อใจใส บุญวาสนา ไหลเข้ามา
ชีวิตแจ่มจ้า พลิกผัน อย่างอัศจรรย์ทีเดียว

คนทั่วไป ไม่รู้สา มัวแต่ทำมาหากิน
ปิดหูตาสิ้น ออกหากิน ตามๆกันไป
เหมือนกับ ไก่กา ม้าลาวัวควาย 
ออกจากคอกได้ รีบวิ่งออกไปหากิน
ไม่เคยเห็นหญ้าปากคอก แม้งอกงามหลาย
ไม่เคยดูแลใจ..ตน ปล่อยให้ ทุกข์ทนหมองไหม้
ความสุขสำเร็จ นี้เป็นเคล็ด อยู่ที่ใจ
ทำใจนิ่งใจใส อยู่ในตน เป็นคนมีสติ
คนมีสติ คือยอดคนดี มีคุณธรรม
บุญวาสนา ไหลมาค้ำ สุขล้ำ ใจดีมีเมตตา
การเจริญสติ เรียกว่าภาวนา
จึงเป็นกิจกรณีย์ ของชีวา รักษาใจให้สันติ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ทาน (ปานหญ้าปากคอก) ทาน เปรียบปาน หญ้าปากคอก วัวควายไม่สนใจดอก แม้งามหลาย มีใจหมายมุ่ง อยู่ในทุ่ง ลนลานไป เหมือนกับคนทั้งหลาย ไม่สนใจ ในทาน

ทาน
(ปานหญ้าปากคอก)


 ทาน เปรียบปาน หญ้าปากคอก
วัวควายไม่สนใจดอก แม้งามหลาย
มีใจหมายมุ่ง อยู่ในทุ่ง ลนลานไป
เหมือนกับคนทั้งหลาย ไม่สนใจ ในทาน

ทุ่งของผู้คน ก็คือมีแต่สน ทำมาหากิน
หาแล้วหา กินแล้วถ่าย คล้ายๆกัน
หารู้ไม่ ชีวิต ต้องอาศัย ไม่เท่านั้น
สุขสมปราถนาเหมือนฝัน ถ้าท่านรู้จักทาน

ให้สิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น แม่นมั่นไม่สงสัย
ปลูกอะไร ก็ได้สิ่งนั้น มันธรรมดา
 ปลูกข้าวได้ข้าว 
ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา 
กฎแห่งกรรม กฎแห่งธรรมดา ธรรมชาติ

  ทานมีคุณหลาย พระพุทธองค์ไท้ ตรัสไว้ว่า
บุคคลผู้ให้อาหาร นั้นหนา ดุจดังว่าให้กำลัง
ให้ผ้า ชื่อว่าให้วรรณะ หรือผิวพรรณ หรือ ชั้น
ให้ยานพาหนะนั้น ชื่อว่าให้ความสุข

ให้ประทีปโคมไฟ ได้ชื่อว่า ให้จักษุ
ให้ที่พักอาศัยที่อยู่ ได้ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ผู้พร่ำสอนธรรม ได้ชื่อว่าให้หนทาง
เป็นทางสว่าง ทางอริยะ

ดังนั้น ทานขาดไม่ได้ ทำให้สมบูรณ์พูนสุข
พ้นสรรพทุกข์ มีแต่สุขสมปราถนา
ครอบครัวอยู่เย็น หมู่ญาติเริงร่า
ชาวประชา สามัคคี กินดีอยู่ดีมีสุข

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2564

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ (กุญแจไขชีวิต) ใจนั้นมีลักษณะ อ่อนไหว อยู่ไม่นิ่ง ชอบวิ่ง คล้ายลมพัด กระจัดกระจาย การฝึกสติ จึงมีความจำเป็น ควบคุมได้ มิฉนั้น กระสันกระสับกระส่าย หาที่ไปนอกตัว

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
(กุญแจไขชีวิต)
ใจนั้นมีลักษณะ อ่อนไหว อยู่ไม่นิ่ง
ชอบวิ่ง คล้ายลมพัด กระจัดกระจาย
การฝึกสติ จึงมีความจำเป็น ควบคุมได้
มิฉนั้น กระสันกระสับกระส่าย หาที่ไปนอกตัว
นิสัยคล้ายๆงู ชอบอยู่ในที่สงบเย็น
 พยายามเลือกเฟ้น..หา แต่ขาดปัญญา จึงพาหลงผิด
หลงไหลกามคุณ อบายมุข ของสนุก ที่ทำใจมืดมิด
หลงติด หลงตาม หน้าหมองคล้ำ กินไม่ได้อยู่ไม่ดี
สุขสงบเย็นแท้ มีแต่ อยู่ในตน
มารทำสับสน ซ่อนไว้ ที่ใกล้ตา
ที่ศูนย์กลางกาย อันคนทั้งหลาย มองข้ามนั่นหละ 
เหมือนวัวควาย มองหา แต่หญ้าในทุ่ง
สุข ภายนอก สุขหลอกๆ
ไม่นานดอก จืดชืด เพียงประเดี๋ยวประด๋าว
หยุดไม่ได้ ติดอกติดใจ คล้ายดมกาว
ถ้าขาด จะหงอยเหงา หงุดหงิด ผิดมนุษย์มะนา
ที่สุขสมปราถนา อยู่ ณ ศูนย์กลางกาย
อยู่ใกล้ๆ ในกาย ของเรา
เหมือนหญ้าปากคอก มารหลอก เอา
มารมันเก๋า ซ่อนไว้ใกล้ชิด อยู่ติดตัว
ชีวิต ถูกลิขิต ให้เดินทาง
เดินเข้ากลาง หาที่พึ่ง หนึ่งเดียว คือพระรัตนตรัย
ไม่รู้จักกลาง วิ่งแทบคลั่ง ตายเปล่าดาย
วนเวียนไป ก่อกรรมวิบาก ทุกข์หนัก น้ำตานอง
สมบัติจักรพรรดิ์ แน่นขนัด บนทางสายกลาง
อีกทั้ง..รูปสมบัติ และคุณสมบัติ พร้อมพักตร์
พ้นมือพญามาร ไม่พบพาน บ่วงกิเลสกรรมวิบาก
จงแจ้งประจักษ์ ให้รักการแสวงบุญ สร้างบารมี

 ;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

เพื่อหมู่ญาติ (รุกฆาตหมู่มาร) :: โลกที่เราอยู่ จงรู้ คือทะเลทุกข์ ไม่มีสุข มีแต่สนุกสนาน

เพื่อหมู่ญาติ
(รุกฆาตหมู่มาร)

โลกที่เราอยู่
จงรู้ คือทะเลทุกข์
ไม่มีสุข
มีแต่สนุกสนาน
หมกอยู่ในกระแสกามคุณ
เหมือนปลาคุ้นน้ำ
สุขนิดเดียว เหมือนไอน้ำ
ในกาแฟดำ นั่นเทียว
ธรรมชาติซุกซ่อนไว้
ทางให้ความสุข
อยู่ในตัวมนุษย์
ใกล้สุด เหมือนหญ้าปากคอก
เป็นทางสายกลาง
มีทางเข้า
คือศูนย์กลางกายตัวเรา
เป็นทางเก่า มีมานาน
ทางเอกสายเดียว
เปลี่ยวสุด
พวกมนุษย์
ไม่ชอบเดิน เมินไม่มอง
ยากหลาย
ที่ใครจะเชื่อ
พระเทศน์ ก็แสนน่าเบื่อ
คนที่เชื่อ น่าคิด คือบัณฑิตกตัญญู
หมู่มารใส่กิเลส
เกิดอาเพท ลุ่มหลง
จิตงวยงง
ลุ่มหลง กามคุณ
ทำตัวเป็นปลาตาย
ไหลตามน้ำ
ไม่เชื่อน้ำคำ
ของบัณฑิต
 มีตัณหา
ทะยานอยาก ไม่กลัวตาย
ใจคอโหดร้าย
ไม่อาลัย ชีวิตอื่น
พระพุทธองค์
ทรงเข้าใจปัญหา
น่าเวทนา
หมู่ชนปัญญาน้อย
ต้องใช้พระโพธิญาณ
สู้กับหมู่มารถ่อย
จึงสร้างบารมี ไม่ถอย
ไม่น้อย ยี่สิบอสงไขยก้ป
พระพุทธองค์
ทรงเปิดโลก เปิดดวงตา
สรรพสัตว์ มนุษย์และเทวา
ได้ดวงตาเห็นธรรม
เราจึงเกิดมาสร้างบารมี
เพื่อตัวเรานี้ และสรรพสัตว์
เพื่อหมู่ญาติ
และรุกฆาต หมู่มาร

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561

หญ้าปากคอก (หลอกวัวควาย):: พระพุทธศาสนาสอนอะไร เกิดฝรั่ง หรือใคร สนใจถาม ถัาจะตอบแบบดำน้ำ เขาก็จะขำ ไม่เข้าใจ

หญ้าปากคอก
(หลอกวัวควาย)

พระพุทธศาสนาสอนอะไร
เกิดฝรั่ง หรือใคร สนใจถาม
ถัาจะตอบแบบดำน้ำ
เขาก็จะขำ และไม่เข้าใจ
เช่นสอนให้มีเมตตา
ทุกศาสนาก็สอนแบบนี้
เราจะต้องมีคำตอบที่ดี
เป็นคำตอบที่ โดนใจ
ถ้าจะตอบว่า
สอนนั่งสมาธิ ได้ไหม
อันนี้ ก็ใช่
 ไม่หนี ธรรมดา
พวกเราศิษย์ธรรมกาย
มาสอนต้องไม่ธรรมดา
มาสอนมาบอกว่า
 เส้นทางชีวิตนั่นหนา อยู่ในตน
ที่เกินคาดคิด
เส้นทางชีวิต อยู่ในตน
ไม่วกวน
ผ่านศูนย์กลางกายทุกคน ในตัว
ศูนย์กลางกาย
ใช่ จุดโน้มถ่วงของโลก
เป็นที่น่าตลก
ชาวโลก ไม่สนใจ
เหมือนหญ้าปากคอก
หลอกวัวควายได้
วิ่งออกคอกไป
ใจมุ่งไป ในทุ่ง
อีกคำถาม น่าถามยิ่ง
ถามจริงๆ ว่ามาทำไมอเมริกา
มาเผยแผ่ศาสนา
แล้วเมืองไทยเรานั่นหละ ดีหรือยัง
คำตอบที่คิดว่าใช้ได้
คือ พุทธศาสนานั้นคล้าย ตะวัน
ส่องแสงเฉิดฉัน เรื่อยไป
ไม่เลือกว่าใคร ล้วนใช่ญาติ
สรรพสัตว์
ล้วนเคยเป็นญาติ ร่วมอุทร
เกี่ยวพันกันมาก่อน
ต่างเดือดร้อน ทั้งนั้น
พระโพธิ์สัตว์
เห็นชัด รู้แจ้ง
 พญามาร กลั่นแกล้ง 
จึงทุ่มสุดแรง กอบกู้

;;;;;;;;;;