วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ความจน (หนีพ้น ด้วยทานบารมี) คนจนมีสามประเภท สังเกตให้ดี หนึ่ง คนยากจน สตางค์ไม่มี อดมื้อกินมื้อ หน้ามืด สอง คนอยากจน คนตระหนี่ ขี้ตืด สาม คนจนยาก ยึดมั่น ทานกุศล

 ความจน
(หนีพ้น ด้วยทานบารมี)

คนจนมีสามประเภท สังเกตให้ดี
หนึ่ง คนยากจน สตางค์ไม่มี อดมื้อกินมื้อ หน้ามืด
สอง คนอยากจน คนตระหนี่ ขี้ตืด
สาม คนจนยาก ยึดมั่น ทานกุศล

คนยากจน คือคนตระหนี่ ในอดีต
ใจมืดมิด ด้วยฤทธิ์ ของความตระหนี่
ใจไม่เปิดอ้า รับบุญญา คุณความดี
ชาติก่อนกี้ เจ้าไม่ให้ แล้วจะเอาอะไรอีกล่ะ

คนอยากจน คือคนตระหนี่ในปัจจุบัน
ชาวบ้านเขาทำทานกัน แต่ท่าน ไม่ทาน แถมยังขัดขวาง
ชอบเอาลัดเอาเปรียบ โกงสารพัด หัดรู้ไว้บ้าง
จะมาอ้าง ว่าไม่มีทรัพย์ รับไม่ได้

คนจนยาก คือคนรักการทำบุญ
มีศรัทธาหนุน ทำบุญไม่หยุดยั้ง
มีสัมมาทิฏฐิ รู้จักบุญดี จึงทุ่มสุดกำลัง
เอาปณิธาณตั้ง สร้างบารมี สู่สุดธรรม

เราเกิดมาเพื่อว่า ทำพระนิพพานให้แจ้ง
บุญแสวง ทุ่มสุดแรง เร่งสร้างบารมี
ด้วยชีวิตเป็นของน้อย ไม่อาจนอนคอย ฤกษ์งามยามดี
ทุกอนุวินาที เรานี้ใช้บุญ

ชีวิตไม่อาจประมาท สังสารวัฏฏ์ ไม่ใช่เรื่องเล่น
ทุกข์เลือดตากระเด็น พระเตมีย์ท่านเห็น จึงแกล้งเป็นใบ้
ไม่อยากเป็นพระราชา ที่สั่งฆ่าใครต่อใคร
เพิ่งพ้นนรกมาใหม่ๆ พระองค์ไท้ ไม่เอาอีกแล้ว

ความตระหนี่ นี้เป็นมหาภัย
ตายแล้วไปอบาย ทุกข์หลายอย่างที่ว่า
หัวเดียวกระเทียมลีบ ใครๆก็ไม่เอา เศร้าเหลือคณา
บำเพ็ญทานบารมีอย่างว่า จึงจะพ้น คนตระหนี่

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น