วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ความไม่ประมาท (เป็นทางไม่ตาย) ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย บุญเป็นสาย ไหลมา ทางบุญ ทางสุขสมปราถนา ชาตเนี้ ชาติหน้า หรือชาติไหนๆ

 ความไม่ประมาท
(เป็นทางไม่ตาย)

ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย
บุญเป็นสาย ไหลมา
ทางบุญ ทางสุขสมปราถนา
ชาตินี้ ชาติหน้า ไม่ว่าชาติไหนๆ
ปราชญ์ รักษาความไม่ประมาทไว้
เหมือนได้ ทรัพย์ประเสริฐสุด
มีกรณียกิจ ทำใจนิ่งใจหยุด
เป็นที่สุด ของกิจกรณีย์
 
บัณฑิต สรรเสริญความไม่ประมาท
สติไม่ขาด จากใจ
ทำใจนิ่งใจหยุด อยู่ภายใน
ณ ศูนย์กลางกาย ของตน
บัณฑิต บันเทิงในความไม่ประมาท
สุขสมมาด สมปราถนา
ในทุกภพชาติ ที่เกิดมา
สุขอุรา เหลือล้น คนบัณฑิต
 
ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย
มีบุญเป็นสาย ไหลมา
สุขสมปราถนา ชาตินี้ หรือชาติหน้า
ผู้มีปัญญา จะไม่ ขาดสติ
ผู้ไม่ประมาท พินิจอยู่
ย่อมถึงสุข อันไพบูลย์
ทำใจนิ่งใจหยุด ที่จุดศูนย์ฯ
หมดอาดูลย์ เพิ่มพูนสุข
บัณฑิต ผู้ไม่ประมาท
ย่อมไม่ขาด ประโยชน์ทั้งสอง
ทั้งโลกนี้โลกหน้า รับรอง
ภัยทั้งผอง ไม่กลายกล้ำ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เราแก่กันไปทุกวัน (คำสอนหลวงพ่อฯ) เราแก่กันไปทุกวัน ร่างกายนั้น ก็เสื่อมไปๆ เราพร้อมที่จะต้องตาย ท่านได้..เตรียมพร้อมไว้ แล้วหรือยัง

 เราแก่กันไปทุกวัน
(คำสอนหลวงพ่อฯ)


เราแก่กันไปทุกวัน
ร่างกายนั้น ก็เสื่อมไปๆ
เราพร้อมที่จะต้องตาย
ท่านได้..เตรียมพร้อมไว้ แล้วหรือยัง

ความตาย ไม่มีนิมิตรหมาย
จะตายเมื่อใด ไม่รู้
จึงต้องไม่ประมาท ขณะที่อยู่
เป็นผู้..เตรียมพร้อม เสมอ
ความประมาท คือความตาย
ท่านว่าไว้ คือตายทั้งเป็น
ด้วยหลังตาย หาบุญไม่ได้ นั่นเอง
ปุถุชน เสงเครง ตายแล้วทั้งนั้น
ปุถุชน คนตายก่อนตาย
หาบุญได้ แต่ไม่หา
เพียงคิดดี เท่านั้นหละ
ก็จะ..ได้บุญมาง่ายๆ
เทวดา ท่านเวทนาปุถุชน
เสียดายล้น ความเป็นมนุษย์
หาบุญได้ แต่ไม่หา โง่สุดสุด
และความเป็นมนุษย์ ก็สุดยากจะเป็น
ปุถุชนเหมือนไก่เห็นพลอย
เขี่ยทิ้งจ้อย คุ้ยหาแต่อาหาร
ปุถุชน ก็เหมือนกัน
ได้ยินคำว่าบุญเท่านั้น ทำหน้าขันหัวร่อ
แสวงบุญสร้างบารมี กรณียกิจ
ทำพระนิพพานให้แจ้งสุดขีด บัญฑิตแท้
เข้าวัดปฏิบัติธรรม ไม่มีข้อแม้
นี่แหละ มนุสสเทโว

;;;;;;;;;;

ทำบาป(คือการฆ่าตน) อย่า ฆ่าตนเสียเลย ทำบาปจนเคย คนพาล น่าเวนา ฆ่าตนเสียอย่างงั้น จงขันติ อดกลั้น เว้นบาป

 ทำบาป
(คือการฆ่าตน)

อย่า ฆ่าตนเสียเลย 
ทำบาปจนเคย คนพาล
น่าเวนา ฆ่าตนเสียอย่างงั้น
จงขันติ อดกลั้น เว้นบาป
พึง รักษาตน 
เป็นคน ไม่ทำบาปกรรม
สละแม้ชีวิต ไม่กระทำ
กายวาจาใจ บริสุทธิ์ล้ำ กรรมดี
ไม่พึงสละตน หรือสละบุญ
จงเร่งลุ้น ทำบุญ ทำกรรมดี
เพื่อหนี นรกอเวจี
วัฏฏสงสารมี หนีคุกประหาร
บุคคล ไม่ควรลืมตน
ควรเป็นคน มีสติตั้งมั่น
ป้องกันบาป ตัวกลั่น
ที่กระสัน ทำลายล้างตน
ไม่ควรพร่า ประโยชน์ตน
เพราะประโยชน์คนอื่น แม้มาก
รักษาสติเสมอ มิอาจพราก
รู้จัก แสวงบุญ สร้างบารมี
ถ้ารู้ว่า ตนเป็นที่รัก
ควรรู้จัก ประกอบตน เป็นคนดี
ผู้กตัญญู รู้คุณบุญนี้
เป็นผู้ที่ พ้นอันตรายทั้งปวง
ติตนเอง เพราะเหตุใด
ไม่ควรทำเหตุนั้น
สติ เป็นคุณธรรม คุณอนันต์
เหมือนมารดาท่าน คอยดูแลบุตร

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567

อย่าประมาทในบาป (คำสอนยายฯ) ชีวิตเราเกิดคนเดียว ตายคนเดียว จะมัวเหลียว ห่วงหาใครไม่ได้ ตัวเราเอง ยังเอาตัวไม่ไหว ยังไม่มีที่ยึดที่เกาะแน่น

 อย่าประมาทในบาป
(คำสอนยายฯ)

ชีวิตเราเกิดคนเดียว ตายคนเดียว
จะมัวเหลียว ห่วงหาใครไม่ได้
ตัวเราเอง ยังเอาตัวไม่ไหว
ยังไม่มีที่ยึดที่เกาะแน่น

อาจเสียทีพญามาร เมื่อใดก็ได้
เกิดมาใหญ่ ได้พบพระพุทธศาสนา
ได้พบยอดวิชชา
 รีบขวนขวายในขณะ เมื่อยังหนุ่มสาว
 
ไม่รีบตอนนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อได
เมื่อแก่เกินไป จะทำอะไรไม่ได้
เรายังไม่รู้แน่ว่า จะตายเมื่อใด
เกิดตายปุ๊บปั๊บไป มิตกนรกหรือ

น่ากลัว เมื่อเกิดมาเป็นโมฆะ
เสียดายเวลา ในโลกมนุษย์
เราเกิดมาสร้างบารมี ได้สุดสุด
มีแต่บุญเท่านั้น ที่จะฉุด จะช่วยเราได้

บุญละเอียด เป็นบุญสำคัญมาก
เรายังรู้จัก ทำบุญละเอียดน้อยอยู่
เกิดมามีชีวิตต้องรู้
เกิดมาอยู่อย่างโมฆะ จะเกิดมาทำไม

เห็นแก่คุย เห็นแก่เล่น เสียเวลาเปล่า
เราได้อะไรบ้างเล่า ลองนึกดู
 ขาดทุนหรือกำไร ก็จะรู้
เราต้องอยู่ อย่างผู้มีบุญ

ระวังเอาไว้ บุญต้องรักษาให้ดี
ถ้ารักษาไม่ดี ไม่นึกถีง ไม่เอาใจใส่
บุญก็จะน้อย ไม่หลั่งไหล
จงนึกไว้ บุญก็จะไหลมา เรื่อยๆ

อนาคตจะหวังอะไร
อย่าหวังในรูป ในเสียง กลิ่นรสสัมผัส
จงคิดให้ดีก่อน รู้ให้ชัด
อย่าประมาท ในบาป

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ศีล ใจสูงใจใส (อยู่ในกาย) ศีล ใจสูงใจใส แต่อยู่นอกกาย ไม่ใช่พุทธศาสนา มีความสว่าง แต่ขาดสุขเมตตา นอก ศูนย์กลางกายา เมตตาไม่มี

ศีล ใจสูงใจใส
(อยู่ในกาย)

 ศีล ใจสูงใจใส
แต่อยู่นอกกาย ไม่ใช่พุทธศาสนา
มีความสว่าง แต่ขาดสุขเมตตา
นอก ศูนย์กลางกายา เมตตาไม่มี
พุทธภาวนา ศูนย์กลางกาย
แน่นอนได้ พุทธแท้
เป็นสัมมาสมาธิ นั่นแหละ
หมู่มารตามแก้ ตามกีดกัน
กายมนุษย์ จึงสุดสำคัญ
เป็นทางผ่าน ทางสายกลาง
มีพระรัตนตรัย มีจริงจัง
เป็นองค์พระ ใสสว่าง ธรรมกาย
ศีลนอกกาย ก็ใสสว่าง
แต่แปลกจัง ไม่สุขเมตตา
เหมือนตรอกตัน นั่นหละ
หลงคิดว่า ถึงที่พัก
พลอยคิดว่า พระนิพพานไม่มี
พระรัตนตรัยก็ดี ไม่มีเหมือนกัน
คงเป็น ตัวหนังสือเท่านั้น
ด้วยพุทธแท้นั้น มารปิดบัง
พุทธแท้ หายไป ตั้งแต่ ๕๐๐ปี
ที่ พระพุทธองค์ ปรินิพพาน
แต่ก็ยากหลาย ที่ใครจะเชื่ออย่างนั้น
น่าอัศจรรย์ หลวงปู่ฯท่าน เอาคืนมาได้
ศีล ใจใสใจสูง ในกาย
ถูกส่วนได้ ใจตกศูนย์
ความสว่างเจิดจ้า ทวีคูณ
สุขสมบูรณ์ ด้วยเมตตา

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ศีล (คนใจสูงใจใส) ศีล คนใจสูงใจใส มองข้ามได้ นิสัยร้ายๆของเขา เห็นแต่ความดี แม้มีน้อย ใจจึงเบา ส่วนความดีของเรา ก็ไม่อวด

 ศีล
(คนใจสูงใจใส)

ศีล คนใจสูงใจใส
มองข้ามได้ นิสัยร้ายๆของเขา
เห็นแต่ความดี แม้มีน้อย ใจจึงเบา
ส่วนความดีของเรา ก็ไม่อวด

ศีลดี จึงมีความเคารพ
มีความสะอาด น่าคบหา
มีเกียรติชื่อเสียง เลื่องลือชา
แม้เทวดา ก็ลงมาคุ้มครอง
ทานนั้น ปานว่าแม่น้ำใหญ่
ศีลนั้นใช่ ภูเขาใหญ่ต้นน้ำ
ทานกับศีล เป็นคู่อุปถัมภ์
ทาน มีศีลค้ำ จึงเรียกว่าทาน
ศีลใจสูงใจใส ไร้ตระหนี่
คอยคุ้มครองชีวี ให้ปลอดภัย
ภัยทุกชนิด ไม่กล้ำกลาย
ทั้งตน และคนอยู่ใกล้ เป็นสุข
รวมถึงธรรมชาติ สดใส
ภัยสงคราม โรคภัย สงบ
มหาชนอยู่ดีกินดี มีรักเคารพ
โลกทั้งภพ เป็นหนึ่งเดียว
ภูเขาใหญ่ ป่าใหญ่ สำคัญนัก
เป็นแหล่งฝนตกหนัก ประจำ
มรสุม นำเมฆใหญ่ คลึ้มดำ
สรรพสัตว์สุขล้ำ มีข้าวปลาอาหาร
เหมือนผู้มีศีล มีบุญนัก
จาก  พระนิพพาน
บุญเป็นอริยะทรัพย์ ทุกสิ่งอัน
คอยดลบันดาล ปานเทพเนรมิต

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ทาน (เครื่องหมายกตัญญู) ทาน เครื่องหมาย กตัญญู บัณฑิตผู้รู้ จึงอัตตสุทธิ ทำตนให้เป็นผู้ บริสุทธิ์ดี สังคหวัตถุสี่ เป็นนิสัย

 ทาน
(เครื่องหมายกตัญญู)

 
ทาน เครื่องหมาย กตัญญู
บัณฑิตผู้รู้ จึงอัตตสุทธิ
ทำตนให้เป็นผู้ บริสุทธิ์ดี
สังคหวัตถุสี่ เป็นนิสัย

ผู้มีบุญ คนกตัญญ
เป็นผู้ มีปัญญา มีศรัทธา
บุญเท่านั้น คู่ควรบิดามารดา
แม้ดูแลท่านร้อยปี บนบ่า ก็ตาม
กตัญญูต่อบุญ เป็นบัญฑิต
คนพาลโง่สนิท ขาดปัญญา
บุญติดตามอุปถัมภ์ ค้ำชีวา
กตัญญูต่อบิดามารดา ต้องแสวงบุญ
บุญของบุตร จะฉุดบิดามารดา
ขึ้นชั้นฟ้า สวรรค์
การแสวงบุญ จึงสำคัญ
การบำเพ็ญทาน เป็นเบื้องต้น
กตัญญู คุณธรรมใหญ่
ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
ไม่ใช่เรื่อง พอดีพอร้าย
แต่ คอขาดบาดตาย ทีเดียว
การบำเพ็ญทาน เป็นเบื้องต้น
เป็นเครื่องหมาย ของคน กตัญญู
ปุถุชน ไม่รู้
แถมยังเป็นศัตรู กับวัด อีกด้วย
ดังนั้นบำเพ็ญทาน ขจัดกิเลสตระหนี่
ดับตัณหามากมี ในตัวตน
หลุดพ้นภาวะ ปุถุชน
เป็นบัณฑิตคน พ้นอกตัญญู

;;;;;;;;;;