รักหมู่ญาติ
(ต้องพาเข้าวัดขจัดตัณหา)
ออกจากตัณหา ยากนักหนา เกินบรรยาย
อาจพูดได้ ว่ายาก ยิ่งกว่ายาก
แต่ต้องละให้ได้ ถ้าไม่ได้ ก็จะลำบากชีวิตจมปลัก ในอบาย
บัณฑิตผู้มีปัญญา จึงต้องละหมู่ญาติ
ด้วยไม่ประมาท จึงเข้าวัด บำเพ็ญตะบะ
ออกบวช บำเพ็ญวิปัสสนาธุระ
เพื่อสงเคราะห์ ญาติกา และมหาชน
การบวช ไม่เหมือนที่ใครๆเข้าใจ
ไม่ใช่ตัดช่องน้อยไป แต่พอตัว
แต่สงเคราะห์หมู่ญาติ ที่เป็นทาส เมามัว
ทำตัว..ให้เป็นที่ศรัทธา แล้วพาเดินทางดี
เหมือนช่วยคน ให้พ้น ปลักโคลนดูด
ดีสุด คือยื่นไม้ ไปให้ถึง
ศรัทธา เหมือนไม้ ให้เป็นที่พึ่ง
แล้วจึงดึง ขึ้นมา จากตัณหาอุปาทาน
ขจัดตัณหาในตนได้ ใช่ คนกตัญญู
คือเป็นผู้ รักหมู่ญาติและสังคม
เป็นที่รวมศรัทธา พามหาชน พ้นระทม
ละตัณหาได้ ไม่ขาดเทวดาดูแล
ตามแหนแห่ ดูแล ให้สมประสงค์
เป็นธรรมชาติ น่าประหลาด คนงง
ดังนั้นผู้สูงส่ง มีปัญญา ละตัณหา เป็นชีวิต
ละตัณหายากหลาย แม้เหาะได้ ยังละไม่ตก
เหมือนเทวทัต ยังลงนรก อยู่เลย
ยังหลงโลก ลาภยศ สรรเสริญ เฉย
จึงประมาทไม่ได้เลย ชีวิต
บรรลุโสดาบัน จึงจะรู้ทัน ตัณหา
เข้าธรรมกายา พระ โสดาบัน
สรรพสัตว์ ไม่อาจหนี วัฏฏสงสาร
รู้ไม่ทัน ตัณหา ทยานอยาก
คุณวิเศษทั้งหลาย ในที่อื่น
มีดาดดื่น อย่าตื่นตกใจ
เก่งนักหนา แต่สู้ตัณหา ไม่ได้
ธรรมกาย เท่านั้นใชร้ สู้มันได้ ตัณหา
ชาวโลกเมามัว อวดตัว อวดเก่ง
อวดเบ่ง เองอ้า เป็นปลา หลงเหยื่อ
เก่งต่อเก่ง เจอกัน ฟัดกัน ไม่เหลือ
แพ้หรือชนะ เป็นเบือ ในนรก
สรรพสัตว์ยากมาก จักหนี ตัณหา
เพียงว่า เป็นมนุษย์ ยากสุดแล้ว
ชีวิต แทบหมดสิทธิ์ คลาดแคล้ว
เดินเป็นแถว แน่แล้ว สู่อบาย
;;;;;;;;;;