พุทธทำนาย (ประชาธิปไตยจะเบ่งบานจัง):: ประชาชน จะเป็นใหญ่ พระราชาไท้ จะอยู่ว่าง

พุทธทำนาย

(ประชาธิปไตยจะเบ่งบานจัง)
ข้อ๗-๑๖

พุทธทำนาย: มีกระทาชาย

ฝั้นหนังเสือได้ หย่อนใส่ ในช่องพื้น

สุนักจิ้งจอกหน้าชื่น

ระเริงรื่น กัดกินจนหมด

ต่อไปภายหน้า

เหล่าอำมาตยา

จะเข้าไปบังบด พระราชา

จนปรากฎว่า เป็นปัญหาใหญ่

พุทธทำนาย: มีโอ่งเล็กโอ่งใหญ่

ตั้งไว้ ชิดใกล้กัน

แต่ช่าง ดูลำเอียงเช่นนั้น

คนขยัน เพียรเทน้ำนั้น ใส่ตุ่มใหญ่

เทล้นแล้วล้นอีก

แต่ยังไม่หลีก เทอีก เทลงไป

ที่อนาคตอันไกล

คนศักดิ์ใหญ่ จะมีคนเอาใจ สารพัด

พุทธทำนาย:สระใหญ่ มีน้ำใสล้อมรอบ

ตีกรอบ น้ำขุ่นข้น 

แต่น่าฉงน

มีสัตว์สาละวน อยู่กับน้ำข้นขุ่น

สัตว์ทั้งสิ้น

ดื่มกิน ชุลมุน

สนใจแต่น้ำขุ่น

ชลมุน ชุลเก

ต่อไปภายหน้า

คนจะหากิน ไม่บริสุทธิ์

เหล่าคนพาลปักหมุด

ฮั้วกันอุตลุด แบ่งกัน

มือใครยาว สาวได้สาวเอา

อย่างเมามัน

เหล่าอำมาตย์จัดสรร

แบ่งประโยชน์กัน อุตลุด

พุทธทำนาย:ข้าวหม้อเดียวกัน

สุกไม่เท่าทัน อยู่กันคนละซีก

ต่อไปอีก ในภายหน้า

มีศรัทธา ไม่เสมอ

ฝ่ายหนึ่งว่าดำ อีกฝ่ายว่าขาว 

และมีฝ่ายว่าเทา ดูเลอะเทอะ

ยิ่งนานไปยิ่งเปรอะ

 เลอะเทอะ มิจฉาทิฏฐิดิ่ง วิ่งลงต่ำ

พุทธทำนาย:เห็นคนพวกหนึ่ง

นำเอาจันทร์แดงซึ่ง ราคาแพง

นำไปยังแหล่ง

แห่งที่แลกนมเปลี้ยว เพียงหนึ่งหม้อ

ต่อไปภายหน้า จะมีการค้า

ที่เรียกว่า พุทธพาณิชย์ล่ะหนอ

เอาเข้าพกเข้าห่อ

ขอเพียงให้ได้  อย่างไม่เกรงกลัว

พุทธทำนาย:น้ำเต้าเปล่ากลวงใน

ควรจะลอยได้ กลับจม

ทุกข์ระทม

จะถมทับ กับคนดี มีวิชา

กลายเป็นกาฬกินี

ไม่เป็นที่ต้องการ ของชาวประชา

แม้ว่าเป็นพระ

จะถูกตราหน้า ไม่ละเว้น

พุทธทำนาย:มีก้อนศิลาใหญ่เท่าเรือน

เคลื่อนไหว ไหลลอยเลื่อนได้

เวลาสิ้นศาสนา เข้ามาใกล้

มีคนจัญไร มากหลาย เต็มเมือง

คนพาลถูกยกยอ มีอำนาจ

เด็ดขาดหลาย

พระก็วายร้าย

แปลงกาย เข้าหากิน

พุทธทำนาย:มีเขียดน้อย ไล่ฟัด

กัดกิน งูใหญ่

ต่อไปภายหน้า พระทั้งหลาย

จะหลงไหล ลาภยศ

ปล่อยตัวปล่อยใจ ให้สตรีน้อย

ใช้สอย ปรากฎ

เป็นความอัปยศ

ของศาสนา คราใกล้สิ้นสุด

พุทธทำนาย:มีฝูงหงส์

ลงห้อมล้อม นอบน้อม ต่ออีกา

ต่อไปภายหน้า พระน้อยใหญ่นานา

จะอยู่ใต้เฉพาะพระ ทุศีล

หาเลี้ยงอัตภาพ

ถึงกับ ทำมาหากิน

พระเป็นใหญ่ ทุศีล

ผินหน้าหา อธรรม

พุทธทำนาย:มีฝูงแพะ

แต่เก่งแท้ จับแม้แต่เสือ มาเคี้ยวกิน 

ต่อไปภายหน้า พระราชาบดินทร์

จะถูกชาวประชาทั้งสิ้น บดบัง

ประชาชน จะเป็นใหญ่

พระราชาไท้ จะอยู่ว่าง

ประชาธิปไตยเบ่งบานจัง

กระทั่งว่า พระราชาอยู่ไม่ได้

;;;;;;;;;;

บุญเกื้อหนุน (เลี้ยงชีวี มิมียาก) :: บุญมาปัญหาหมด บุญลด ปัญหามา สอนให้รู้ว่า บุญนี่หนา หมดได้

บุญเกื้อหนุน

(เลี้ยงชีวี มิมียาก)

บุญมาปัญหาหมด

บุญลด ปัญหามา

สอนให้รู้ว่า

บุญนี่หนา หมดได้

ให้รีบแสวงบุญ

สร้างบารมี โดยเร็วไว

ทำได้ง่ายๆ

เพียงเอาใจ จรดไว้ที่ศูนย์ฯ

อนึ่ง ความอดทน

ก่อเกิดบุญกุศลใหญ่ ได้บารมี

พลิกผันชีวี

ที่ดูแย่ แต่กลับฟื้น

ท้องฟ้าแจ่มใส

หลังฝนตกใหญ่ ระเริงรื่น

จึงอย่าตื่น

เมื่อพบปัญหา ใจกล้าสู้มัน

ปัญหาจะมาเมื่อใด

ใครๆ รู้ได้ยาก

เพราะกรรมเราทำไว้หนัก

ทั้งมาก ทั้งน้อย

เหมือนคลื่นทะเล วิ่งสู่ฝั่ง

เหมือนดัง ทะยอย

เหมือนสุนักล่าเนื้อไล่สอย

ไม่ปล่อย วาง

เมื่อยามยาก ให้รู้จักขันติ

มีความอดทน

ไม่มีบ่น

ทนฝึกสมาธิ ใจจรดที่ศูนย์

ทำสองอย่างนี้

ประคองชีวี สั่งสมบุญ

บุญเกื้อหนุน

อบอุ่นแท้ แน่ใจได้

ทุกอนุวินาที

เราเลี้ยงชีวี ด้วยบุญ

บุญเกื้อหนุน

เลี้ยงชีวี มิมียาก

ให้รีบขวนขวาย

ประมาทมิได้ ถ้าไม่อยากลำบาก

ได้บุญนัก

ถ้าหากได้เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

;;;;;;;;;;

สุขสมปราถนา (แสวงหาสติสบายสม่ำเสมอสังเกต):: สติมาคู่กับสบาย สติขาดไม่ได้ ยิ่งกว่าตายนัก ดังนั้นจงพิทักษ์ รักษาสติ ยิ่งกว่าชีวีตน

สุขสมปราถนา

(แสวงหาสติสบายสม่ำเสมอสังเกต)

สติมาคู่กับสบาย

สติขาดไม่ได้ ยิ่งกว่าตายนัก

ดังนั้นจงพิทักษ์

รักษาสติ ยิ่งกว่าชีวีตน

สติดี เหมือนผู้ที่ รักครอบครัว

ไม่มัวเมาลุ่มหลงภายนอก

ไม่เป็นคนนอกคอก

ลวงหลอกผู้คน

ด้วยใจ ทนไม่ได้ อยู่นิ่งๆ

ต้องวิ่ง หาสิ่งพอใจตน

หนีความเบื่อหน่ายซึมเซ็งให้พ้น

จึงดิ้นรนออกไป

เป็นอาการสติขาด

ความฉลาด หดหาย

มีความกระวนกระวาย

ติดใจในรส กามคุณ

ดังนั้นการมีสติดี

จึงมีคุณสุดประมาณ

รักษาใจ มิให้พลุ่งพล่าน

ไม่ร้อนร่าน ให้อยู่นิ่งๆในตัว

การมีสติ คือตรึกและแตะ

ตรึกนั่นแหละ คือนึกเบาๆ

แตะพอเลาๆ

พอใจเอา เป็นใช้ได้

ตรึกแตะที่อารมณ์

ที่เข้ามาข่ม มาขู่ใจ

จะมืดหรือสว่างอย่างไร

ให้ ตรึกและแตะ

เช่นอารมณ์โกรธเกลียดน้อยใจ

หรืออารมณ์ใคร่ โลภหลง

เอาความรู้สึก ตรึกแตะลง

ใจของเราจะโปร่ง โล่งเบา

ใจจะนิ่งแน่น ปีติ

อันเป็นสัญญาณที่ ถูกต้อง

ต่อไป เพียงประคับประคอง

ให้ใจไม่เป็นสอง แต่เป็นหนึ่ง

ใจจะพัฒนาไปเรื่อย ถ้าสติดี

แต่ยากเหลือที่ จะดีตลอด

ด้วยสติ ยังไม่ดีปลอด

มีความอยากสอด เข้ามาวุ่น

ความสบาย หดหายด้วยอยาก

ใจเริ่มกระอักกระอ่วน

ตึงเครียด ไม่ม่วน

ใจเรรวน ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ

สมาธิต้องกลับ มานับหนึ่งใหม่

เข้าออกเข้าออก นับครั้งไม่ได้

สม่ำเสมอเข้าไว้

อย่าทิ้งไปก็แล้วกัน

ความสม่ำเสมอ นี้สำคัญ

มิฉนั้น มันจะยืดยาวออกไป

เหมือนกับสีไฟ

ไฟจะลุกไหม้ได้ ต้องไม่ขาดตอน

สุดสำคัญอีกอันที่ขาดไม่ได้

มิฉนั้น มันไปไม่รอด

นั่นคือรู้จักสังเกต หาเหตุไปตลอด

เหตุให้อารมณ์ปลอด สงบสบาย

อย่าดันทุรัง ซังกะตาย

อย่าเสียดาย ให้เริ่มต้นใหม่

หาอารมณ์สบาย ไม่มีสาย

เอาสบายเป็นหลัก ประสพการณ์เป็นรอง

มีอารมณ์สบายง่ายๆ

ถ้าใจเรา รัก เคารพ บูชา

ดังนั้นไม่อาจทิ้งทานศีลภาวนา

และใช้ชีวา สามน้อยหนึ่งมาก

;;;;;;;;;;

ซื่อกินไม่หมด (คดกินไม่นาน) :: คำโบราณ ยืนยัน รู้ให้ทัน ชีวิต

ซื่อกินไม่หมด
(คดกินไม่นาน)

ซื่อกินไม่หมด

คด กินไม่นาน

คำโบราณ ยืนยัน

รู้ให้ทัน ชีวิต

อย่าหลงกลมาร

อย่าเชื่อคนพาล เข้าใจผิด

ว่าความซื่อสัตย์ สุจริต

ไร้ฤทธิ์ ไร้เหตุผล

ทำดีย่อมได้ดี

นี้เป็นกฎแห่งกรรม

กฎแห่งการกระทำ

กฎของธรรมชาติ

 คนชั่ว ประมาท

ไม่คิดคาด ว่ามีกฎแห่งกรรม

จึงปล่อยตัวถลำ

ยียำ ชีวิต

เหมือนเอาก้อนหินถ่วงตน

คนสิ้นคิด

ทำบาปแม้นิด 

กรรมอำมหิต ตามติด ไม่จบสิ้น

คนคดกินไม่นาน

ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

แน่นอน หลังตาย บาปรุมที้ง

ชีวิตถึงบางอ้อ แต่ก็สายเสียแล้ว

คนซื่อกินไม่หมด

แต่อาจอด ในชาตินี้

ตั้งใจทำแต่กรรมดี

ขอจนชาตินี้ชาติเดียว

คนซื่อ ถือสันโดษมักน้อย

กินน้อยใช้น้อย แต่ไม่ถอยบุญ

มีชีวิตสมดุลย์

ครอบครัวอบอุ่น สุขสมบูรณ์ทุกประการ

คนซื่อ ไม่ใช่ซื่อบื้อ

หรือ เถรตรง

อย่าไปหลง

ว่าซื่อบื้อ คือซื่อสัตย์

ตรงต่อความดี

ด้วยปัญญามี ต่างกันชัด

สุจริต ซื่อสัตย์

ไม่อ่อนหัด แต่ดัดนิสัยตน

ความซื่อ คือไม่คด

ไม่ทรยศ ทำร้าย

วันนี้วันหน้า รับรองได้

ไม่ว่าใครๆ ทั้งต่อหน้าลับหลัง

  

 คนซื่อ หรือทองคำแท้

ไม่เปลี่ยนแปร เป็นอื่น

จะยืนยงยั่งยืน

ไม่กลายเป็นอื่น ตลอดกาล

คนสัตย์ซื่อ จึงมีค่านัก

คนอยากรู้จัก อยากเข้าใกล้

มีคุณค่าหลาย

ใครๆ ใฝ่หา

คนซื่อถือสัจจะ

มีคุณค่า น่าเคารพ ยกย่อง

เกียรติคุณงาม อร่องฉ่อง

คนทั้งผอง เทอดไท้

ซื่อกินไม่หมด

ชีวิตรุ่งโรจน์ ตลอด

ไม่อิดออด

อุทิศตน ต่อคนทั้งหลาย

เป็นคนจริง

ไม่ทอดทิ้ง ยามมีภัย

คนทั้งหลาย จึงไว้ใจ

จึงเทอดไท้ ไว้เหนือเศียร

;;;;;;;;;;

สติมีอุปการะ (ยิ่งกว่าพ่อแม่):: ไม่เคยเชือนแช เหมือนแม่ไก่ เอาใจใส่ ลูกน้อย

สติมีอุปการะ
(ยิ่งกว่าพ่อแม่)

สติ มีอุปการะ

ยิ่งกว่า พ่อแม่

ไม่เคยเชือนแช

เหมือนแม่ไก่ เอาใจใส่ ลูกน้อย

เรียกกุ๊กๆ

ให้ลูกเข้าใกล้ ไม่ปล่อย

โอบอุ้มลูกน้อย

ไว้ในอก กกกอดพ้นภัย

น่าเสียดาย

คนไม่เอาใจใส่ สติ

อุตส่าห์ เตือนกี่ทีๆ

มิมีฟัง

แต่สติ ไม่เคยหน่าย

เตือนไป ไม่หยุดยั้ง

ปวดเมื่อยซวนเซซัง

สติไม่เคยห่าง อยู่ข้างกาย

อะไรๆสติก็สู้ได้

ยกไว้แต่สุรา ยาเสพติด

เสพเพียงนิด

หรือแม้คิด ก็ยังไม่ได้

ถ้ารักตน ให้รักสติ

อย่าริ เฉียดเข้าไป

ที่ๆใด มีสุรา

ที่นั่นหนา อันตราย

สติดี มหาสติ

มีอุปการะคุณมาก

เมื่อจิตประจักษ์
ดวงปฐมมรรค สว่างไสว

ความสมปราถนา

จะมีมา สะบายๆ

เป็นคนใหม่
เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

กลางของกลางเรื่อยไป

หมดอาลัย ในโลก

หมดทุกข์หมดโศก
มีโชค มีชัย

เป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียว ของสรรพสัตว์

มีคุณนัก มิอาจจัก ประมาณได้

สติสัมปชัญญะ มีคุณค่ายิ่งใหญ่
อุปการะให้ ได้ถึงพระนิพพาน

;;;;;;;;;;