แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมบัติสาม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมบัติสาม แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ศรัทธา (อริยทรัพย์) ศรัทธารวบรวมไว้ ซึ่งเสบียง สั่งสมบุญ ผู้เลี้ยง ผู้อุปถัมภ์ ทุกภพชาติ ไม่ขาด ติดตาม สมบัติสาม สมบัติสี่ มีครบ

 ศรัทธา
(อริยทรัพย์)

ศรัทธารวบรวมไว้ ซึ่งเสบียง
สั่งสมบุญ ผู้เลี้ยง ผู้อุปถัมภ์
ทุกภพชาติ ไม่ขาด ติดตาม
สมบัติสาม สมบัติสี่ มีครบ
ศรัทธา ตั้งมั่นแล้ว
เหมือนมีแก้ว สารพัดนึก
ยังประโยชน์ให้สำเร็จ เพียงตรองตรึก
สุดคาดนึก ของปุถุชน
 ศรัทธา เป็นทรัพย์ประเสริฐ
ก่อให้เกิด สารพัดสมบัติ
แล้วยังติดตาม ไปทุกชาติ
เป็นบัณฑิต ไม่ประมาท มีปัญญา
ศรัทธา เป็นเพื่อนสองของคน
ชักจูงตน เป็นคนรักบุญ
คอยห้ามปราม ให้ห่างอกุศล
มีขันติอดทน ต่อกิเลสตัณหา
ผู้มีศรัทธา มีปัญญา ตั้งในธรรม
ถึงพร้อมด้วยศีลอุปถัมภ์ แม้หนึ่งคน
ย่อมเป็นประโยชน์แก่ญาติ เหลือล้น
และพวกพ้องทุกคน ผู้ไม่มีศรัทธา
ผู้ใด ใคร่เห็นผู้มีศีล
 ปรารถนาได้ยิน พระสัทธรรม
กำจัดมลทิน ความตระหนี่ ธรรมดำ
 ผู้นั้น ผู้เลิศล้ำ มีศรัทธา

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ต้นไม้ต้องการน้ำท่า (ชีวาต้องการน้ำใจ) ต้นไม้ ต้องการน้ำท่า ชีวา ต้องการน้ำใจ ชีวิต สว่างสดใส น้ำใจ นั้นใช่ คือบุญ

 ต้นไม้ต้องการน้ำท่า
(ชีวาต้องการน้ำใจ)

ต้นไม้ ต้องการน้ำท่า
ชีวา ต้องการน้ำใจ
ชีวิต สว่างสดใส
 น้ำใจ นั้นใช่ คือบุญ

บุญบันดาล สมบัติสาม จึงมี
สมบติสามนี้ จึงเป็นสมบัติ
ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ
เหมือนกันชัด อาจเป็นวิบัติก็ได้
หาทรัพย์ ด้วยตัณหา ทรัพย์วิบัติ
ไม่อาจ ให้สุขสมหวัง
หน้าตาเหมือนกัน แต่แตกต่าง
เหมือนหน้ากับหลัง อย่างนั้นเลย
ทรัพย์สมบัติ ได้มาด้วยฉันทะ
ตรงข้ามกับตัณหา อุปาทาน
ฉันทะ มีใจนุ่มนวล ควรแก่การงาน
  การบำเพ็ญทาน จึงจำเป็น
ทรัพย์วิบัติ กินใช้ ไม่มีอิ่ม
เหมือนสนิม อิ่มเหล็กไม่เป็น
กิเลสตัณหา มันซ่อนเร้น
ไม่ให้เห็น เป็นสนิมใจ
ทรัพย์วิบัติ ชาติทำลาย
สังคมอยู่ไม่ได้ คนขายชาติ
เหมือนยักษ์มาร อุบัติ
ธรรมชาติ ภัยพิบัติ ก็เกิด
โลกนี้เท่านั้น แสวงบุญได้
อายุก็สั้นหลาย ปานฟองน้ำฝน
น่าเวทนา เหล่ามหาชน
มัวสาละวน กับการทำมาหากิน

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

เป็นผู้ให้ (จะได้มากที่สุด) เทวดา ทูลถามพระพุทธองค์ว่า ใครหนา ที่ว่า เป็นผู้ที่ได้มากที่สุด พระองค์ ทรงตรัสตอบว่า ผู้ที่ให้ได้อุตลุด สลัดบาปหลุด บุญผุดสะพลั่ง

เป็นผู้ให้
(จะได้มากที่สุด)

เทวดา ทูลถามพระพุทธองค์ว่า
ใครหนา ที่ว่า เป็นผู้ที่ได้มากที่สุด
พระองค์ ทรงตรัสตอบว่า ผู้ที่ให้ ได้อุตลุด
สลัดบาปหลุด บุญผุดสะพลั่ง

อีกอย่าง การให้ เปรียบได้กับปลูก
ชาวนาคิดถูก เก็บข้าวส่วนหนึ่ง ไว้ทำพันธุ์
เก็บไว้นิดหน่อย แต่ว่าขยาย ได้ผลมหันต์
บุญให้ผลยิ่งกว่านั้น เป็นอนันต์ นับไม่ได้

บัณฑิต ย่อมคิดแต่จะให้
ไม่คิดเอาเปรียบใครๆ รักศีลรักวินัย ยิ่งกว่า
รักบุญสุดชีวี ชีวิตนี้ สละ
รักสันโดษสมถะ แสวงบุญญา สร้างบารมี

การให้ คือการได้ สมบัติสาม
มีนาม ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ และคุณสมบัติ
บุญเป็นอริยทรัพย์ บันดาลได้สารพัด
อจินไตย ให้สุขสมมาด สมปราถนา

สละแม้น้อยนิด ด้วยจิตศรัทธา
สมบัติไหลมา เป็นแม่น้ำ
ให้ด้วยศีลา ได้สมบัติมา เป็นห้วงน้ำ
ให้ด้วยภาวนา ยิ่งมากล้ำ เหมือนน้ำมหาสมุทร

ดังนั้น ทานศีลภาวนา นั่นหละทางสมบัติ
ทางสลัด..ออก ลอกกิเลส โลภโกรธหลง
ทางให้ทรัพย์ ให้อวัยวะ ให้ชีวา ปลดปลง
ทางสายกลาง ไม่หลง..กระแสโลก กามคุณ

หวงคือไล่ ให้ คือเรียก
ใครสำเหนียก..ได้ รู้ไว้ คนเหนือคน
เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ฉลาดในบุญกุศล
มีปัญหาน้อยใหญ่ ก็รู้จักอดทน อดกลั้น

การให้ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่  สัมมาทิฏฐิ
คือมีความเห็นถูก เรื่องโลกนี้ และโลกหน้า
จึงไม่หลงกล คนพาล หมู่มารา
ภัยอันตรายนาๆ ไม่เข้ามาใกล้

ไม่หลงเหยื่อมาร ตัณหาบาน กามคุณ
ไม่ยอมสูญ..เสียเวลา อันมีค่า ซึ่งมีน้อย
เป็นผู้ให้ ขนเสบียงไป ไม่มีถอย
มีชีวิตเลิศลอย สมบัติสาม ติดตามชีวิต

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564

สมบัติสาม (งามพร้อม) งามพร้อมสมบัติสาม นาม พระพุทธเจ้า ส่วนชาวเรา นั้นเล่า กระพร่อง กระแพร่ง ยังต้องแสวงบุญ สร้างบารมี สุดแรง บุญทำกรรมแต่ง วาสนา ชะตาชีวิต

สมบัติสาม 
(งามพร้อม)

งามพร้อมสมบัติสาม นาม พระพุทธเจ้า
ส่วนชาวเรา นั้นเล่า กระพร่อง กระแพร่ง
 ยังต้องแสวงบุญ สร้างบารมี สุดแรง
บุญทำกรรมแต่ง วาสนา ชะตาชีวิต
ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ
น่าประหลาด พร้อมพรั่ง ทางอริยะมรรค
เอกายนมรรค หรือวิมุตติมรรค หรือวิสุทธิมรรค มรรคา
ทานศีลภาวนา ทางสายกลาง 
การบรรลุธรรม หรือทำพระนิพพานให้แจ้ง
บุญญาแสวง และสุดแรง สร้างบารมีเพื่อชีวิต
ไม่ทำไม่ได้ เท่ากับไปทางผิด
ไปสู่ทิศ ที่มีปัญหา และอันตราย
บรรลุธรรม ตามอย่าง พระพุทธเจ้า
ตั้งเป็นเป้า กิจกรณีย์ ของชีวิต
ความมืดในใจ ต้องสูญไป เร่งพิชิต
ขจัดกิเลส ออกจากจิต พิชิตมาร
อยากสมปราถนา เพียงคิด ณ จุดสำเร็จ
ฐานที่เจ็ด ในกาย ถึงได้ทุกคน
จรดใจ นิ่งๆนุ่มๆ ผ่อนปรน
อย่าดิ้นรน รีบร้อน ผ่อนสะบายๆ
มันง่ายเกินไป จนกระทั่งไม่..อยากเชื่อ
เพียงจรดใจ ทุกเมื่อ เป็นนิสัย 
เกิดความสุข สุดจะบอก ภายใน
ด้วยง่ายหลาย จึงได้ มองข้าม 
แหล่งสำเร็จ ฐานที่เจ็ด นี้เอง
จะเป็นคนดีทั้งเก่ง รีบเร่ง ฝึกฝน
สมบัติสามพรั่งพร้อม จงน้อม ฝึกตน
เข้าถึงจึงพ้น วังวน ความทุกข์

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ทุกอย่างที่เราเป็นเราได้ (ใจบันดาล):: ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ใครบันดาล ทุกอย่างที่เราได้เราเป็นนั้น มันมาจากใจ ตนเป็นที่พึ่งของตน ที่คนเขาว่าไว้ คำว่าตนนั้น ใช่ อยู่ในใจเรานั่นเอง

ทุกอย่างที่เราเป็นเราได้
(ใจบันดาล)
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ใครบันดาล
ทุกอย่างที่เราได้เราเป็นนั้น มันมาจากใจ
ตนเป็นที่พึ่งของตน ที่คนเขาว่าไว้
คำว่าตนนั้น ใช่ อยู่ในใจเรานั่นเอง
ใจที่ดี มีลักษณะ สามอย่าง
คือนิ่งใสสว่าง สามอย่างนี้เอง
ใจนิ่งอยู่ภายใน/ใจกว้าง ใจใส/ใจสูง ใจสว่าง/ใจสงบบานเบ่ง
ใจสามอย่างนี้เอง ให้สมบัติสาม
คนใจกว้าง แปลกจัง นำทรัพย์สมบัติมาให้
มีอายตนะดึงดูด ไม่อยากได้ ก็จะได้ มันมาเอง
ส่วนคนใจแคบ ยิ่งอยากได้ ยิ่งไม่มา คนเสงเครง
มันเป็นไปเอง ไม่มีใครกำหนด กฎแห่งกรรม
คนใจกว้าง ลักษณะมี เป็นที่ประจัก
มีศรัทธายิ่งนักในบุญ ในคุณของพระรัตนตรัย
รู้จักสังฆทาน เนื้อนาบุญ ที่ยิ่งใหญ่
ทุ่มสุดใจ ในทานบารมี
คนใจสูง ใจใส ด้วยศีล
สำรวมกายวาจาเป็นอาจิน ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้าย
 แม้ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทิ่มแทงด้วยวาจา ก็ไม่เป็นไร
 รักษาความสงบกายวาจาไว้ได้ สุดใจรักษาศีล
คนใจสูงใจใส จะได้รูปสมบัติ
พ้นภัยพิบัติ คนภัยคนพาลมิอาจเข้าใกล้
ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ สวยงาม ปราศจากโรคภัย
โจรผู้ร้าย ไม่กล้าเข้าใกล้ ใจระย่อ
คนใจสว่างใจสงบ พบสุขภายใน
เบิกบานใจ ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
เกิดปัญญาความสว่าง รู้เห็นกระจ่าง ทั่วฟ้าจดดิน
มีอานุภาพเกินถวิล ที่คนจะคิดได้
คนใจสว่าง ใจเบิกบาน สำคัญนัก
ได้คุณสมบัติ มีความสามารถ และอานุภาพ
 มหาชน เปี่ยมล้นศรัทธา ก้มกราบ
สงบราบคาบ แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ขยันถูกหลักวิชา (รักษาใจให้ใส) :: สิ่งมีค่า ควรรักษายิ่ง คือใจ สิ่งทีเราได้ เรามีและเป็นไป ใจกำหนด ทุกข์หรือสุข เพิ่มลด ใจกำหนด ให้เป็นไป

ขยันถูกหลักวิชา
(รักษาใจให้ใส)
สิ่งมีค่า ควรรักษายิ่ง คือใจ
สิ่งทีเราได้ เรามีและเป็นไป ใจกำหนด
ทุกข์หรือสุข เพิ่มลด
ใจกำหนด ให้เป็นไป
ที่ว่า เราเกิดมารับผลกรรม ที่ทำไว้
ไม่อยากได้ ก็ต้องได้ สุขหรือทุกข์
ผลกรรม ติดตาม พันผูก
ใจหมองเป็นทุกข์ ใจใสเป็นสุข ตามผลกรรม
ดังนั้น ประคองชีวิต ทำจิตให้ใส
กรรมร้ายใดๆ ไม่ได้โอกาส
มีแต่กรรมดี ให้สุข สมมาด
ประคองชีวาต ประคองใจ
รักษาใจ ไม่ให้มีโลภโกรธหลง
ทำใจให้มั่นคง นั่งสมาธิ
ได้บุญใหญ่ ให้ผลชาตินี้
คิดดีพูดดีทำดี เท่านั้น
ทาน รักษาใจ ไม่ให้โลภ
ใจสงบ หายซ่านพล่านอยากได้
เกิดสันโดษ หมดอาลัย 
พอใจ ในสิ่งที่ตนมี ตนได้ ใจปีติ
ศีล รักษาใจ ไม่ให้โกรธเกลียดง่าย
งามจับใจ ใครเห็น เป็นรัก
อยากให้ อยากช่วยเหลือ ยิ่งนัก
น่าเคารพรัก ด้วยศีลบารมี
 ภาวนา รักษาใจ ให้ใสสว่าง
มีสุขจัง ด้วยจิตเมตตา
เป็นที่รักของมนุษย์ และเทวา
สุขสมอุรา ทุกประการ
 ทำอย่างไร ก็ไม่รวย แต่ซวยซ้ำ
เอาขยันนำ ทำอย่างไร ก็ไม่สำเร็จ
รักษาใจ ให้ได้ก่อน นี้เป็นเคล็ด
สุขสำเร็จ อยู่ที่ใจ ใฝ่รักษา

..........

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562

วันเกิด (เทิดบารมีเป็นที่สุด) วันเกิด วันประสริฐสุด เกิดเป็นมนุษย์ โชคดีสุดประมาณ ควรได้ตระหนัก จักได้ทำสิ่งสำคัญ สิ่งนั้น คือการสร้างบารมี

วันเกิด
(เทิดบารมีเป็นที่สุด)
วันเกิด วันประสริฐสุด
เกิดเป็นมนุษย์ โชคดีสุดประมาณ
ควรได้ตระหนัก จักได้ทำสิ่งสำคัญ
สิ่งนั้น คือการสร้างบารมี
สร้างบารมี ได้ที่นี่เท่านั้น
ไม่ว่าสวรรค์ หรือที่ไหนๆ สร้างไม่ได้
และชีวิตมนุษย์ ก็สั้นเหลือใจ
เปรียบได้ กับฟองใส ฟองน้ำฝน
เราต้องการบารมี
เหมือนกับที่ รถ ต้องการน้ำมัน
หลังตาย ต้องเดินทางไกลอนันต์
ใครรู้ทัน มีศรัทธา หาได้ยาก
ศาสนา สอนวิชาชีวิต
ธรรมปฏิบัติสุดขีด คือพระ
เพื่อฆราวาส จะได้ทัศนานุตริยะ
เข้ามาศึกษา เกิดศรัทธารักษาตน
มีศรัทธา ได้ชื่อว่าไม่จน
โชคดีล้น อยู่บนทางสมบัติ
ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ
ล้วนแน่นขนัด สมบัติสาม
มีศรัทธา ได้ชื่อว่ากตัญญูสุด
ของมนุษย์ ผู้ตอบแทนคุณ
นำความปีติมาให้ ใจอบอุ่น
บวชบูชาคุณ เลิศล้น คนกตัญญู
เป็นชาย ถ้าไม่ได้บวช
ชวด สิ่งมีค่า อุตส่าห์เกิดมา
มีชีวิต มืดมิด ไม่ต่างกับไก่กา
เกิดมา เสียชาติ
เป็นหญิง บวชใจได้
พระวินัยไม่ให้ บวชกาย
ศาสนา จะหดสั้นหลาย
เป็นอจินไตย ต้องเชื่อในพระองค์
กตัญญูต่อบุญบารมี เป็นที่สุด
เป็นมนุษย์ ได้สมบัติสาม
ท่องเที่ยวในสุคติภูมิ ประจำ
เมื่อถึงยาม บารมีกล้า ถึงพระนิพพาน

;;;;;;;;;;