วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ทาน (ปานหญ้าปากคอก) ทาน เปรียบปาน หญ้าปากคอก วัวควายไม่สนใจดอก แม้งามหลาย มีใจหมายมุ่ง อยู่ในทุ่ง ลนลานไป เหมือนกับคนทั้งหลาย ไม่สนใจ ในทาน

ทาน
(ปานหญ้าปากคอก)


 ทาน เปรียบปาน หญ้าปากคอก
วัวควายไม่สนใจดอก แม้งามหลาย
มีใจหมายมุ่ง อยู่ในทุ่ง ลนลานไป
เหมือนกับคนทั้งหลาย ไม่สนใจ ในทาน

ทุ่งของผู้คน ก็คือมีแต่สน ทำมาหากิน
หาแล้วหา กินแล้วถ่าย คล้ายๆกัน
หารู้ไม่ ชีวิต ต้องอาศัย ไม่เท่านั้น
สุขสมปราถนาเหมือนฝัน ถ้าท่านรู้จักทาน

ให้สิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น แม่นมั่นไม่สงสัย
ปลูกอะไร ก็ได้สิ่งนั้น มันธรรมดา
 ปลูกข้าวได้ข้าว 
ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา 
กฎแห่งกรรม กฎแห่งธรรมดา ธรรมชาติ

  ทานมีคุณหลาย พระพุทธองค์ไท้ ตรัสไว้ว่า
บุคคลผู้ให้อาหาร นั้นหนา ดุจดังว่าให้กำลัง
ให้ผ้า ชื่อว่าให้วรรณะ หรือผิวพรรณ หรือ ชั้น
ให้ยานพาหนะนั้น ชื่อว่าให้ความสุข

ให้ประทีปโคมไฟ ได้ชื่อว่า ให้จักษุ
ให้ที่พักอาศัยที่อยู่ ได้ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ผู้พร่ำสอนธรรม ได้ชื่อว่าให้หนทาง
เป็นทางสว่าง ทางอริยะ

ดังนั้น ทานขาดไม่ได้ ทำให้สมบูรณ์พูนสุข
พ้นสรรพทุกข์ มีแต่สุขสมปราถนา
ครอบครัวอยู่เย็น หมู่ญาติเริงร่า
ชาวประชา สามัคคี กินดีอยู่ดีมีสุข

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

บัณฑิตมีปัญญา (รู้จักหาเนื้อนาบุญ) บัณฑิต คือคนดี มีปัญญา รู้จักแสวงหา เนื้อนาบุญ ผู้มีศีล ประพฤติพรหมจรรย์ ปฎิบัติธรรมเป็นอาจิน ชีวิตทั้งสิ้น มุ่งมั่น ทำพระนิพพานให้แจ้ง

บัณฑิตมีปัญญา
(รู้จักหาเนื้อนาบุญ)

บัณฑิต คือคนดี มีปัญญา
รู้จักแสวงหา เนื้อนาบุญ ผู้มีศีล
 ประพฤติพรหมจรรย์ ปฎิบัติธรรมเป็นอาจิน
ชีวิตทั้งสิ้น มุ่งมั่น ทำพระนิพพานให้แจ้ง

 และเร่งลุ้น แสวงบุญ สร้างบารมี
ด้วยวัฏฏสงสารนี้ มีอันตรายมาก
มิฉนั้น ได้ชื่อว่าขาดสติสัมปชัญญะ ประมาท
ตกเป็นทาส ใต้บาท พญามาร


ผู้แสวงบุญสร้างบารมี จะมีบุญวาสนา
ไหลมา..หล่อเลี้ยงชีวา ไม่ขาดสาย
และร่างกายมนุษย์นี้เท่านั้น ทำได้
ดังนั้น ช้าไม่ได้ ก่อนที่จะแก่ตายก่อน

การได้อัตตภาพมนุษย์ สุดแสนยาก
ยากมากๆ สักเท่าเขาวัว
เมื่อเทียบกับ ขนทั้งตัว
ชีวิตในวัฏฏะน่ากลัว..ยิ่งนัก สุดจักบรรยาย

และอายุก็น้อยนัก สักเท่าฟองน้ำฝนฟองหนึ่ง
เมื่อเทียบถึง..ฝนทั้งหมด ที่ตกในจักรวาล
ตกปุ๊ปหายวับ ดับทันที สั้นขนาดนั้น
ชีวิตแสนสั้น เดี๋ยววันเดียวคืน

ดังนั้นพระสงฆ์ เป็นองค์หนึ่ง ในพระรัตนตรัย
ที่สัตว์ทั้งหลาย ใช้เป็นที่พึ่งได้ ในวัฏฏสงสาร
แม้เพียงใช้ผ้าเหลืองพันข้อมือไว้ ในปลายศาสนานั้น
ก็มีคุณอนันต์ เป็นเนื้อนาบุญ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตไม่อาจดูเบา (กรรมของเจ้า เหมือนเงาตามตัว) เพื่อกินอยู่ของตน คน จึงวุ่นวายหาทรัพย์ อย่างน้ำไหลไฟดับ ถึงกับทิ้งดี ยิ่งรวยก็ยิ่งอยากรวยใหญ่ ไม่สนใจศักดิ์ศรี ไม่คำนึงถึงชีวี ว่าเรานี้ เกิดมาทำอะไร

ชีวิตไม่อาจดูเบา
(กรรมของเจ้า เหมือนเงาตามตัว)
เพื่อกินอยู่ หมู่คนทั้งหลาย วุ่นวายหาทรัพย์
อย่างน้ำไหลไฟดับ ถึงกับทิ้งดี
ยิ่งรวยก็ยิ่งอยากรวยใหญ่ ไม่สนใจศักดิ์ศรี
  ไม่คำนึงถึงชีวี ว่าเรานี้ เกิดมาทำอะไร
คนไม่รู้ว่า บุญนั่นหละ นำทรัพย์มาให้
เป็นบุญวาสนา ทะยอยไหล ส่งให้ผล
เป็นความดี ที่เราทำไว้ ในกาลโพ้น
ได้ส่งผล เมื่อถึงขีดถึงคราว
 ทรัพย์ไม่ใช่สมบัติ เป็นวิบัติ ถ้าขาดดี
เป็นทรัพย์อัปปรี ที่ยิ่งกว่าเชื้อโรคร้าย
ตกนรกหมกไหม้ ทุกข์หลาย ยิ่งกว่าตาย
เมื่อกรรมเบาบางลงไป เกิดใหม่เป็นเปรต 
เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็สุดรำเค็ญ 
ช่างยากเข็ญ ข้นแค้น แสนสมเพท
 อดมื้อกินมื้อ มือถือกะลา จงสังเกต
เป็นกรรมกิเลส ตระหนี่ส่งผล ดลบันดาล
 ทั้งคนดี หรือคนชั่วช้า ล้วนหาเงินได้
ด้วยบุญวาสนาส่งให้ ของใครของท่าน
ส่วนการกระทำใดๆ ในปัจจุบัน
ขี้เกียจหรือขยัน ผลนั้นยังไม่ออก
คนชั่วได้ดี จึงมีถมไป
ดีหรือร้าย คนทั้งหลายสับสน
ทำดีไดัดี ทำชั่วได้ชั่ว จริงหรือ ชักกังวล
ความตระหนี่ ทำให้จน จริงหรือ
 คนกิเลสหนา หาทรัพย์ เลี้ยงชีวิต
สุดอำมหิต เบียดเบียนล้างผลาญ
เป็นมิจฉาทิฏฐิ อวดดี ดื้อรั้น
น่าสงสาร น่าเวทนา สรรพสัตว์
มิจฉาทิฏฐิ นี้ร้ายสุดสุด พระพุทธองค์ตรัส
อย่างแจ่มชัด ว่าไม่เห็นโทษอื่นใดเท่า
ต้นเหตุใหญ่ คือผัสสะ กับสิ่งภายนอกกายเรา
ด้วยอินทรีย์ห้า ตัวเก่า ของเราเอง
ดังนั้นจืงต้องสำรวม ตาหูจมูกลิ้น และกายสัมผัส
พูดให้ชัด มีสติสัมปชัญญะ อยู่ในกาย
แล้ว วิตกวิจาร หรือ ตรึกตรอง ประคองใจไว้
จำเป็นหลาย ถ้าใครอยากได้ สุขสมปราถนา
ความสุข กับสนุกสนาน คนละอย่าง
ไม่ใช่ดัง กินเหล้าเมามัน นั้น มันสนุก
เหมือนเกาตุ่มคัน มันดี คลายทุกข์ 
เป็นความสนุก ปนตัณหา พาฉิบหาย
สุจทางใจ เปรียบได้ คล้ายพระอาทิตย์
สุขทางเนื้อหนัง น้อยนิด ปานหิงห้อย
สุขทางใจ ทรัพย์ไหลมา ไม่ถอย
ไม่ใช่สุขลอยๆ ลมๆแล้งๆ 
 สุขทางใจ หรือทางธรรม มีน้ำใจ
เปี่ยมเมตตากรุณา แผ่ได้ ไปทั่วทิศ
เราก็สุข เขาก็สุข ทุกชีวิต
สามัคคี ร่วมจิต เป็นปึกแผ่น
สุขทางใจ เรียกได้ว่า สุขสันโดษ โทษไม่มี 
พอใจ ในสิ่งที่ ตนมีตนเป็น ตนควร
มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ดีล้วนๆ
อันเป็นขบวน ธรรม นำชัยชนะและสำเร็จ
คนธรรมดา ดิ้นรนหา ความพอใจ
แต่ไม่เคยได้ เหมือนไล่ ตามเงา
ได้มาแล้วคิดว่าใช่ แต่ได้ใหม่ ลืมเก่า
นี้คือเรา เหล่าคน กิเลสหนา
ตราบใด ถ้ายังไม่ รู้จักบุญ
ชีวิตจะสูญ..เปล่า น่าเศร้าใจ
ชีวิตมีแต่ทุกข์ เวียนว่ายไป
ไม่มีต้นปลาย น้ำตาไหล อนัตกาล
 
;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

สวดมนต์ผูกใจ (พ้นภัย ทั้งตนและคนอื่น) สวดมนต์ บูชา พระรัตนตรัย เป็นการ ผูกใจ ไว้ที่สูง พ้นทุกข์โศก ใจเป็นสมถะ สงบระงับ ดับกระแสโลก ใจถูกยก ขึ้นสู่สูง มุ่งสู่เส้นทางสมปราถนา

สวดมนต์ผูกใจ
(พ้นภัย ทั้งตนและคนอื่น)
สวดมนต์ บูชา พระรัตนตรัย
เป็นการ ผูกใจ ไว้ที่สูง พ้นทุกข์โศก
ใจเป็นสมถะ สงบระงับ ดับกระแสโลก
ใจถูกยก ขึ้นสู่สูง มุ่งสู่เส้นทางสมปราถนา
บูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมหามงคล
บันดาลดล ความสุข ความสดใส
 บูชาถูกเนื้อนา ได้มหาบุญใหญ่
พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียวในวัฏฏะ
สวดมนต์ เปล่งเสียง สำเนียงก้อง
 กระชับหน้าท้อง ให้เกร็ง แล้วเปล่งเสียง
อวัยวะน้อยใหญ่ ใช้อย่าง พร้อมเพียง
เปล่งเสียง สวดมนต์ พ้นออกมา
อวัยวะใด ใช้ทำ ความดี
 จะมี ความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง
 สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่ขัดข้อง
ไม่หมอง อะหล่องฉ่อง งดงาม 
เสียง แซกซึมได้ ไปในบรรยากาศ
ความมืดมัว ถูกขจัด หายหม่นหมอง
 สรรพสัตว์ สรรพสิ่ง พิสุทธิ์เรืองรอง
บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไปด้วยกัน
เทวดาอารักษ์ ชอบใจนัก อนุโมทนา
ลงปกปักรักษา ให้สมปราถนา อยู่เย็น
ดินฟ้าอากาศ ดีสุดคาด นี้ช่างเป็น
โรคภัยไข้เจ็บ ความยากเข็ญ มลาย
สิ่งทั้งหลาย ภายนอก อยู่ที่เรา
กระเทือนดาว เพียงปลิดเอา ใบไม้
อุปสรรค จงรู้จัก ไม่ใช่อะไร
กรรมเราไซร้ ทำไว้ สมแก่กรรม
สวดมนต์ ชำระกาย วาจาใจ
กรรมน้อยใหญ่ ชะลอไหล เข้ามา
สงเคราะห์ สรรพสัตว์ ธรรมชาติ แจ่มจ้า
นี่แหละหนา คุณสวดมนต์ ล้นพ้นนัก

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

กตัญญูคู่กับปัญญา (และศรัทธาในบุญ) กตัญญู คุณธรรมของผู้ เป็นคนดี สัตบุรุษ ผู้เยี่ยมยุทธ ที่สุดของ บัณฑิตนักปราชญ์ มหาชนเปรมปรี มีคนดี มีความสามารถ หมู่มารขยาด ไม่บังอาจ รังแก

กตัญญูคู่กับปัญญา
(และศรัทธาในบุญ)
กตัญญู คุณธรรมของผู้ เป็นคนดี สัตบุรุษ
ผู้เยี่ยมยุทธ ที่สุดของ บัณฑิตนักปราชญ์
มหาชนเปรมปรี มีคนดี มีความสามารถ
หมู่มารขยาด ไม่บังอาจ รังแก
สัตบุรษกตัญญู ผู้รู้จัก ฝักใฝ่ฝึกตน
เว้นบาปอกุศล รักษาตน ให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
เดินตามทางสายกลาง เป็นครรลอง
ประคอง ชีวิตสมถะ ประหยัดสุดประโยชน์สูง
สัตบุรุษกตัญญู ผู้เป็นกัลยาณมิตร
สั่งสอนมหาชนทุกทิศ ให้บริสุทธิ์ตาม
กัลยาณมิตรอยู่ที่ใด เหมือนมีอาทิตย์อุทัยงาม
สว่างล้ำ นำพา ประพฤติพรหมจรรย์
สัตบุรุษกตัญญู ผู้มีสังคหะ พาอยู่เย็น
ไม่ต้องเคี่ยวเข็น เป็นไปเอง ด้วยบุญ
 เรื่องส่วนตนวางไว้ เรื่องส่วนใหญ่ เร่งลุ้น
ชาวประชาอบอุ่น สุขี ด้วยมีบัณฑิตกตัญญู
กตัญญู เครื่องหมายของผู้มีปัญญา
มีดวงจิตสว่างจ้า อยู่ในตน
มีความสุข ทั้งความเมตตา เหลือล้น
จึงเป็นคน มักน้อยสันโดษ
ส่วนผู้ฉลาด ขาดเมตตา จะกะล่อน
ปัญญาอ่อน แม้ใจสว่าง แต่ไม่อยู่กลางตัว
สติขาด ฉลาด แต่ไม่เฉลียว ยังเมามัว
ลดเลี้ยว หาประโยชน์เข้าตัว ไม่กลัวบาป
 ปัญญาเกิดได้ จากการเอาชนะใจตน
เป็นผู้เก่งล้น สามารถทน คนอื่นได้
จึงเป็นที่เคารพ บูชา รักใคร่
ทุกคนกราบไหว้ เทิดไท้ เหนือเศียร
รักพ่อแม่ ไม่เพียงแต่ ป้อนข้าว
ท่านผู้เฒ่า อยากเห็นเจ้า เป็นคนดี
ดำรงวงศ์ตระกูล เพิ่มพูน ศักดิ์ศรี
เป็นผู้นำพามหาชนทำดี มีสุขทุกผู้คน
พุทธศาสนา ปัญญา เป็นเอก
 กตัญญู เฉกเช่น เอกลักษณ์
ตนเป็นที่พึ่งของตน ทนทำดีให้ประจัก
สั่งสมบุญล้นทลัก แล้วชีวิตจัก พลิกผัน

 ;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ครอบครัวอบอุ่น (ต้องอยู่ในบุญเท่านั้น) ครอบครัวไม่มีปัญหา หรือว่าอบอุ่น ต้องอยู่ในบุญ จึงอบอุ่นได้ เป็นมงคลชีวิต มีจิตร่าเริง บันเทิงใจ ชีวิตสว่างไสว สุขสมปราถนา ทุกประการ

ครอบครัวอบอุ่น
(ต้องอยู่ในบุญเท่านั้น)
ครอบครัวไม่มีปัญหา หรือว่าอบอุ่น
ต้องอยู่ในบุญ จึงอบอุ่นได้
เป็นมงคลชีวิต มีจิตร่าเริง บันเทิงใจ
ชีวิตสว่างไสว สุขสมปราถนา ทุกประการ
บำรุงบิดามารดา ต้องมาก่อน
ย่อมแน่อน ได้บุญใหญ่ หัวใจของชีวิต
ทำบุญ กับพระอรหันต์ในบ้าน ปานพระอาทิตย์
คุณธรรมกตัญญู ให้คุณให้โทษชนิด เหมือนไฟ
ผู้บำรุงบิดามารดา ได้ชื่อว่าบัณฑิต
ดวงจิต มีปัญญา แก้วสารพัดนึก
ก็จะสมปราถนา เพียงว่า ตรองตรึก
 กตัญญู คุณธรรมล้ำลึก มีอานุภาพ 
 คนกตัญญู ผู้ทำตนบริสุทธิ์ ประพฤติพรหมจรรย์
ปิดนรก เปิดสวรรค์ ให้บิดามารดา
เป็นอภิชาตบุตร เกิดมาค้ำ เดินนำหน้า
นำพา หมู่ญาติและมหาชน สู่ถนนเจริญ
ประการที่สอง มีบุตร ต้องเลี้ยงดู
ทั้งอุ้มชู ทั้งพาสู่ทางถูก สุคติ
ประพฤติธรรม นำทาง สุดดี
บุตราบุตรี จึงจะเป็นคนดี มีศีลธรรม
 เลี้ยงดูบุตร ดีสุด ปลูกนิสัย
 ฝึกการให้ สร้างนิสัยโอบอ้อมอารี
เป็นที่รักใคร่ของหมู่ชน ประชาชี
พาแสวงบุญสร้างบารมี สุดดี มาที่วัด
มีความเมตตาบุตร พูดจาอ่อนหวาน
สุดสำคัญ นำพาชีวิต สู่ทิศเจริญ
อุปสรรคและปัญหา ที่เคยมีมา จะเก้อเขิน
ความเจริญ มาสู่ชีวิต อย่างคิดไม่ถึง
  ประการที่สาม ทำการสงเคราะห์คู่ครอง
ดูแลคุ้มครอง ไม่ให้ขัดข้องหมองใจ
พาอยู่เย็น เป็นสุขล้ำ ทั้งใจกาย
จวบมลาย เคียงคู่ อยู่เย็น
สังคหวัตถุ๔ ที่มี นำมาใช้
มีน้ำใจ  แกล้วกล้า วาจาไพเราะ
 ไม่นิ่งดูดาย ไม่รอให้ขอ
 วางตัวพอเหมาะ พอสม สม่ำเสมอ

ประการที่สี่ งานไม่คั่งค้าง ทุกอย่าง ลงตัว
ครอบครัว อบอุ่น พูนสุข
หนีห่าง ทางเพลิน อบายมุข
 มีสันติสุข บนทางสายกลาง ห่างอกุศล
ครอบครัวดี นี้เป็น มงคล
 มีผล ต่อความสุข ความเจริญ
ด้วยความรัก ปีตินัก ไม่หลงเดิน
ไม่ขาดสติหลงเพลิน หลงไหล ในโลกีย์

;;;;;;;;;;