ครอบครัวอยู่เย็น
(ทำบ้านให้เป็นสัปปายะ)
สัปปายะสถาน มีบ้าน ที่เป็นมงคล
ใครๆก็สวดมนต์ ทุกคน มีศรัทธา
ฝักใฝ่ธรรมะ เป็นมหามังคลา
ฝักใฝ่ธรรมะ เป็นมหามังคลา
สังคมอบอุ่นถ้วนหน้า ชีวาอุดมการณ์
ธรรมะหรือบุญ เป็นที่สบาย สำคัญหลาย อันดับหนึ่ง
นั่นหมายถึง การมีสติ ไม่หนีออกจากตัว
สวดมนต์ ใจจะเป็นสุข ใจใสไม่มืดมัว
ใจจะอยู่กับตัว เรียกว่ามีสติ
นั่นหมายถึง การมีสติ ไม่หนีออกจากตัว
สวดมนต์ ใจจะเป็นสุข ใจใสไม่มืดมัว
ใจจะอยู่กับตัว เรียกว่ามีสติ
ธรรมะ ซึมซับอยู่ภายใน ใจของคน
มีสุขล้น ทุกคนมีน้ำใจ
ทำบุคคล ให้เป็นที่สบาย ได้
สามัคคีรวมใจ ภัยใดใด ก็ไม่กล้า
ทำบุคคล ให้เป็นที่สบาย ได้
สามัคคีรวมใจ ภัยใดใด ก็ไม่กล้า
เป็นมิตรแท้ ช่วยกันแก้ไข ฝ่าฟัน
ชีวิตปานสวรรค์ สุขสันติ์ สนิทสนม
ทุกข์ทางใจ ธรรมะช่วยได้ ไม่ตรอมตรม
ภัยภายนอกจากคนพาล ที่จะมาขย่ม ล้มความตั้งใจ
อาหาร เป็นที่สะบาย น้ำไฟ สำคัญต่อมา
อาหารสัปปายะ ก็จะเกิดขึ้นง่ายๆ
ขอเพียงบุคคล ในครอบครัว หรือสังคม เป็นที่สบาย
ขอเพียงบุคคล ในครอบครัว หรือสังคม เป็นที่สบาย
สมบัติน้อยใหญ่ ไหลมาเอง
สังคมดี เศรษฐกิจก็จะดี ตามมา
สะบายอุรา หาทรัพย์ได้มา ง่ายๆ
ชีวิตมีอิสระ ประชา..ธิปไตย
ผู้ปกครองที่เป็นใหญ่ ใฝ่ทางธรรม
อาวาสสัปปายะ เป็นที่สะบาย ข้อท้ายสุด
บรรยากาศบริสุทธิ์ สงบสดใส สดชื่น
ไม่มีภัยธรรมชาติ รุกฆาต แตกตื่น
สงบร่มรื่น สว่างไสว ปานในสวรรค์
ไม่มีแหล่งอบายมุข แหล่งสนุก ระเริงรื่น
ชีวิตตื่น ชื่นมื่น ประเพณี อันดีงาม
ประเพณีชาวพุทธ เอาบุญนำ
ทั้งสวยงาม ทั้งสงบ สยบมาร
โดยสรุป แม้ยากดีมีจน ขอให้เป็นคน มีศรัทธา
ทุกอย่างจะสมปราถนา มีชีวา ปลอดภัย
ครอบครัวมีสุข สนุกกับการอยู่ มีกินมีใช้
มีเพื่อนดีมากมาย ร่าเริงใจ ปานในสวรรค์
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น