แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนประเสริฐ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนประเสริฐ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567

ผู้มีปัญญา (ประเสริฐสุด) ผู้มีปัญญา รู้ได้ด้วยการสนทนา สงบสง่า กล่าววาจายกใจ มีตะบะ ทำผู้คนสงบได้ ผิวพรรณผ่องใส สว่าง

 ผู้มีปัญญา
(ประเสริฐสุด)

ผู้มีปัญญา รู้ได้ด้วยการสนทนา
สงบสง่า กล่าววาจายกใจ
มีตะบะ ทำผู้คนสงบได้
ผิวพรรณผ่องใส สว่าง

ปัญญา เจริญด้วยประการใด
ควรตั้งตนไว้ อยู่ในประการนั้น
ปัญญา คือชีวัน
ขาดปัญญา หมดกัน ชีวิต


ไม่ควร ประมาทปัญญา
ผู้ดื่มสุรา ชื่อว่าประมาท
อันตรายสุด ทิฏฐิมิจฉาชาติ
มีชีวาทในอบาย ไม่ได้เกิด

คนผู้สดับ ตรับฟังน้อยนี้
 ย่อมแก่ฟรี เหมือนวัวแก่

อ้วนแต่เนื้อ เอาไปแล่
แต่ ปัญญาแท้ ไม่เจริญ

ถึงสิ้น สินทรัพย์
ผู้มีปัญญา ก็ไม่อับจน
แต่ผู้อับปัญญา แม้มีทรัพย์เหลือล้น
 ก็อับจน ทนอยู่ ไม่ได้
ผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยความรู้
 เป็นผู้ ฉลาดรู้ จัดการงาน
รู้สมัย และรู้กาล
เขาย่อมทำงาน ในราชการได้
ผู้มีปัญญา ประเสริฐกว่าคนทั้งปวง
 พระจันทร์ เด่นล่วง ดาวทั้งหลาย
ด้วยมีศีลและธรรม ประจำใจ
ผู้มีปัญญาใส สว่างไสว ด้วยศีลธรรม

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

สัตบุรุษ (มนุษย์เหนือมนุษย์) ผู้ใด ใช้ทรัพย์จำนวนมาก ประกอบพิธีบูชาไม่ขาด ทุกวัน สม่ำเสมอตลอดร้อยปี สุดขยัน การบูชานั้น จะมีค่าอะไร

 สัตบุรุษ
(มนุษย์เหนือมนุษย์)

ผู้ใด ใช้ทรัพย์จำนวนมาก
ประกอบพิธีบูชาไม่ขาด ทุกวัน
สม่ำเสมอตลอดร้อยปี สุดขยัน
การบูชานั้น จะมีค่าอะไร

การยกย่อง บูชา
บุคคลที่ฝึกตนมา แล้วหนึ่งคน
แม้เพียงครู่เดียว ก็เหลือล้น 
ประเสริฐกว่าบูชาคน ไม่ฝึกฝนใจ
 คนเลวไม่ใช่ ชาติกำเนิด 
 คนประเสริฐ ด้วยการเกิด ก็หาไม่
 ความประพฤติไม่ดี ก็จัญไร
คนประเสริฐได้ ด้วยประพฤติ
สัตบุรุษ คนประเสริฐ
เกิดมา เพื่อชุมชน
มนุสสเทโว คนเหนือคน
 ชุมชุน..นั้นได้ชื่อว่าสภา
สัตบุรุษ ไม่ปราศัยเพราะอยาก
คนฟังชื่นใจนัก รักสงบ
สังคมอยู่เย็น ด้วยรักเคารพ
ไม่ใช่อยู่ด้วยประจบ ประแจง
ผู้พูดไม่เป็นธรรม ไม่ใช่สัตบุรุษ
คนดีสุด สัตบุรุษนั่นเอง
เป็นที่น่ารักน่าเคารพ น่ายำเกรง
เป็นคนเก่ง นำพามหาชนได้
สัตบุรุษ มีปัญญา
ศรัทธา ในบุญเต็มที่
 แสวงบุญสร้างบารมี สุดชีวี
 และ ทำพระนิพพานให้แจ้ง

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ฝึกตนได้ (ใช่คนประเสริฐสุด) ฝึกตนประเสริฐสุดในมนุษย์ทั้งหลาย พระจอมไตรได้ตรัส อย่างชัดเจน ฝึกตน คือฝึกใจ ให้เป็น หมดทุกข์เข็ญ เป็นมนุสสเทโว

 ฝึกตนได้
(ใช่คนประเสริฐสุด)

ฝึกตนประเสริฐสุด ในมนุษย์ทั้งหลาย
พระจอมไตร..ได้ตรัส อย่างชัดเจน
ฝึกตน คือฝึกใจ ให้เป็น
หมดทุกข์เข็ญ เป็นมนุสสเทโว

บัณฑิต คือผู้ฝึกตน คนฝึกใจ
มีสัจจะ จริงใจต่อตน ทนทำดี
ตั้งปณิธาน มุ่งมั่น สุดชีวี
แสวงบุญสร้างบารมี ทำพระนิพพานให้แจ้ง

มีทมะ ข่มตน ทนกิเลสตัณหา
ตลอดเวลา รักษาใจ ไว้ในตน
มีใจเป็นสุข หมดทุกข์ทน
พ้นจากวังวน เวียนว่าย

มีขันติอดกลั้น ฝ่าฟันอุปสรรค
มีใจไม่ออกจาก..ตน อดทนไว้
เกิดมาสร้างบารมี จะได้บารมีใหญ่
ปราบมารร้าย ตัณหาอุปาทาน

มีจาคะ สละกิเลสตัณหาหลุด
สิ้นสุด..กรรมเวร เป็นอิสระ
หนีพ้นกฎแห่งกรรม และกฎไตรลักษณ์
เข้าสู่ทางพระ ทางอริยะ เอกายนมรรค

ปุถุชนคนทั่วไป ไม่ฝึกตน
กระหายล้น ลาภยศสรรเสริญสุข
เหมือนปลาอยู่ในน้ำ ดำผุดสนุก
ทุกข์สุข ไม่ใส่ใจ ตายก็ธรรมดา

เกิดแก่เจ็บตายนั้น มันไม่ธรรมดา
มีที่มา เราไม่ใช่ไก่กา จะมาเฉย
รู้แล้วไม่แก้ไข ใช่ สุดโง่เลย
รักสะเบย ฝึกตน ทนกิเลสตัณหา

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ผู้ฝึกตน (คนประเสริฐ) บุคคล ไม่ควรลืมตน ลีมตัว ไม่เมามัว ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ลืมสติ หลงโลกีย์ ไม่พ้นทุกข์ รักสนุก ทุกข์ถนัด อ่อนหัดเหลือเกิน

 ผู้ฝึกตน
(คนประเสริฐ)


บุคคล ไม่ควรลืมตน ลีมตัว
ไม่เมามัว ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
ลืมสติ หลงโลกีย์ ไม่พ้นทุกข์
รักสนุก ทุกข์ถนัด อ่อนหัดเหลือเกิน

ตนนั่นแหละ เป็นที่รักยิ่ง กว่าสิ่งใด
ตนจริงไซร้ พระรัตนตรัย ในตัว
พระธรรมกายแก้วใส ไม่หมองมัว
เข้าถึงตัว..ให้ได้ เป้าหมายชีวิต

ผู้ประพฤติดี ฝึกตน ฝึกฝนเป็นนิจ
เป็นบัณฑิต เลิศล้ำ ความกตัญญู
มีสติปัญญา มีศรัทธา กว่าทุกผู้
มีสติอยู่..ภายในตน หนีพ้นตัณหา

ตนนั่นหละ เป็นที่พึ่งพาแห่งตน
การทำความดี ทุกคน ต้องทำเอง
ทำให้กันไม่ได้ แม้จะเก่งแสนเก่ง
ได้แต่เชียร์เท่านั้นเอง อย่าไปเล็งหาใคร

ชนะตน นั่นแหละดี เป็นที่สุด
ทำใจให้หยุด เป็นที่สุดแห่งบุญ
บุญมาปัญหาหมด 
บุญลดปัญหามาวุ่น
เร่งลุ้น สร้างบารมี หนีวัฏฏะ

เตรียมตนให้ดี ก่อนที่ จะได้สมปราถนา
ระวังไว้หนา อะไรที่ได้มา..ง่ายๆ
อย่าเป็นปลาหลงเหยื่อ มีแต่ตาย
ตัณหา พาตาลาย คนไร้สติ

รู้จักตน เป็นคนเช่นไร ไม่ธรรมดา
คนทั่วไปนั่นหนา รู้จักแต่ว่าคนอื่น
ความไม่ดีของตน ซ่อนไว้ ใต้พื้น
ส่วนของคนอื่น เพียงน้อย คอยตีแผ่

ผู้ฝึกตนประเสริฐสุด เหนือมนุษย์มนา
ขจัดกิเลสะ ในตน คนประเสริฐ
เป็นคนเทวดา ที่ทุกคนเทิด
คนประเสริฐ เกิดมา เพื่อมหาชน

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คนประเสริฐ (ล้ำเลิศปัญญา) อะไรหนอปกครองคน จึงสุขล้นพ้นทุกข์ เทวดาทูลถามองค์พระพุทธ ผู้หยั่งรู้ ปัญญานั่นหละ จะเป็นเครื่องอยู่ เว้นทุกข์ นำสุขสู่ พระผู้รู้ทรงตอบ

คนประเสริฐ
(ล้ำเลิศปัญญา)


อะไรหนอปกครองคน จึงสุขล้นพ้นทุกข์
เทวดาทูลถามองค์พระพุทธ ผู้หยั่งรู้
ปัญญานั่นหละ จะเป็นเครื่องอยู่
เว้นทุกข์ นำสุขสู่ พระผู้รู้ทรงตรัสตอบ

ปัญญา เป็นเช่นว่า ไฟส่องทาง
ผิดถูก รู้กระจ่าง ทางชีวิต
รักบุญ กลัวบาปสุดขีด
ปัจจามิตร แพ้ง่ายๆ แพ้ใจเมตตา

ปัญญา มีค่ามาก ไม่อาจจักประมาณค่า
เปรียบเป็นดังว่า แก้ว ของนรชน
หาซื้อไม่ได้ มีค่ามากมาย ยิ่งกว่าชีวิตตน
แต่ปุถุชน ไม่รู้สา ทำลายปัญญา อย่างน่าเสียดาย

ปัญญา สำคัญยิ่งกว่า..ทรัพย์
แต่ปุถุชนถึงกับ วิ่งหาทรัพย์ ดับปัญญา
คือหาทรัพย์โดยทุจริต และใช้ทรัพย์ทำชั่วช้า
ผิดศีลดื่มสุรา ทำลายปัญญาโดยตรง

ปราชญ์กล่าวว่า ชีวิตอยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด
ตามทางองค์พระพุทธ สุดสูงพระนิพพาน
เป็นทางประเสริฐ ทางสมบัติ ทางพ้นมือมาร
ทางพ้นคุกประหาร สังสารวัฏฏ์

คนปัญญาทรามได้ยศ ย่อมทำลายประโยชน์ตน
ย่อมเบียดเบียนคน ทั้งตน และคนอื่น
โง่แล้วขยัน ดึงดัน หน้ารื่น
มหาชนขมขื่น ยุคผีร้าย ทำลายเมือง

ปัญญาที่ประเสริฐ จะเกิดได้นั้น
 ต้องขยัน หมั่นประกอบความเพียร
หมั่นศึกษา หมั่นภาวนา ไม่หันเหียน
ความเป็นเซียน เป็นได้ อยู่ที่ตั้งใจปฏิบัติ

คนจะบริสุทธิ์สดใส ได้ด้วยปัญญา
ขจัดกิเลสะ หมดอาสวะ ที่หมักดอง
มีจิตใจงดงาม อร่องฉ่อง
หนึ่งไม่มีสอง เทวดาเดินดิน

ชีวิตที่ประกอบด้วยปัญญา ปราชญ์กล่าวว่า ประเสริฐสุด
มีความบริสุทธิ์ กายวาจาใจ
หนีพ้นกามคุณ ไม่วุ่นทางโลก ห่างไกล
สันโดษสมถะ สุขหลาย ธรรมสุข

ผู้มีปัญญา แม้ว่าคนเดียว รู้แจ้งในภาษิต
ประเสริฐกว่าหมู่มิตร ผู้คนทั้งหลาย
โดดเด่นเป็นสง่า กว่าใครๆ
การฝึกสติ นี้ไซร้ จึงสำคัญนัก

ผู้มีปัญญา ฆราวาส ย่อมทำประโยชน์มาก แก่หมู่ชน
เป็นขวัญกำลังใจเหลือล้น คนบูชา
คนใดมีปัญญา เพียงเข้าไปสนทนา
ก็จะรู้ได้ว่า รู้สา แค่ไหน

ทางเจริญของปัญญา จงรู้ว่า คือทางชีวิต
ดังนั้นสุดขีด  จึงต้องปฏิบัติธรรม ตามธรรม
ไม่ควรประมาทในปัญญา ขอตอกย้ำ
กฎแห่งกรรม หนักหลาย ไปอบายภูมิ

การฟังธรรม ก็เลิศล้ำ เกิดปัญญา
ใครไม่ฟังนั่นหนา ท่านว่า เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ
ไม่มีแก่นไม่มีสาระ น่าเวทนาเหลือ
ตายไปเป็นเบือ สู่อบาย

ผู้มีปัญญา แม้ว่าขาดทรัพย์ ก็อยู่ได้
มีความสุขใจ ไม่กลัวอะไร อยู่ได้ด้วยตน
ส่วนคนอับปัญญา ต้องพึ่งพาคน
สิ้นสมบัติ เมื่อขัดสน คนก็หนีหน้า

ผู้มีปัญญา เสียสละสุขส่วนตน อันเล็กน้อย
และทนรอคอย ความสุขอันไพบูลย์ ที่จะมา
ส่วนคนปัญญาทราม ทำตรงข้าม คือไม่เสียสละ
ด้วยเขาไม่รู้ว่า กำลังเบียดเบียนตน และคนอื่น

คนเขลาแม้มียศศักดิ์ ก็จักเป็นทาส ของผู้มีปัญญา
เมื่อเวลา มีปัญหา เซ่อซ่า ซมซาน ปานคนใช้
ต้องทำตามสั่ง ไม่สั่งก็เหมือนสั่ง ก้มหน้าทำไป
ไม่ทำไม่ได้ คล้ายทาสกรรมกร

ผู้มีปัญญา ไม่หลงไหล ในกามคุณ 
ที่ทำให้ใจหมกมุ่น ไม่รู้จักบุญคุณคน
เกิดสติสัมปชัญญะ หิริโอตัปปะ อายและกลัวเหลือทน
กลัวเหลือล้น จึงหนีพ้น เหมือนพระเตมีย์

ใจนิ่งใจหยุด เป็นที่สุด ของปัญญา
ทำลายนิวรณ์ห้า เหมือนตะวันออกมา พ้นหมู่เมฆ
การปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา จึงเป็นเอก
ปัญญามีคุณเป็นเอนก อันจะนับจะประมาณมิได้

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ถึงวันเกิด (คนประเสริฐน้ำตานอง) วันเกิด คนประเสริฐ เทิดคุณพ่อแม่ นึกถึงท่าน อบอุ่นแท้ ปีติล้นแปล้ น้ำตานอง อยากทำความดี บุญราศรี ให้กึกก้อง ให้เทวดาแซ่ซร้อง กึกก้องปฐพี

ถึงวันเกิด
(คนประเสริฐน้ำตานอง)

วันเกิด คนประเสริฐ เทิดคุณพ่อแม่
นึกถึงท่าน อบอุ่นแท้ ปีติล้นแปล้ น้ำตานอง
 อยากทำความดี บุญราศรี ให้กึกก้อง
ให้เทวดาแซ่ซร้อง กึกก้องปฐพี

บัณฑิต ผู้มีปัญญา มีกตัญญุตา หนุน
บูชาคุณ..ด้วย อัตตสุทธิ สุดที่จะประเสริฐ
เลิกสุรายาเมาบุหรี่ นั่งสมาธิ ทำตนอเลิท
บวชสนองคุณ ยิ่งประเสริฐ เลิศคน
อัตตสุทธิแท้ ดูให้แน่ ดูที่ปริสุทธิ
คือความบริสุทธิ์นี้ จะแผ่ไปที่ คนอื่นได้
เป็นแบบอย่าง ทางประพฤติ เพราะคนรักใคร่
 ความดี ขยายได้ ไปสู่คนรอบข้าง
คนกตัญญู อยู่ไม่ได้ สุดท้ายจะสังคหะ
คือสงเคราะห์ชาวประชา ให้อยู่เย็น
อยู่ไม่ได้ ที่เห็นใคร ยากเข็ญ
อยูไม่เป็น เห็นใครได้ทุกข์
ผู้มีคุณธรรม กตัญญู คือผู้รู้คุณ
ใจอ่อนละมุน เมื่อนึกถึงความการุณ ของท่าน
ใจนุ่มนวล ควรแก่การงาน
ความคิดอ่าน แคล่วคล่องว่องไว
 
 ปลดปล่อย ลอยไป อบายมุข
เลิกสนุก สิ่งบันเทิง ร่าเริงใจ
มีสติ ระลึกรู้ อยู่ภายใน
สุขใจหลาย จึงรักใน สังคหะ
 ทำให้พ่อแม่ปลื้ม ดื่มด่ำ มุทิตา
ยินดีปรีดา ด้วยบุญไหลมา ไม่ขาดสาย
หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรคภัย
ใจสว่างไสว เป็นอุเบกขา เทวดาเดินดิน
ครอบครัวอบอุ่นได้ ต้องใส่ใจ ดูแลท่าน
มีพระอรหันต์ ในบ้าน เรือนชานอยู่เย็น
ตั้งใจมั่น ดูแลท่านให้เป็น
พ้นทุกข์เข็ญ ด้วยบุญอนันต์ อันหาได้ยาก 
บุญนี่หละ พามีบุตร ดีเหลือใจ
เลี้ยงง่าย สอนง่าย เทพศักดิ์ใหญ่ ลงมาเกิด
จงกตัญญู ดูแลพระอรหันต์ในบ้านเถิด
พระดีพระประเสริฐ เกิดอยู่ใกล้ๆ
และด้วยกตัญญู จึงเป็นผู้ สงเคราะห์คู่ครอง
มีเมตตา รักษาปกป้อง ปรองดองกัน
ครอบครัวอยู่เย็น ไม่เดือดร้อน ทุกสิ่งอัน
ด้วยบุญกตัญญูอนันต์ ป้องกันรักษา
 
คนกตัญญู คือผู้มีปัญญา
รู้จักพิจารณา หากิจวัตรที่ดีงาม
รู้จักชีวิตเป็นของน้อย เหลือล้ำ
ม่ถลำตัว มัวเพลิน เดินทางมาร
จัดสรรเวลาถูก ทุกอนุวินาที มีแต่บุญ
เร่งลุ้น..สร้างบารมี หนีภัยวัฏฏะ
การงานไม่ค้่งค้าง ห่างไกลอกุศลา
สุขสมปราถนา นี่หละ ครอบครัวอบอุ่น

;;;;;;;;;;