วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ประพฤติพรหมจรรย์ (จึงจะพ้นมัน ราคะ) ทางชีวิต ทางผิด คือทางราคะ วัยก็สิ้นไปด้วยนะ เมื่อวันเวลาผ่านไป สตรี เป็นมลทินของพรหมจรรย์ ระวังไว้ ตบะ และพรหมจรรย์ล้างได้ แม้ไม่ใช่น้ำ

ประพฤติพรหมจรรย์
(จึงจะพ้นมัน ราคะ)

 ทางชีวิต ทางผิด คือทางราคะ
วัยก็สิ้นไปด้วยนะ เมื่อวันเวลาผ่านไป 
สตรี เป็นมลทินของพรหมจรรย์ ระวังไว้
ตบะ และพรหมจรรย์ล้างได้ แม้ไม่ใช่น้ำ
 เป็นคำของพระพุทธองค์ ทรงตรัส ตอบเทวดา
โยนิโสมนะสิการะ ได้สารัตถะ ปัญญาเกิด
เพิ่มพูนศรัทธา อันเป็นทรัพย์ อันประเสริฐ
จะก่อเกิด ธัมมานุธัมมะ ปฏิบัติต่อไป
ราคะ ความใคร่ ในกามคุณห้า
รูปรสกลิ่นเสียง และโผฏฐัพพะ นั่นหละ จงรู้
หรือสิ่งภายนอก หลอกใจ คลายตัวกู
แล้ววิ่งสู่..ภายนอก ออกไประเริง
เป็นทางผิด ประมาทในชีวิต ไม่ตายก็เหมือนตาย
คือปล่อยทิ้งไป ไม่แสวบุญ สร้างบารมี
ปล่อยให้กรรมวิบาก กำกับ ควบคุมชีวี
เหมือนลูกแกะอ้วนพี หนีออกจากฝูง
วันคืนผ่านไป วัยก็สิ้นไป ไม่หวนคืนมา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ปรากฎ
เป็นเหมือนฝันร้าย จับต้องไม่ได้ และยังเป็นโทษ
กรรมวิบาก รุกฆาตปรากฎ กำสรตเศร้า

เกิดแก่เจ็บ และก็ตาย คล้ายกันหมด
น่ารันทด ท่านเปรียบไว้ คล้ายไฟไหม้บ้าน
ไหม้หมดไม่เหลือ ตายไปเอาไปไม่ได้เลย ก็ปาน
ผู้ปัญญาชาญ รีบขนของหนีไฟ ทำบุญไม่ละลด

สตรีเป็นมลทิน ของพรหมจรรย์ นั้น อย่างยิ่ง
ละทิ้ง..ความดี มิมีเยื่อใย
ยากจะได้สติตื่น ความหื่นนี่ สุดร้าย
เนกขัมมบารมี ท่านจึงใส่ใจ ตอกย้ำ

ประพฤติพรหมจรรย์ สู้ดอกไม้พญามาร ราคะ
บำเพ็ญตบะ อดกลั้น ขจัดกระสัน ที่รุกฆาต
เพื่อทำใจให้หยุด หลุดจากนิวรณ์ห้า ที่บังอาจ
เป็นกุศโลบาย ที่ชาญฉลาด ขจัดกิเลสราคะ

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น