วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ช่วยญาติ (ไม่ขาด สร้างบารมี) จริงหรือเท็จ โทษก็สำเร็จ ด้วยตนเองรู้ บาปวิ่งกรู เข้าสู่ใจ ได้ชัยชนะ ควบคุมบังคับ ดับสุข ใส่ทุกขา กิเลสตัณหา ฟูฟ่อง ร้องไชโย

 ช่วยญาติ
(ไม่ขาด สร้างบารมี)


จริงหรือเท็จ โทษก็สำเร็จ ด้วยตนเองรู้
บาปวิ่งกรู เข้าสู่ใจ ได้ชัยชนะ
ควบคุมบังคับ ดับสุข ใส่ทุกขา
กิเลสตัณหา ฟูฟ่อง ร้องไชโย

กิเลสตัณหา ได้ท่า พาเพลินโลกีย์
ลืมวันลืมคืน ลืมชีวี ลืมตาย
สิ้นสติ กระหายอยาก อดไม่ได้
กลายเป็นมารร้าย ทำลายสังคม

ตัณหาสุดร้าย ทำลายชีวิต
ประมาทสุดจิต ไม่กลัวอบาย
ไม่เชื่อคำพระ ช่างเป็นไปได้
กลับไปเชื่อ พาลจัญไร โอ้หนอ

ในโลกนี้ คนติดตัณหา อย่างกะว่าเล่น
ส่วนคนไม่ติด เป็น..คล้าย แปลกปลอม
คนเข้าวัด ดูประหลาด หน่อมๆ
คนดี ถูกคนพาลล้อม แปลกดี

โลกโลกีย์ มีพลังอย่างยิ่ง
กิเลสตัณหา เข้าสิง เป็นลิงหลอกจ้าว
หน้าตาเหมือนคน แต่ไม่รู้เรื่องราว
กินปลา กินข้าว แต่ไม่เอาความดี

พระพุทธองค์ตรัส ล้วนเป็นญาติของเรา
น่าเศร้า ต้องโทษตัวเรา ที่ด้อยบารมี
ไม่สามารถช่วยญาติ ให้สุขี
ต้องรีบเร่งสร้างบารมี สุดชีวีต่อไป

;;;;;;;;;;

คนดี (ที่โลกต้องการ) คนดี ที่โลกต้องการ มีคุณธรรมพื้นฐาน เคารพ วินัย และอดทน น่าศึกษา น่าฝึกฝน ทางนี้ทางเดียวฝึกตน เปี่ยมล้น สุขสำเร็จ

 คนดี
(ที่โลกต้องการ)


คนดี ที่โลกต้องการ
มีพื้นฐาน เคารพ วินัย และอดทน
น่าศึกษา น่าฝึกฝน
ทางนี้ทางเดียวฝึกตน เปี่ยมล้นสุข

ความเคารพ ไม่เพียงน้อมนบ กราบไหว้
สำคัญหลาย ตระหนักในดี ที่เขามีอยู่
ซึมซาบ ยอมรับความดี ของทุกผู้
ขนลุกซู่ ใจปีติ ยินดีหลาย

คุณธรรมเคารพ คล้ายๆประจบเอาใจ
แต่ไม่ใช่ ต่างกันไกล ต้องใช้ปัญญา
เห็นความดี ที่เป็นบุญวาสนา
แสนสุขอุรา ไม่อิจฉา ตาร้อน

ความเคารพ สบใจ เป็นที่รักใคร่ของผู้รู้
ไม่อาจอยู่..นิ่งได้ ขยับขยาย แบ่งปัน
ความเคารพ จึงเป็นคุณธรรมสำคัญ
ที่ต่างจากคนพาล ดื้อรั้นอวดดี

แม่น้ำทุกสาย ไหลลงสู่ทะเล
ทะเลไม่ได้ทำเท่..หัวสูง แต่ทำตัวต่ำ
เหมือนผู้มีความเคารพ น้อมนบนำ
ทำตัวต่ำ รับความรู้

วินัย เครื่องกลั่นกายวาจาใจ ให้ใสบริสุทธิ์
เป็นเสน่ห์ ของมนุษย์ สุดนิยม
 ประดุจเด็กเกิดใหม่ คนใส่ใจบรม
สุดนิยม รักใคร่ คุ้มครอง

พระผู้มีวินัย มหาชนขวนขวายบำรุง
 มีจิตมุ่ง..มารักษา ดูแล
ไม่มาไม่ได้ ด้วยความรักใคร่ นั่นแหละ
เหมือนมารดาแม่ รักแท้ รักบุตรน้อย

วินัย นั้นใช่ เกราะและอาวุธสุดวิเศษ
ใครก่อเหตุทำร้าย เหมือนได้ฆ่ามารดา
หนักแผ่นดินแผ่นฟ้า
ลูกทรพา มหาชน ทนไม่ได้

เมื่อมีวินัยดี ชีวีจะดูดีไปหมด
ความกำศรต..โศกเศร้า หดหาย
สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้
มีกินมีใช้ สบายอุรา

มีความอดทน เป็นผู้เลิศล้นน้ำใจ
สอนตนได้ ไม่มีท้อแท้ท้อถอย
แสวงบุญสร้างบารมี ไม่มีคล้อย
เหมือนน้ำหยด ทีละน้อย เป็นหินย้อย สวยงาม

คุณธรรมอดทนอดกลั้น ฝ่าฟันปัญหา
หมู่พาลา ไม่รอหน้า หนีหาย
แพ้บารมี แพ้ภัยตน ทนอยู่ไม่ได้
นี่แหละใช่ อานุภาพ คนดีที่โลกต้องการ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ตนเป็นที่พึ่งของตน (คนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ เป็นที่พึ่งพา พระผู้บรรลุธรรมาภิสมัย ศักดิ์สิทธิ์ คนทั้งหลาย ใฝ่หา ผู้เลิศฤทธิ์ ขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตเจริญ

ตนเป็นที่พึ่งของตน
(คนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์)


สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ เป็นที่พึ่งพา
พระผู้บรรลุธรรมาภิสมัย ศักดิ์สิทธิ์
คนทั้งหลาย ใฝ่หา ผู้เลิศฤทธิ์
ขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตเจริญ

พระสัมมาฯ ตรัสว่า ตนเป็นที่พึ่ง
แต่คน ก็ยังขอถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ์
อันคล้าย พระอาทิตย์
ส่องรัศมีอยู่เป็นนิจ ไม่ว่างเว้น

 การพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นกิจของเรา
สำคัญที่เจ้า เอาแต่ร้องขอ
เหมือนคนตกน้ำ ได้แต่ทำมืองอ
ขอแล้วขอ ไม่ยอมจับเชือก

ตนเป็นที่พึ่งของตน กิจที่คนขอพึงทำ
เลิศล้ำ ฝึกตน อดทนอดกลั้น
ตนเป็นที่พึ่งของตน ที่แท้นั้น
อย่าหลงมัน มีก็สักแต่มี สิ่งภายนอก

การพึ่งตน คนมีภาชนะดี รองน้ำฝน
ดีล้น เป็นภาชนะ ปากกว้าง
บำเพ็ญทานบารมี สุดกำลัง
ยิ่งให้ก็ยิ่งกว้าง อย่างแม่น้ำ

มีภาชนะปากกว้าง ยังไม่พอ
ต่อด้วย ไม่รั่วไม่ร้าว คงทนสะอาด
นั่นคือ ฝึกตนมีศีล ไม่ขาด
มีมารยาท หยดย้อย สอยใจคน

มีภาชนะดี อย่างนี้ ก็ยังม่พอ
ยังมีต่อ คือ ตั้งหงาย ไว้นิ่งๆ
นั่นคือภาวนาเจริญสติ ได้ปีติจริงๆ
สุขอย่างยิ่ง เกิดศรัทธา ปสาทะ

การเจริญสตินี้เลิศ เกิดปัญญา
ใจไม่มืดหนา เห็นทางเจริญ
เป็นสัมมาทิฏฐิ อดกลั้น ความเพลิน
จึงได้เดินทางถูก ทานศีลภาวนา

;;;;;;;;;;

ผู้เลิศล้ำ (มีธรรมเป็นที่พึ่ง) :: พระเจ้าจักรพรรดิ์ ราชา มวลมนุษย์ ธรรมเลิศสุด ราชา ของจักรพรรดิ์ พระพุทธองค์ ทรงตรัส ส่ำสัตว์ มีธรรม เป็นราชา


ผู้เลิศล้ำ
(มีธรรมเป็นที่พึ่ง)

พระเจ้าจักรพรรดิ์ ราชา ของมวลมนุษย์
ธรรมเลิศสุด ราชา ของจักรพรรดิ์
 พระพุทธองค์ ทรงตรัส
 ส่ำสัตว์ มีธรรม เป็นราชา
  

พระพุทธองค์ ก็ทรงเคารพธรรม
ธรรมสูงส่ง ดำรงเหนือ ทุกผู้
เคารพธรรม ประพฤติธรรม นำสุขสู่
คนทุกผู้ ที่ฉลาด จึงปฏิบัติธรรม

เกิดมา ประพฤติธรรม
จงนำ ธรรมดำรง คงอยู่คู่ชีวิต 
จะสมปราถนา ได้ดังจิต
ชีวิตไม่ยาก หากเคารพธรรม

ธรรม คือความบริสุทธิ์
กิเลสหลุด บริสุทธิ์เกิด
ทานศีลภาวนา ล้ำเลิศ
เกิดธรรม คือบุญ ค้ำจุนชีวิต

ธรรม เป็นอัตตา ตัวตน
ตนพึ่งตน คนพึ่งธรรม
ธรรมะ ชนะ อธรรม
ผู้เลิศล้ำ มีธรรม เป็นที่พึ่ง

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ฝึกตนได้ (คือหยุดใจไว้ในตน) เมื่อฝึกตนได้ จึงควรไปฝึกคนอื่นด้วย จะสวย เมื่อมีดี แล้วแบ่งปัน เหมือนความสว่างไสว ของดวงตะวัน งามเฉิดฉัน ด้วยแบ่งปัน ความสว่าง

ฝึกตนได้
(คือหยุดใจไว้ในตน)


เมื่อฝึกตนได้ จึงควรไปฝึกคนอื่นด้วย 
จะสวย เมื่อมีดี แล้วแบ่งปัน
เหมือนความสว่างไสว ของดวงตะวัน
งามเฉิดฉัน ด้วยแบ่งปัน ความสว่าง

คุณธรรมจาคะ คือไม่ตระหนี่ ความดีของตน
ความหลุดพ้น..แท้ ได้แก่ แผ่ออกไป
ฝึกตนได้ นิ่งเฉย นั้นไม่ใช่
เมื่อปีติดีใจ นิ่งเฉยไม่ได้ มันเป็นไปเอง

ความดีนี่แปลกประหลาด ไม่อาจตระหนี่
การทำทานจึงมี นี้เป็นธรรมดา
ด้วยใจปีติ เกิดมีศรัทธา
ดังนั้น การเจริญภาวนา อุปการะชีวิต

ใจนิ่งใจหยุด ได้บุญหลาย ใจปีติจะมา
อยากเข้าวัดเข้าวา มาแสวงบุญ
บัณฑิต ฝึกตน ฝึกใจจนคุ้น
จึงแสวงบุญ สร้างบารมี เป็นนิสัย

สัมมาสมาธิ มีใจปีติ เป็นเครื่องหมาย
สมาธินอกกาย ไม่ได้ปีติ
ได้แต่ความสว่าง กระจ่างดี
ความเมตตาไม่มี เหมือนฤาษีชีไพร

นักคิดค้นทั้งหลาย ก็คล้ายฤาษี
ใช้สมาธินอกกายี ประดิษฐ์คิดค้น
คิดค้นได้ หาประโยชน์ใส่ตน
สมาธินอกตน..นี้ คนตระหนี่ มีตัณหา

คนฝึกตนได้ จึงมิใช่ธรรมดา
เป็นบัณฑิตตา รู้จักฝึกใจ อยู่ในตน
หนีกระแสตัณหา นอกกายา พ้น
ปีติเหลือล้น จึงขวนขวาย ให้ปัน

;;;;;;;;;;


วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ฝึกตนได้ (ใช่คนประเสริฐสุด) ฝึกตนประเสริฐสุดในมนุษย์ทั้งหลาย พระจอมไตรได้ตรัส อย่างชัดเจน ฝึกตน คือฝึกใจ ให้เป็น หมดทุกข์เข็ญ เป็นมนุสสเทโว

 ฝึกตนได้
(ใช่คนประเสริฐสุด)

ฝึกตนประเสริฐสุด ในมนุษย์ทั้งหลาย
พระจอมไตร..ได้ตรัส อย่างชัดเจน
ฝึกตน คือฝึกใจ ให้เป็น
หมดทุกข์เข็ญ เป็นมนุสสเทโว

บัณฑิต คือผู้ฝึกตน คนฝึกใจ
มีสัจจะ จริงใจต่อตน ทนทำดี
ตั้งปณิธาน มุ่งมั่น สุดชีวี
แสวงบุญสร้างบารมี ทำพระนิพพานให้แจ้ง

มีทมะ ข่มตน ทนกิเลสตัณหา
ตลอดเวลา รักษาใจ ไว้ในตน
มีใจเป็นสุข หมดทุกข์ทน
พ้นจากวังวน เวียนว่าย

มีขันติอดกลั้น ฝ่าฟันอุปสรรค
มีใจไม่ออกจาก..ตน อดทนไว้
เกิดมาสร้างบารมี จะได้บารมีใหญ่
ปราบมารร้าย ตัณหาอุปาทาน

มีจาคะ สละกิเลสตัณหาหลุด
สิ้นสุด..กรรมเวร เป็นอิสระ
หนีพ้นกฎแห่งกรรม และกฎไตรลักษณ์
เข้าสู่ทางพระ ทางอริยะ เอกายนมรรค

ปุถุชนคนทั่วไป ไม่ฝึกตน
กระหายล้น ลาภยศสรรเสริญสุข
เหมือนปลาอยู่ในน้ำ ดำผุดสนุก
ทุกข์สุข ไม่ใส่ใจ ตายก็ธรรมดา

เกิดแก่เจ็บตายนั้น มันไม่ธรรมดา
มีที่มา เราไม่ใช่ไก่กา จะมาเฉย
รู้แล้วไม่แก้ไข ใช่ สุดโง่เลย
รักสะเบย ฝึกตน ทนกิเลสตัณหา

;;;;;;;;;;

พูดเจาะใจได้ (ใช่ วาจาสุภาษิต) คนฉลาดมีปัญญา แกล้งทำเป็นว่า โง่ ไม่อยากโชว์ ความฉลาด ไม่บังอาจ สอนใคร พิจารณาให้ดี ก่อนเอ่ยวจี ออกไป มิฉนั้นจะกลาย เป็นอวดรู้ อวดฉลาด

พูดเจาะใจได้
(ใช่ วาจาสุภาษิต)


คนฉลาดมีปัญญา แกล้งทำเป็นว่า โง่
ไม่อยากโชว์  ความฉลาด ไม่บังอาจ สอนใคร
พิจารณาให้ดี ก่อนเอ่ยวจี ออกไป
มิฉนั้นจะกลาย เป็นอวดรู้ อวดฉลาด

วาจาสุภาษิต พูดแล้วคนติด ใจ
ปากมีไว้ ใช้พูด วาจา สุภาษิต
ปากมีประโยชน์มาก ถ้ารู้จัก คิด
หยุดสักนิด คิดแล้ว ค่อยพูด
 

ฟังเก่ง ด้วยเกรงใจ จึงให้ ความเคารพ
ใจน้อมนบ นุ่มนวล พูดสิ่งที่ควร ออกไป
สำคัญยิ่ง คนใหญ่จริง รู้จักเกรงใจ 
ลูกน้องรักใคร่ ให้ความรัก ความนับถือ

พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง
เป็นภาษิตของ คนโบราณ นานมาแล้ว
สอนให้นิ่ง ดียิ่งกว่า พูดแจ้วๆ
คนเขาเบื่อเป็นแถว ฟังแล้ว ไม่สะบาย

ท่านรู้หรือไม่ สอนคนได้ โดยไม่ต้องพูด
นั่งนิ่งๆดีสุด สงบสง่า ก็น่าเลื่อมใส
ถึงเวลาอันควร ค่อยพูดนุ่มนวล ออกไป
ศรัทธาจะเกิดได้ ใจต้องใส พูดเจาะใจคน

;;;;;;;;;;