วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

จงประคองสติ (หนีความเพลิน) สัตว์โลก เพลิดเพลิน ผูกพัน กระสัน อยาก ตัณหา สร้างภพสร้างชาติ ต่ำช้า ทุกข์หนัก ทุกข์หนา น้ำตานอง

 จงประคองสติ
(หนีความเพลิน)

สัตว์โลก เพลิดเพลิน ผูกพัน
กระสัน อยาก ตัณหา
สร้างภพสร้างชาติ ต่ำช้า
ทุกข์หนัก ทุกข์หนา น้ำตานอง

ความเพลิน ทางโลกโลกีย์
ทางที่ เงินเป็นพระเจ้า
ตระหนี่ มีแต่เอา
ได้ใหม่ลืมเก่า ไม่สิ้นสุด
บัณฑิต มีวิตก เครื่องเที่ยวไป
ตรึกระลึกได้ ตัดอาลัยความเพลิน
มีสติไว้ในตน พระสรรเสริญ
มีทางเดิน ทางธรรม ทางสายกลาง
วิตกวิจารณ์ ตรึกตรอง ประคองสติ
เอาไว้ในตัวเรานี้ ถูกต้อง
สัมมาสมาธิ ไม่มีสอง
มีสุขเมตตารับรอง ว่าถูกต้องแน่
ตถาคต ธรรมกาย จะได้พบ
เมื่อประสพ ก็เข้าใจ ว่าใช่แล้ว
หมดความสงสัย เมื่อเห็นพระแก้ว
ใช่แล้ว พระรัตนตรัย อยู่ในตัว
ท่านเรียกว่า นิพพาน
ละตัณหา อุปาทาน ได้
เกิดสุขสันโดษ ยิ่งใหญ่
เป็นคนใหม่ ไม่เหมือนเดิม
พระธรรมกาย พระรัตนตรัยในตัว
มารทำให้เมามัว สับสน
สร้างตัณหา เครื่องผูก ยากพ้น
นอกจากคน ผู้ที่ บารมีมาก

;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ความสวัสดีมีชัย (อาศัยปัญญา) ความสวัสดีมีชัย ในสรรพสัตว์ พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ อาศัยปัญญา ความเพียร ความระวังตัว การสละ นอกจากนี้ อย่าหา..ไม่มี

 ความสวัสดีมีชัย
(อาศัยปัญญา)

 ความสวัสดีมีชัย ในสรรพสัตว์
พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ อาศัยปัญญา
ความเพียร ความระวังตัว และการสละ
นอกจากนี้ อย่าหา..ไม่มี
ปัญญา คล้ายตะเกียง
เดินทาง ไม่อาจเลี่ยง ต้องใช้
ผิดถูกต้องรู้ ล่วงหน้า สบาย
มิฉนั้นอันตราย ตาบอดคลำช้าง
มีปัญญา ความเพียรจะมาเอง
คนขี้เกียจ เก่งแต่ตัว หัวไม่รอด
วิริยะ กล้าหาญ ชนะตลอด
ความเพียร อย่าให้มอด เป็นชัยชนะ
ความระวังตัว ไม่ประมาท แม้นิด
หมดสิทธิ์ ที่บาป จะเข้าใกล้
ฝึกสติ ฝึกตน คนไม่ตาย
บุญบารมีหลาย นำชัยชนะ
ไม่ประมาท ไม่ขาดสละ
ความตระหนี่ ตัวปัญหาใหญ่
หนีตัณหาอุปาทาน ตัวร้าย
ผู้ไม่ประมาท ใส่ใจ สละ
มีปัญญา แสวงหา ทางธรรม
รู้ว่าตัณหา สุดล้ำ อันตราย
จึง ทานศีลภาวนา ไม่ขาดสาย
ทางสละ ทางให้ ได้บุญ
แสวงบุญสร้างบารมี นี้เท่านั้น
จงรู้กัน ทางนี้ สวัสดีมีชัย
พ้นกฎแห่งกรรม สุดอันตราย
พ้นวัฏฏสงสาร เวียนว่าย อบายภูมิ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ใจหยุด (ประดุจรากขาด) เบญจขันธ์ ที่กำหนดรู้แล้ว เห็นใสชัดแจ๋ว อยู่ภายใน ใจหยุด ประดุจรากขาด เคลื่อนที่ได้ กลางของกลาง เรื่อยไป ไร้ทุกข์ไร้ภพ

 ใจหยุด
(ประดุจรากขาด)

เบญจขันธ์ ที่กำหนดรู้แล้ว
เห็นใสชัดแจ๋ว อยู่ภายใน
ใจหยุด ประดุจรากขาด เคลื่อนที่ได้
กลางของกลาง เรื่อยไป ไร้ทุกข์ไร้ภพ
เปลี่ยนมิติ ไปที่ละเอียด ยิ่งๆขึ้น
สติตื่น พ้นทุกข์โศกโลกโลกีย์
เพียงเท่านั้น ยังไม่พอ ต้องถึงที่
พระชินสีห์ พระรัตนตรัยในตัว
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เบญจขันฑ์ หรือ กายกับจิต
กายในกาย จิตในจิต
เกิดดับๆ สู่ทิศ ตามทางสายกลาง
เกิดดับๆ เหมือนรากขาด
ไม่สามารถ งอกงามขึ้นได้
ไม่มีภพ ไม่มีชาติ อีกต่อไป
กระทั่งได้..บรรลุ พระนิพพาน
ทำพระนิพพานให้แจ้ง กรณียกิจ
ของชีวิต ที่หนีกฎแห่งกรรม
หนีทุกข์โศก หนีคนพาล ระยำ
ชีวิตไม่ตกต่ำ สว่างไสว
ฝึกตนฝึกจิต สมาธิภาวนา
มีปัญญา ศรัทธาพระศาสน์
เดินทางธรรม บุญค้ำ ทุกชาติ
แต่น่าอนาถ มีน้อยนัก จักทำได้
ด้วยโลกโลกีย์ มีกิเลสตัณหา
ปิดหูปิดตา คนทั้งหลาย
เหมือนปลาในน้ำ ยากกลาย
กัลยาณมิตรทั้งหลาย ทำงานหนัก

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ผู้รู้แจ้ง (เจียมตนเจียมใจ) ผู้ประกอบใน ธรรมวินัย ใส่ใจ ไม่ประมาท แสวงบุญสร้างบามี เร่งลัด กิจวัตร ทำพระนิพพานให้แจ้ง

 ผู้รู้แจ้ง
(เจียมตนเจียมใจ)

ผู้ประกอบใน ธรรมวินัย
ใส่ใจ ไม่ประมาท
แสวงบุญสร้างบามี ไม่ขาด
กิจวัตร ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ด้วยชีวิต ถูกลิขิต ให้เดินทาง
เสบียงกรัง การเดินทาง ต้องมี
เลี้ยงตน ครอบครัว ประชาชี
ทานบารมี จึงมิอาจขาด
ขจัดความตระหนี่ มหาภัย
ตัณหาตัวร้าย ทำลายชีวิต
มิจฉาทิฏฐิ ดื้อดึงดื้อด้านสุดจิต
มีชีวิตสูญเปล่า เหมือนไก่กา
สงบเสงี่ยม เจียมตน 
อดทน น่าเคารพเลื่อมใส
เป็นอรรถเป็นธรรม งามจับใจ
มหาชนเทิดไท้ ไว้เหนือเศียร
พากเพียรละความตาย
ใส่ใจ ในธรรมปฏิบัติ
หนีกฎแห่งกรรม สุดสามารถ
สุดชีวาต ตรงสู่พระนิพพาน
มีธรรมปฏิบัติ ย่อมสามารถบรรลุ
ธรรมของผู้ รู้แจ้ง เห็นแจ้ง
ไม่ช่างพูด ช่างแสดง
เป็นผู้รู้แจ้ง ขวนขวายน้อย
ผู้ประกอบในธรรมวินัย ใส่ใจปฏิบัติ
ขวนขวายน้อย นั้นชัด เป็นนิสัย
ขันติโสรัจจะ เจียมตนเจียมใจ
มหาชนเลื่อมใส ศรัทธา

;;;;;;;;;; 

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

พึงเป็นศิษย์มีครู (ผู้รู้ยิ่ง) พึงนั่งใกล้ ผู้เป็นพหูสูต ไม่พึงทำสุตะ..ให้เสื่อม ตั้งใจฟัง ทำใจให้ใส ให้เลื่อม อย่าให้ใจกระเพื่อม ขาดสติ

 พึงเป็นศิษย์มีครู
(ผู้รู้ยิ่ง)

พึงนั่งใกล้ ผู้เป็นพหูสูต
ไม่พึงทำสุตะ..ให้เสื่อม
ตั้งใจฟัง ทำใจให้ใส ให้เลื่อม
อย่าให้ใจกระเพื่อม ขาดสติ

เป็นศิษย์มีครู เป็นผู้กำกับ
คอยกำชับ กำชา สั่งสอน
เดินทางตรง ไม่คด แน่นอน
พ้นทุกข์ร้อน นอนเย็น
สุตะ เป็นราก พรหมจรรย์
ขยัน หมั่นทบทวน
พิจารณา ให้ถี่ถ้วน
ซาบซึ้ง ทุกส่วน กระบวนความ
ฟังคำครู แล้วตรองคำครู
กระทั่ง รู้จริง แตกฉาน
ไม่เพียงงูๆปลาๆ เท่านั้น
ด้วยโยนิโสมนสิการ พินิจพิเคราะห์
สำคัญนัก ธรรมานุธรรมะปฏิบัติ
เมื่อรู้แจ้งชัด ธรรมปฏิบัติ จะมา
โยนิโสมนสิการ จึงสำคัญนักหนา
 อรรถกถาจารย์ จึงมี
โยนิโสมนสิการ คิดอ่าน ให้เข้าใจ
ถ้าคิด ก็คิดได้ ปรุโปร่งแจ่มแจ้ง
เป็นลักษณะของจิต ที่สมาธิแรง
เมื่อจิตไม่แบ่ง มีสติ
เพราะฉนั้น การเป็นผู้ทรงธรรม
รู้จริงยิ่งล้ำ มันจำเป็น
พรหมจรรย์ ไม่เล่นๆ
ต้องมีครู ผู้รู้ผู้เห็น เป็นสำคัญ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566

พระธรรมกาย (กายสุดท้ายเข้าพระนิพพาน) บรรดาทางทั้งหลาย ทางสายกลาง ไม่มีตัณหา ให้สุขสมหวัง มรรคา ทางปัญญา รักษาสติ

 พระธรรมกาย
(กายสุดท้ายเข้าพระนิพพาน)

บรรดาทางทั้งหลาย
ทางสายกลาง ไม่มีตัณหา 
 ให้สุขสมหวัง มรรคา
ทางปัญญา รักษาสติ

ทานศีลภาวนา ทางสายกลาง
ทางธรรม ทางบุญ ทางสละ
 มีองค์แปด ทางอริยะ
 ไม่ธรรมดา ประเสริฐสุด 

บรรดาสัจจะทั้งหลาย
รู้อริยสัจ ๔ ใช่ ประเสริฐสุด
 มีศรัทธา เหนือมนุษย์
เชื่อมั่นสุดสุด ในบุญ

ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
เห็นทุกข์สมุทัย ประจัก ในกาย
อริยสัจสี่ เห็นแจ้ง ไม่สงสัย
นิโรธะ หยุดใจได้ เห็นมรรค
บรรดาธรรม ทั้งหลายทั้งสิ้น
วิราคธรรม เป็นปิ่น ประเสริฐสุด
 อมตะพระนิพพาน ที่เยี่ยมยุทธ
สิ้นสุด กิเลสตัณหา อุปาทาน
พระนิพพาน เป็นที่อยู่
ของผู้..หมดกิเลส ตัณหา
เป็นพระธรรมกาย ลักษณะ
งามนักหนา ลักษณะมหาบุรุษ 
บรรดา..สัตว์สองเท้า
พระพุทธเจ้า มีจักษุ ประเสริฐสุด
รู้แจ้ง เกินเทวาและมนุษย์
อานุภาพ ไม่สิ้นสุด อจินไตย

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566

นามรูปดับ (ขยับมิติ) นามรูป ดับได้ ไม่มีเหลือ น่าเหลือเชื่อ เรื่องชีวิต นี้เป็นความสามารถ ทางจิต เมื่อใจหยุดสนิท จิตก็ดับ

 นามรูปดับ
(ขยับมิติ)

นามรูป ดับได้ ไม่มีเหลือ
น่าเหลือเชื่อ เรื่องชีวิต
นี้เป็นความสามารถ ทางจิต
เมื่อใจหยุดสนิท จิตก็ดับ

เมื่อจิตดับ กลับเคลื่อนได้
สู่มิติใหม่ ที่สดใส ยิ่งกว่าเดิม
เป็นขั้นตอน สมาธิเพิ่ม
กลางของกลาง ที่เดิม เรื่อยไป
รูปคือกาย กายในกาย ซ่อนซ้อน
เมื่อใจละเอียดอ่อน เข้าถึง กายภายใน
ใจทำให้ละเอียด ขึ้นเรื่อยๆได้
กายยิ่งโตใหญ่ พร้อมอานุภาพ
กายทุกมิติ จะมีภพรองรับ
พร้อมกับ สมบัติ ที่เหมาะสม
กฎแห่งกรรม ทำหน้าที่ สุขหรือระทม
อย่างเหมาะสม เหมาะแท้ แน่นอน
ภพที่เวียนไปเกิด สังสารวัฏ
แบ่งกันชัด ด้วยมิติ
ไปมาหาสู่กันได้ ด้วยฤทธี
ผู้มีบารมี เข้าถึง พระธรรมกาย
กฎแห่งกรรมจัดวิบาก ประกบ
ประจำภพ หรือมิติ อัตตโนมัติ
แม้แต่การคิดพูดทำ ก็อยู่ในอาณัติ
วิบากจัด สรรพสัตว์ไม่เป็นอิสระ
เป็นพระธรรมกาย จึงได้อิสระ
ผ่านศูนย์กลางกายา จึงจะได้
นามและรูป เกิดดับๆ ถึงธรรมกาย
ทำพระนิพพาน ให้แจ้งได้ เป็นอิสระ

;;;;;;;;;; 

วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สมบัติเหมือนน้ำ (ไหลไม่มีหยุด) สมบัติเหมือนน้ำ ไหลไม่มีหยุด ฉุด ให้หยุดอยู่ ไม่ได้ อาจหยุดชั่วคราว กั้นไม่ไหว แม่น้ำใหญ่ ใหญ่ได้ ด้วยไหลเสมอ

 สมบัติเหมือนน้ำ
(ไหลไม่มีหยุด)


สมบัติเหมือนน้ำ ไหลไม่มีหยุด
 ฉุด ให้หยุดอยู่ ไม่ได้
อาจหยุดชั่วคราว กั้นไม่ไหว
 แม่น้ำใหญ่ ใหญ่ได้ ด้วยไหลเสมอ

ทรัพย์ ต้องให้ ต้องทาน
มิฉนั้น มัน วิบัติ
เดี๋ยวหมด แล้วจะอด ทุกภพชาติ
ไม่ประหลาด เป็นกฎแห่งกรรม
ภูเขาใหญ่ป่าใหญ่ ต้นน้ำ
ที่ฝนตกประจำ ไหลลงต่ำแจกจ่าย
ไปยังสายน้ำ น้อยใหญ่
แล้วรวมไหล ไปสู่แม่น้ำ ลงทะเล
ภูเขาใหญ่ป่าใหญ่ รักษาไว้ ต้นน้ำ
เหมือนศีลล้ำ ต้องรักษา
ศีลจึงเป็นต้นสมบัติ ไม่ธรรมดา
ใครรู้สึกว่า ทรัพย์มีปัญหา จงเช็คศีล
รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ประดุจต้นน้ำ
มีทรัพย์สมบัติ มาค้ำ อุปถัมภ์ชีวิต
เป็นไปตามกฎแห่งกรรม ธรรมลิขิต
เป็นความจริงของชีวิต อจินไตย
ทะเลมหาสมุทร สุดยิ่งใหญ่
นำเมฆฝน ตกใหญ่ ในป่าต้นน้ำ
และทั่วพื้นปฐพี มหาชน ชื่นฉ่ำ
เป็นประจำ ทำกับว่ามีจิตใจ
ทะเลมหาสมุทร ประดุจ สมบัติ
สมบัติจักรพรรดิ์ ไม่รู้จักหมดสิ้น
อยู่ภายในตน แปลกล้น เกินถวิล
ภาวนา เป็นอาจิน ทรัพย์ไหลมาเทมา

;;;;;;;;;;