วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

FELLOWSHIP (the core of life):: Fellowship, is the core of perception and the habit/the refuge, of happiness and success.

FELLOWSHIP
(the core of life)

Fellowship,
is the core of
perception,
the gate of prosperity.
Three persons
 surrounded us,
 affects perception, are
the bad/the good/
and the exemplar.
 Keep distance from the bad.
Keep close to the good.
Keep follow up
the right exemplar.
The bad is
the person who
think bad/speak bad/
and do bad,
and leads to darkness.
Badness proofed
could not done
only look and see.
Distance proofs
horse,
period proofs person,
is the olden days words.
The most bad one
is not the other,
but the self.
So, expend the utmost
 to eradicate bad habit.
The universal goodness
are:
cleanliness, tidiness,
politeness, punctuality,
and meditation.
Gratitude is
the symbol of
sublime person,
Buddha's words.
Grateful person
is naturally self purified
by self discipline
and meditation.


;;;;;;;;;;

ใจนิ่งหยุด (ที่สุดบุญ) :: ใจนิ่งใจหยุด เป็นที่สุดบุญ ทำให้คุ้น ให้เคย สะบายเลย ทุกภพชาติ

ใจนิ่งหยุด
(ที่สุดบุญ)

ใจนิ่งใจหยุด
เป็นที่สุดบุญ
ทำให้คุ้น
ให้เคย สะบายเลย ทุกภพชาติ

สุขสมปราถนา
มาง่ายๆ ไกลเกินคิด
นี้คือการบำเพ็ญจิต
ประพฤติธรรม

ปัญหาของชีวิต
ฤทธิ์กิเลส เกาะที่ใจ
คิดแล้ว ไม่ได้
กิเลสร้าย ขัดขวาง

บุญเท่านั้นชนะกิเลส
ที่สร้างเหตุ ปัญหา
สมาธิ ก่อเกิดปัญญา
กิเลสะ อยู่ไม่ได้
ความมืดหาย
ความสว่างใส แผ่
 อานุภาพบุญ เที่ยงแท้
กิเลสพ่ายแพ้ แน่นอน

 สมาธิเป็นยาฉีดชงัด
มีฤทธิ์ขจัด กิเลสหลง
ศีลรักษาได้มั่นคง
ขจัดโกรธลงได้ คล้ายยากิน

ทานเหมือนยาทา
    กิเลสโลภะ สิ้น
ทานศีลภาวนา เป็นอาจิน
มีอยู่มีกิน สะบาย

ทานศีลภาวนา
ทางสายกลาง ทางแห่งการให้
ให้ของกินของใช้
ให้สิ่งนอกกาย เรียกว่าทาน

ให้เลือดเนื้อ ให้อภัย
เปรียบได้ เป็นศีลนั้น
 อุทิศกายใจ ให้ชีวัน
เปรียบกัน ได้กับ ภาวนา

อนึ่ง ทาน ทำใจให้สันโดษ
ศีลหายโกรธ ใจใส
ภาวนาไม่หลง จิตปลงเบาสะบาย
ทั้งสามอย่าง ใช่ ทางแห่งความดี

นี้เป็นสาระ
ที่ได้เกิดมา ในโลกนี้
จงเก็บเกี่ยวให้เต็มที่
สมกับที่ เกิดมา

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

สัจจะ (คนเหนือคน) :: สัจจะ ธรรมะของคนเหนือคน มีอุดมการณ์เลิศล้น ช่วยเหลือคน และสรรพสัตว์

สัจจะ
(คนเหนือคน)

สัจจะ
ธรรมะของคนเหนือคน
มีอุดมการณ์เลิศล้น
ช่วยเหลือคน และสรรพสัตว์

ทำดีทั้งวันนี้วันหน้า
ตลอดเวลา ต่อหน้าลับหลัง
เอาชีวิตเดิมพัน ตั้ง
ไม่คืนหลัง ไม่ได้ตายเหอะ

จริงจังจริงใจจริงแท้
ไม่มีข้อแม้ เงื่อนไข
ไม่ว่าเป็นใคร
ล้วนญาติทั้งหลาย ของเรา

คนสัจจะ มีทมะ ข่มใจตน
รู้จักฝึกฝน ข่มอารมณ์
ควบคุมอายตนะหก ให้เหมาะสม
ไม่ปล่อย ลอยตามลมกิเลส

คนสัจจะ มีขันติ
สู้เต็มที่ กับสิ่งยั่วยวน เนิ่นช้า
 ความมัวเมา ความเพลิน กิเลสะ
เลิกละ ทางโลกๆ

คนสัจจะแท้ ได้แก่ จาคะ
สละอารมณ์ได้ ใจนิ่ง
นิ่งในนิ่ง ดิ่ง
สุขใจจริงๆ จาคะ

เป็นสุขภายใน
ที่ทุกคนฝันใฝ่หา
มาพร้อมกับความสมปราถนา
ทุกประการ

มีสุขภายใน
คนยิ่งใหญ่ เสียสละ
เป็นที่พึ่ง มวลประชา
ยังกะ พระเจ้าจักรพรรดิ์

สุขภายในไม่มีอั้น
เป็นอนันต์ อจินไตย
ตามทางสายกลาง สว่างไสว
มีพระธรรมกาย พระรัตนตรัยในตัว

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562

รู้จักตน (จึงพ้นทุกข์):: อัตตัญญุตา รู้จักตน จึงพ้นทุกข์ ไม่รักสนุก สุขภายใน ยิ่งใหญ่กว่า

รู้จักตน
(จึงพ้นทุกข์)

อัตตัญญุตา
รู้จักตน จึงพ้นทุกข์
ไม่รักสนุก
 สุขภายใน ยิ่งใหญ่กว่า

เห็นกายภายนอกเป็นบ้าน
หรือไม่เช่นนั้น ก็เสื้อผ้า
จึงปล่อยวางกายา
และโลกา ไม่อาลัย

มีก็สักแต่มี
ทำหน้าที่ ให้ดีที่สุด
สั่งสมบุญอุตลุด
รู้จุดประสงค์ ของการเกิด

มีหัวใจกัลยาณมิตร
ทุ่มเทจิต เทิด
พระคุณอันประเสริฐ
พระรัตนตรัย พระธรรมกายในตัว

ถ้าไม่เอาใจไว้ในตัว
มาเมามัว อยู่ภายนอก
ไม่รู้จักดอก.. ตน
รู้จักแต่ คน อื่น

เห็นแต่ข้อเสียของเขา
ส่วนของเรา ดีขึ้น
ใจจึงไม่ตื่น
หน้าระรื่น ยังเล่นหัว

เมื่อเอาใจไว้ในตัว
ใจจะหายมัว แล้วหยุด
ความสุขและเมตตาผุด
จึงรู้จักได้ นิสัยตน

เกิดหิริโอตัปปะ
และมีมานะ ฝึกฝน
ไม่เกียจคร้านขี้บ่น
กลายเป็นคน ขยัน

จาคะ
คือสละละวาง อนัตตา
ปลงสังขารา
เกิดเมตตา ขึ้นทันใด

รู้จักอัตตา
จึงรู้จักสละอนัตตา ที่ไม่ใช่ตนได้
นี้เป็นเรื่องใหญ่
ใครเข้าใจได้ ไม่ใช่ธรรมดา

;;;;;;;;;;

แกล้วกล้า (นำพามหาชนพ้นอบาย):: แปลกนักหนา ตัณหา ทะยานอยาก ทำให้เราจมปลัก อยู่กับความทุกข์

แกล้วกล้า
(นำพามหาชนพ้นอบาย)

แปลกนักหนา
ตัณหา ทะยานอยาก
ทำให้เราจมปลัก
อยู่กับความทุกข์

ล่อเราด้วยความสนุก
คิดว่าสุข เพลิดเพลินไป
ความอยากมากหลาย เหลือล้น
 แลกกับความตายของตนได้

เห็นทุกข์ก่อนน๊ะ
ตัณหา จึงจะเห็น
เห็นทุกข์ไม่ได้ ถ้าไม่อยู่เย็น
จึงต้องเน้น อินทรีย์สังวร

คือควบคุมอารมณ์
ที่ขย่ม ทางอายตนะหก ก่อน
ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไม่รนร้อน
พระท่านสอน ให้ใจเย็นๆ

คนทั่วไปทุกข์กายใจ
คล้าย ถูกแดดเผา
ไม่ทำความดี เป็นร่มเงา
ด้วยเพราะเขลา ไม่เห็นเงาธรรม

อยู่ในร่มธรรม
จึงจำเป็น
ความร้อนจากทุกข์เข็ญ
เบาบาง

เห็นตัณหา
ตัวกาลี ที่ก่อทุกข์
เห็นความไร้สาระ ที่พาสนุก
จิตถูกปลุกให้ตื่น

 การเลือกคบเพื่อนดี
พาไปในที่สงบ
ได้ยินได้ฟัง ครบ
จึงน้อมนบเป็น เมื่อเห็นพระ

เกิดปัญญา
เกิดนิพพิทา เบื่อหน่าย
กำหนัดจึงคลาย
ใช่ วิราคะ

เดินทางธรรม
ตามทาง พระศาสดา
แกล้วกล้า เสียสละ
นำพามหาชน พ้นอบาย

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2562

บาปศักดิ์สิทธิ์ (ฤทธิ์ของมาร):: ขอความเมตาได้ ต้องให้ ไปก่อน จะอ้อนวอนอย่างไร ก็ไม่ได้

บาปศักดิ์สิทธิ์
(ฤทธิ์ของมาร)

ขอความเมตาได้
ต้องให้ ไปก่อน
จะอ้อนวอนอย่างไร
ก็ไม่ได้
เหมือนน้ำทะเล
ให้ฝน ตกชื่นใจ
น้ำจึงไหล
ลงทะเลได้ ก็คล้ายกัน
ถ้าไม่ให้ ก็ไม่ได้
เป็นไปตาม กฎแห่งกรรม
กฎแห่งการกระทำ
กฎของไอ้ดำ มารร้าย
 
วิบาก ผลกรรมเที่ยงแท้
เพียงแต่ ขยายผล
เกินคน
คิดได้
ทำบุญนิดเดียว
แต่เกี่ยวผลได้ มากมาย
ทำบาป บาปยิ่งขยาย
มากมาย กว่าหลายเท่า
 การสวดอ้อนวอน
ที่สอน ในที่อื่นๆนั้น
เห็นอภินิหารของมาร
 ก็พากันแตกตื่น 
เป็นบาปศักดิ์สิทธิ์
อันเป็นฤทธิ์ ของมาร
หลอกล่อคนให้ดักดาน
ให้อยู่กับมารตลอดไป
บาปศักดิ์สิทธิ์
มีฤทธิ์มาก แต่หากพาล
ให้ทรัพย์ พรัอมกับ สนุกสนาน
ถูกมาร ชักพาไป ไม่รู้ตัว
เมื่อหมดเวลา
ไม่อาจทำหน้าที่ ก็เชือด
แล้วผลักลงนรกเดือด
เลือดไหลนอง

;;;;;;;;;;