วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ปลื้มปีติ (ด้วยมีศรัทธา) อะไรหนา ทีว่า เป็นทรัพย์ที่น่าปลื้มใจที่สุด องค์พระพุทธฯ ตรัสตอบเทวดาว่า ก็คือ ยอดอริยทรัพย์ หรือศรัทธา นั่นหละ อันนำมา ซึ่งบุญญาบารมี

  ปลื้มปีติ
(ด้วยมีศรัทธา)


อะไรหนา ทีว่า เป็นทรัพย์ที่น่าปลื้มใจที่สุด
 องค์พระพุทธฯ ตรัสตอบเทวดาว่า
ก็คือ ยอดอริยทรัพย์ หรือศรัทธา นั่นหละ
อันนำมา ซึ่งบุญญาบารมี

การมีบุญญา ให้สุขสมปราถนา ในชีวิต
คนละชนิด กับศรัทธา เลื่อมใสใจปีติ
การทำบุญด้วยศรัทธา จึงได้วาสนา บารมี
ศรัทธาไม่มี ใจปีติไม่ได้
ปีติมาก ได้บุญนัก เราตระหนักอยู่
ดังนั้นทำบุญกับผู้ ที่เราเลื่อมใสศรัทธา
ศรัทธาที่ใด ไปทำบุญที่นั่น พระฯท่านว่า
ทำบุญขาดศรัทธา เหมือนว่า เทน้ำทิ้ง
มีศรัทธา ด้วยว่า ปัญญามี
ดังนั้นการฝึกสมาธิ จึงวิเศษ
ฝึกให้ใจหยุด ใจนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย จุดสำเร็จ
เป็นอุเทศ คำสอน ของท่านผู้รู้
ใจหยุด ที่สุดของสมถะ นิวรณ์ห้าหลุด
ปัญญาผุด ประดุจพระอาทิตย์ พ้นเมฆหนา
สว่างไสว ใจ มีศรัทธา
พร้อมด้วยความสุข และเมตตา มาด้วยกัน
ทรัพย์สมบัติทางโลก นำความปลื้มใจ ได้ชั่วคราว
ไม่อาจติดตามเรา..ไปได้ ในปรภพ
ศรัทธา จึงเป็นอริยทรัพย์ คอยตามประกบ
ในปรภพ ทุกชาติ ไม่ขาดติดตามเรา
เริ่มที่ศรัทธา จึงเป็นมนุษย์มนา มีศีล
เป็นเทวดาเดินดิน คือมีหิริโอตัปปะ
เป็นผู้คงแก่เรียน พากเพียรศีกษา พาหุสัจจะ
เป็นผู้มีจาคะ เสียสละ ต่อส่วนรวม
ศรัทธา ยังจะนำไปสู่ ผู้มีปัญญา
มิฉนั้นหนา จะเป็นคนกะล่อน
ฉลาด แต่ขาดเฉลียว ตายแน่นอน
ศรัทธา จะสอนให้ทำแต่ดี ปลื้มปีติจึงมีเสมอ

;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น